ทดสอบ Nissan Note ใหม่ ตอบโจทย์ทั้งชีวิตเมืองและท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 60 ที่ผ่านมา
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมทดสอบ
Nissan Note ใหม่ (นิสสัน โน้ต) โดยเชิญสื่อมวลชนรวมทั้งเช็คราคา.คอม ร่วมทดลองขับ Note ใหม่ เส้นทาง กรุงเทพ-อัมพวา-กรุงเทพ โดยเน้นการขับแบบท่องเที่ยววันเดียวเสมือนการใช้งานจริง โดยขับได้ระยะทางรวม 205 กม. พร้อมอัตราสิ้นเปลือง 13.7 กม./ล.
Nissan Note ใหม่ คอมแพกต์แฮตช์แบ็ก พัฒนาและออกแบบให้มีความสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งรูปโฉมโฉบเฉี่ยวสวยงาม สะดวกสบาย สมรรถนะ ความปลอดภัย จากแนวคิดเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ในอนาคต
Nissan Intelligent Mobility ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแนวทางหลักที่นิสสันใช้สำหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม การขับทดสอบครั้งนี้ ทำให้ผู้ทดสอบได้สัมผัสจุดเด่น ประโยชน์ใช้สอย และเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัย ที่ได้รับการติดตั้งในนิสสัน โน้ต ใหม่ ดีขึ้น พร้อมพิสูจน์ว่า นิสสัน โน้ต สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบคนเมืองและท่องเที่ยวได้ดีแค่ไหนด้วย
การทดสอบใช้ Nissan Note ใหม่ รุ่น VL ทั้งหมด 8 คัน แบ่งสื่อมวลชน 2 ท่านต่อคัน โดยผู้เขียนได้อยู่รถหมายเลข 2 โดยเป็นผู้นั่งก่อนในช่วงขาไป รูปแบบการเดินทางเน้นไปทางฟรีรันโดยนัดจุดแวะกันเป็นช่วงๆ ขบวนรถนิสสัน โน้ต ทยอยออกจากจุดสตาร์ทที่โรงแรมอีสติน สาทร ในช่วงเช้าแล้วตัดขึ้นทางด่วนไปลงพระราม2 โดยมีจุดหมายสำคัญที่ ชูชัยบุรี ศรีอัมพวา ที่พักริมน้ำแห่งใหม่สุดคลาสิกของอัมพวา
การขับช่วงแรกจากอีสติน ผ่านถนนพระราม2 แวะทานกาแฟที่ร้านน้องเบเกอรี่ เพื่อลองระบบ Intelligent Around View Monitor (AVM) กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง สามารถมองเห็นได้ทุกจุดรอบคัน ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหว หรือ Moving Object Detection (MOD) ด้วยการออกแบบให้ภาพจากกล้องแสดงผลที่กระจกมองหลัง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น
จากนั้นกลับสู่ถนนพระราม2 วิ่งไปเลี้ยวเข้าถนนหมายเลข 2003 เลาะชายทะเลดอนหอยหลอด แล้วออกไปกลับรถใต้สะพานถนนพระราม2 เพื่อแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านแดง จากนั้นขบวนนิสสัน โน้ต เดินทางต่อสู่อาสนวิหารแม่พระบังเกิด โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 325 ต่อด้วย 6002 เลาะแม่น้ำแม่กลองไปจนถึงวิหาร เพื่อบันทึกภาพร่วมกัน จากนั้นก็ขับไปแวะไหว้พระที่วัดบางกุ้ง แล้วไปจบกับกิจกรรมสนุกจัดของใส่รถ นิสสัน โน้ตที่ ชูชัยบุรี ศรีอัมพวา เพื่อแสดงให้เห็นถึงอรรถประโยชน์และพื้นที่ใช้สอยในการรองรับสัมภาระจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้นั่งพูดคุยกับทางทีมวิศวกรนิสสันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เสนอแนะเกี่ยวกับตัวรถ เมื่อได้เวลาอันสมควรก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ เพื่อจบทริปที่โรงแรมอีสติน สาทร
