Mazda Skyactiv-X เครื่องยนต์เบนซินจุดระเบิดด้วยการบีบอัดอากาศครั้งแรกของโลก
มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศวิสัยทัศน์ระยะยาวสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างยั่งยืนภายใต้โครงการ Sustainable Zoom-Zoom 2030 ที่จะเกิดขึ้นในอีก 13 ปีข้างหน้า ในฐานะของการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีใหม่นี้ มาสด้า เตรียมเปิดตัวเครื่องยนต์เจเนอเรชั่นใหม่ที่เรียกว่า Skyactiv-X ในปี 2019 ซึ่งจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินที่ใช้การจุดระเบิดด้วยการอัดอากาศ
Sustainable Zoom-Zoom 2030
แผนพัฒนาสู่ความยั่งยืน เพื่อยกระดับชีวิตด้วยการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามนโยบาย Well-to-Wheel ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป
โดยจะเริ่มเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีอื่นๆ เกี่ยวกับการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าในภูมิภาคที่ใช้พลังงานสะอาด และเทคโนโลยีเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนถนนรวมถึงทำการทดสอบเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ Mazda Co-Pilot 2 ในปี 2020 เพื่อติดตั้งเป็นระบบมาตรฐานสำหรับรถทุกรุ่นในปี 2025
Skyactiv-X เครื่องยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ที่สุดของเทคโนโลยี
เครื่องยนต์เบนซินเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของโลกที่สามารถจุดระเบิดได้โดยการอัดอากาศ โดยการเผาไหม้เกิดขึ้นจากการจุดระเบิดของอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผสมกันในขณะที่ลูกสูบเคลื่อนที่ในจังหวะของการอัด วิธีการเผาไหม้นี้เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งเรียกว่า Spark Controlled Compression Ignition สำหรับเครื่องยนต์นี้จะช่วยแก้ปัญหา 2 เรื่อง คือ การเพิ่มพื้นที่เพื่อให้เกิดการจุดระเบิดในจังหวะการอัดของลูกสูบ และการพัฒนาการจุดระเบิดที่สมบูรณ์แบบนี้ได้รวมเอาข้อดีของการจุดระเบิดด้วยการอัดอากาศและการจุดระเบิดด้วยประกายการเผาไหม้เข้าไว้ด้วยกัน
เครื่องยนต์เจเนอเรชั่นนี้เป็นการรวมเอาข้อดีของเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลเข้าไว้ด้วยกัน จากการทดสอบเครื่องยนต์ Skyactiv-X ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองของเครื่องยนต์และการประหยัดน้ำมัน เพิ่มแรงบิด 10 - 30 % เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ Skyactiv-G ในปัจจุบัน ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์มากขึ้น 20 - 30 % เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ Skyactiv-G ในปัจจุบัน หรือเพิ่มขึ้น 34-45% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เบนซินของมาสด้าในปี 2008 ที่มีขนาดเครื่องยนต์เท่ากัน และยังเทียบเท่าหรือสูงกว่าเครื่องยนต์ Skyactiv-D ในเรื่องของประสิทธิภาพและการประหยัดน้ำมัน
และนี่คือย่างก้าวสำคัญของ มาสด้า เพื่อให้ทุกคนมีความสุขในการขับขี่ทั้งในวันนี้และในอนาคต
ขอบคุณรูปภาพจาก
media.mazda.com