ทดลองขับจริง Honda CR-V ใหม่ ดีเซล 160 แรงม้า เกียร์ 9 จังหวะ 7 ที่นั่ง
All-New Honda CR-V 2017 รถยนต์ SUV อเนกประสงค์รุ่นใหญ่เจเนอเรชั่นที่ 5 ออกแบบใหม่ทั้งคัน ด้วยพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายด้วย 7 ที่นั่ง อัพเกรดเทคโนโลยีใหม่ๆ และเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำกับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1.6 ลิตร 160 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ พร้อมปุ่มกดเลือกตำแหน่งเกียร์แบบไฟฟ้า และรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร เกียร์ CVT ซึ่งทั้ง 2 รุ่นเครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด พาคณะสื่อมวลชนทดสอบสมรรถนะของเครื่องยนต์ i-DTEC DIESEL TURBO ที่มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ฮอนด้าจะได้แนะนำเครื่องยนต์และระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่ ในยนตรกรรมสปอร์ตเอนกประสงค์ระดับพรีเมียม "ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 5" โดยมีสื่อมวลชน 2 กลุ่ม สลับเช้า-บ่ายกลุ่มละ 20 คน แบ่งขับคนละ 2 รอบ ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการจริงวันที่ 24 มีนาคม 2560
ภายนอก Honda CR-V ใหม่ ปรับโฉมทั้งคัน ไฟหน้าแบบ LED กระจังหน้ารูปทรงใหม่เข้ากับกันชน พร้อมไฟตัดหมอก LED เส้นสายด้านข้างมีส่วนคล้ายรุ่นก่อนหน้า ติดตั้งสเกิร์ตรอบคัน ไฟท้าย LED ทรงรูปตัว "L" แยกเป็น 2 ชิ้น ที่เสาหลังและฝาท้ายดูหรูหราขึ้น ท่อไอเสียแบบคู่ ตกแตงคิ้วโครเมียมรอบคัน และล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ 2017 มีฟังก์ชันสุดล้ำเพิ่มมานั่นคือ ระบบเปิดประตูท้ายไฟฟ้า เพียงใช้เท้ากวาดด้านล่างกันชนเท่านั้น เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นอีกระดับ และนับเป็นครั้งแรกของในระดับเดียวกัน
ภายในคอนโซลทรงใหม่ เพิ่มความสปอร์ต มาตรวัดรูปแบบเดียวกับซีวิคใหม่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมได้ทั้งเครื่องเสียง จอแสดงผลบนมาตรวัด ระบบเครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เชื่อมต่อ Smart Phone, USB, HDMI, AUX รองรับ Apple CarPlay พร้อม Navigator
เบาะคู่หน้าทรงกระชับและมีขนาดใหญ่โอบลำตัวได้ดีปรับไฟฟ้า เบาะแถวที่ 2 ขนาดใหญ่รองรับทุกสรีระ สามารถพับได้ 60:40 และพับเก็บแบบครั้งเดียวเพื่อสามารถเข้าเบาะแถวที่ 3 ได้สะดวกขึ้น และเบาะแถวที่ 3 พับได้แบนราบแบบ 50:50 พร้อมแผ่นรองพื้นสัมภาระด้านหลังที่สามารถเลื่อนขึ้นเป็นชั้นวางของได้
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ 2017 เครื่องยนต์ i-DTEC ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร วิจัยและพัฒนาโดยทีมวิศวกรฮอนด้าประเทศญี่ปุ่น ภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม (Earth Dreams Technology) ที่ให้ความสำคัญทั้งในเรื่องสมรรถนะการขับขี่ อัตราการประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยชิ้นส่วนต่างๆ ได้ถูกพัฒนาให้มีขนาดเล็กลง ทำให้เครื่องยนต์มีขนาดและน้ำหนักที่เบาลง แต่ยังคงไว้ซึ่งการขับขี่อันทรงพลังและให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม
หัวใจสำคัญคือ การทำงานของระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ 2 จังหวะ ที่ผสานการทำงานอย่างชาญฉลาดเพื่อให้การตอบสนองทั้งกำลังแรงบิดและอัตราเร่งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกการขับขี่ โดยให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่ พร้อมระบบ Intercooler ระบบจะทำหน้าที่ระบายความร้อนของไอดีที่ถูกอัดมาจากการทำงานของเทอร์โบชารจ์เจอร์ซึ่งมีความร้อนสูงให้เย็นตัวลงก่อนที่จะผ่านเข้าห้องเผาไหม้ ทำให้มวลอากาศโดยรวมเล็กลง เพื่อนำอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ พร้อมด้วยระบบ Intercooler ที่ซ้อนไว้หลังช่องดักลมฝั่งไฟตัดหมอกข้างขวา (หันหน้าเข้าหาตัวรถ)
ระบบปุ่มกดเข้าเกียร์ โดยเกียร์ R นั้นจะใช้การโยกลงเข้าหาตัว นอกนั้นใช้กดปกติ
Honda CR-V ใหม่ 2017 มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะจาก ZF ควบคุมด้วยปุ่มกดเทียบเท่ารถระดับหรู ช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ให้อัตราเร่งที่ดีตั้งแต่การออกตัว ตอบสนองต่อการขับขี่และการเปลี่ยนเกียร์อย่างนุ่มนวล พร้อมช่วยลดเสียงรบกวนขณะขับขี่และให้การประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เมื่อต้องการกำลังในการเร่ง โดยผู้ขับขี่กดคันเร่งเพิ่ม ระบบจะคำนวณอัตราทดเกียร์เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์แบบก้าวกระโดดจากเกียร์ 9 มายังเกียร์ 5 และจากเกียร์ 7 มาเกียร์ 4 โดยไม่ต้องไล่ระดับ ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนเกียร์ 2 ระดับ หรือ 1 ระดับ รูปแบบอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ การเปลี่ยนเกียร์ในรูปแบบอื่นๆ ยังคงต้องอาศัยการทำงานที่ต่อเนื่อง ผ่านการไล่ระดับเกียร์เพื่อเปลี่ยนเกียร์ไปยังระดับที่ต้องการได้ ส่งผลให้ทั้งอัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 18.9 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอัตราที่ต่ำเพียง 141 กรัม/กิโลเมตร (ตัวเลขการทดสอบจากโรงงาน)
จุดเด่นของเทคโนโลยีที่พัฒนาใหม่ครั้งแรกในไทยของฮอนด้ากับเครื่องยนต์ดีเซลใช้ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ 2 จังหวะ (2-stage Turbocharger) ด้วยการควบคุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่รวดเร็วและแม่นยำ เพื่อให้การตอบสนองทั้งกำลังแรงบิดและอัตราเร่งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกการขับขี่
ระบบเทอร์โบ 2 จังหวะ ประกอบด้วยเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ทำงานในช่วงแรงดันสูง (High Pressure Turbo) และเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ทำงานในช่วงแรงดันต่ำ (Low Pressure Turbo)
โดยจะทำงานร่วมกันตั้งแต่รอบต้นที่ต้องการอัตราเร่งเพื่อใช้ในการออกตัว ซึ่ง High Pressure Turbo มีการติดตั้ง Variable Geometry Turbocharger (VGT) เพื่อช่วยในการตอบสนองต่ออัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจในช่วงรอบต้น ช่วยลดการสูญเสียกำลังของเครื่องยนต์โดยไม่จำเป็น อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน เมื่อต้องการอัตราเร่งในช่วงความเร็วสูง Low Pressure Turbo ที่ควบคุมการทำงานผ่าน Waste gate Type Turbocharger จะช่วยเสริมการทำงานเพื่อให้ได้กำลังและแรงบิดที่สูงขึ้นในการขับขี่ โดย High Pressure Turbo และ Low Pressure Turbo จะมีการสลับการทำงานในช่วงกลางที่ความเร็วคงที่ เมื่อระบบทำงานผสานกัน จะให้ประสิทธิภาพเพื่อการเผาไหม้อย่างสูงสุด