การขับกลับแบบฟรีรันทำให้ผู้เขียนที่ขยับมาขับ มีโอกาสได้ทดลองขับเต็มที่ ทันทีที่รถตัดเข้าสู่ถนนพระราม2 ซึ่งการจราจรยังไม่หนาแน่นมาก จึงมีโอกาสทำความเร็วเต็มที่ เครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี 3 สูบ แถวเรียง DOHC 12 วาล์ว CVTC (Continuously Variable-valve Timing Control) หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ มัลติพอยท์ (ECCS) 32 บิท ที่มีกำลังสูงสุด 79 แรงม้า สามารถทำความเร็วได้ดี เว้นแต่การเร่งแซงที่ต้องอาศัยเวลาและทำเข้าใจการทำงานของเกียร์ CVT แต่ถ้าตัวรถทำความเร็วได้แล้วก็สามารถเติมคันเร่งเพิ่มระดับความเร็วได้อย่างไหลลื่น
นอกจากนี้ ยังได้ลองเปลี่ยนเลนแบบตั้งใจเพื่อทดลองระบบ Lane Departure Warning - LDW ซึ่งคอยเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง โดยระบบนี้จะตรวจจับอาการของรถ หากพบว่าล้อเหยียบเส้นแบ่งเลนแล้วไม่เปิดไฟเลี้ยว ระบบก็จะเตือนผู้ขับด้วยเสียง (การทำงานของระบบนี้ตัวรถต้องวิ่งที่ความเร็วมากกว่า 70 กม./ชม.) เมื่อขับผ่านช่วงสะพานเล็กโดยใช้ความเร็วปานกลางโดยไม่เบรก ก็พบว่าช่วงล่างของนิสสัน โน้ต ให้การยึดเกาะที่ดี แต่ช่วง rebound เร็วไปหน่อย จึงออกอาการแข็งไปบ้าง ส่วนระบบเบรกตอบสนองและไว้วางใจได้ดี โดยเฉพาะช่วงที่เข้าใกล้ตัวเมือง ซึ่งการจราจรหนาแน่นต้องเร่งและเบรกชะลอ-หยุดบ่อยครั้ง เมื่อขับมาถึงสาทรก็เจอกับรถมากมาย แต่โน้ตก็มีความคล่องตัวดีเพราะวงเลี้ยวค่อนข้างแคบ การโยกเปลี่ยนเลนแบบฉับไวและหักเลี้ยวไปมาทำได้ดี สมกับเป็นซิตี้คาร์ระดับแถวหน้าจริงๆ
สรุป นิสสัน โน้ต ใหม่ ใช้งานในเมืองได้อย่างคล่องตัว และรถออกแบบได้สวยทั้งคันจนดึงดูดให้คนหันมอง ภายในนับเป็นจุดเด่นที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกันด้วยพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางทั้งด้านหน้าและหลัง โดยเฉพาะด้านท้ายที่จุสัมภาระได้มากหลายชิ้น ส่วนช่วงล่างและพลังจากเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ก็ให้พลังเพียงพอต่อการใช้งานทางไกลไว้สำหรับท่องเที่ยวเช่นกัน เพียงแต่ต้องเข้าใจจังหวะการทำงานของเกียร์ CVT ด้วยราคาเริ่มต้น 568,000 บาท กับรุ่น 1.2V CVT ก็คุ้มค่าต่อการใช้งานแล้ว เพราะสาระสำคัญของรถมีครบถ้วน แต่ผู้เขียนติดที่เบาะหลังรุ่นนี้ไม่สามารถพับแยกแบบ 60/40 ได้ ซึ่งถ้าเป็นผู้เขียนซื้อใช้เอง คงต้องขยับไปเอารุ่น 1.2 VL CVT ราคา 640,000 บาท เพิ่มเงินอีกราว 7 หมื่น และผ่อนค่างวดต่างกันพันบาท แต่ได้ไฟหน้าแบบ LED พร้อม signature light แทนโปรเจกเตอร์ฮาโลเจน และยังได้ระบบเซฟตี้เพิ่มอีก 5 รายการ ที่สำคัญคือ เบาะหลังพับแยก 60/40