การทำงานของเทอร์โบเทอร์โบชาร์จเจอร์ 2 จังหวะ ซึ่งฮอนด้าเรียกว่าการผสมผสานระหว่างระบบ "parallel & sequential"
สรุปอย่างง่ายๆ คือ ไอเสียจากเครื่องยนต์ผ่านโข่งหลังของเทอร์โบทั้ง 2 ชุด ชุดแรงดันต่ำและสูง โดยมีวาล์วกั้นควบคุมด้วย ECU ทำหน้าที่บังคับทิศทางไหลของไอเสีย
ช่วงรอบต่ำ - ไอเสียจะผ่านเทอร์โบลูกเล็กก่อนเพื่อสร้างแรงดันให้รวดเร็วขึ้น และดูดอากาศจากฝั่งโข่งไอดีของเทอร์โบลูกใหญ่ เพื่อเป็นการช่วยให้กังหันเทอร์โบลูกใหญ่นั้นหมุนตามเร็วขึ้น
รอบกลาง - เมื่อเทอร์โบลูกใหญ่ถูกกระตุ้นให้กังหันหมุนเร็วขึ้น วาล์วบังคับไอเสียก็เริ่มเปิดให้ไหลเข้าสู่โข่งหลังของเทอร์โบทั้ง 2 ชุด และสร้างแรงดันอากาศได้มากขึ้น ทำให้เครื่องยนต์มีกำลังมากขึ้น อัตราเร่งมากเร็วขึ้น
รอบสูง - ระบบวาล์วบังคับไอเสียจะกั้นให้ไหลสู่เทอร์โบลูกใหญ่เท่านั้น เนื่องจากลูกเล็กมีขนาดกังหันเล็กและสร้างแรงดันได้น้อยกว่าเมื่อหมุนที่ความเร็วสูงๆ จึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเทอร์โบลูกใหญ่รับช่วงต่อเนื่องไป
เมื่อต้องการกำลังเร่งแซง - เทอร์โบทั้ง 2 ชุดจะผสานกันสร้างแรงดันอากาศให้เพียงพอต่อความต้องการของเครื่องยนต์ โดยยึดหลักการเดิม ตามความเร็วรอบเครื่องยนต์หรือความต้องการใช้กำลัง (โหลด) ขณะนั้นๆ
จากข้อมูลจากวิศวกรของฮอนด้า เครื่องยนต์ดีเซลนี้ใช้เสื้อสูบ กระบอกสูบที่ออกแบบใหม่ ระบบระบายความร้อนหรือปั๊มน้ำหล่อเย็นแบบใหม่ไหลเวียนได้ทั่วถึงทุกจุด เพื่อลดความร้อนสะสมได้ดี ลูกสูบออกแบบให้ลดน้ำหนัก ชาร์ฟของสลักลูกสูบ ข้อเหวี่ยงออกแบบให้ลดความฝืดลง เป็นต้น ส่งผลให้เครื่องยนต์ดีเซลใหม่นี้มีความแรง ประหยัด น้ำหนักเบา และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมการทดสอบโดยใช้น้ำมันดีเซลในประเทศไทยทั้งดีเซลธรรมดา และสูงสุดถึง B7! รับรองว่าปลอดภัยและมั่นใจได้ครับ
ระบบการจ่ายน้ำมันแบบรางร่วม (Common Rail) ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อช่วยควบคุมแรงดันในรางให้เหมาะสม โดยมีแรงดันสูงถึง 1,800 bar
ระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหลายจุด (Multi Injection) ทำงานแปรผันให้เหมาะสมกับรอบการทำงานของเครื่องยนต์ โดยจะคำนวณปริมาณและจังหวะในการฉีดน้ำมันกับการทำงานของรอบเครื่องในขณะขับขี่ ให้ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยในเรื่องอัตราประหยัดน้ำมันและลดการสั่นสะเทือนจากการทำงานของเครื่องยนต์
ระบบดับเครื่องยนต์เมื่อจอดนิ่ง (Idle Stop System) โดยเครื่องยนต์จะหยุดการทำงานโดยอัตโนมัติขณะที่รถจอดนิ่ง และระบบจะสตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้ง เมื่อปล่อยเบรกหรือเหยียบคันเร่งในกรณีที่ระบบ Brake Hold ทำงาน ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น
ระบบหมุนเวียนไอเสีย (Exhaust Gas Recirculation System - EGR) ระบบหมุนเวียนไอเสียจะถูกควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความแม่นยำสูง เพื่อนำไอเสียกลับมาในระบบเผาไหม้อีกครั้ง เพื่อช่วยให้ไอดีมีอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการจุดระเบิด ทำให้เกิดการเผาไหม้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งลดการปล่อยมลพิษออกจากตัวรถและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ตัวกรองอนุภาคไอเสียดีเซล (Diesel Particulate Filter - DPF) ทำหน้าที่ดักจับเขม่าของน้ำมันที่ออกมากับไอเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าตัวกรองอากาศเขม่าทั่วไป ทำให้มั่นใจในการควบคุมการปล่อยไอเสียให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
Honda CR-V ใหม่ 2017 ครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ E-DPS ใหม่ ทำงานโดยเปลี่ยนการควบคุมการส่งกำลังไปยังล้อหลังด้วยระบบไฟฟ้า ตอบสนองการทำงานได้รวดเร็วพร้อมกับให้แรงบิดที่ล้อหลังสูงขึ้น อีกทั้งเพิ่มความแม่นยำของการปรับแรงบิดที่ล้อหน้าและล้อหลังให้สมดุล พร้อมด้วยระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (Agile Handling Assist - AHA) และระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย (Motion-Adaptive Electric Power Steering - MA - EPS) ให้การทรงตัวขณะขับขี่ที่ดีเยี่ยม ทั้งในการเข้าโค้ง หรือทางลาดชัน
ช่วงล่างของซีอาร์-วีใหม่ พัฒนาให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง เพื่อความเกาะถนนมากขึ้น ด้านแม็กเฟอร์สันสตรัท (macpherson strut) ด้านหลัง อี-ไทป์ มัลติลิงค์ (E-Type Multilink)
Honda CR-V ใหม่ นับว่ามีความเงียบและนุ่มนวล เสียงเครื่องยนต์แม้อยู่ภายนอกจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดีเซล แต่ก็เป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อเข้าสู่ภายในห้องโดยสารซีอาร์-วีใหม่นั้น สามารถเก็บเสียงได้ดี
อัตราเร่งสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลที่มีแรงบิด 350 นิวตันเมตรตั้งแต่รอบต่ำ สัมผัสได้ประมาณ 1,500 รอบต่อนาทีขึ้นไป เริ่มมีแรงดึงและการเปลี่ยนเกียร์ค่อนข้างนุ่มนวล Honda CR-V ใหม่สามารถทำอัตราเร่งช่วงทางตรงแรกระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ที่ประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนเบรกเพื่อเลี้ยวเข้าโค้ง
ช่วงล่างนับว่าทำได้ดีในระดับความเร็วกลางๆ ที่เหมาะสม เนื่องจากรถสไตล์ยกสูง ยางแก้มสูง ย่อมมีความโยนตัวบ้างหากเข้าโค้งแรงเกินไป ระบบเบรกไฟฟ้าที่นุ่มเท้าและได้ความรู้สึกเหมือนรถยุโรป นุ่มลึกและเบาแรง สามารถเบรกใกล้โค้งได้อย่างมั่นใจ และเอาอยู่!
ภายในเบาะนั่งค่อนข้างกระชับรับสัดส่วน มีความสบายตามรูปแบบรถระดับพรีเมียม พวงมาลัยควบคุมได้แม่นยำในระดับที่น่าพอใจ และระบบปุ่มกดเลือกตำแหน่งเกียร์ที่โดดเด่นและนับเป็นครั้งแรกของรถยนต์ระดับนี้ในประเทศไทย
เบาะแถวที่ 2 นับว่ามีความกว้างขวางและปรับเลื่อนไปทางด้านหน้า-หลังได้ และปรับองศาพนักพิงได้ พร้อมระบบพับเก็บแบบจังหวะเดียว เพื่อการเข้า-ออกเบาะแถวที่ 3 ได้สะดวก ส่วนเบาะแถวที่ 3 ยังพับแบนราบได้รูปแบบ 50:50 ได้อีกด้วย นับว่าเลือกใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
นอกจากนี้ให้ระบบแอร์แบบอัตโนมัติ แอร์แถวที่ 2 และติดตั้งชุดแอร์ที่นั่งตอนหลังบนเพดานระหว่างเหนือศีรษะเบาะแถว 2 และ 3
Honda CR-V ใหม่ 2017 รถครอบครัวขนาดใหญ่ที่ให้ความสะดวกสบายมากขึ้นในรูปแบบ 7 ที่นั่ง เทคโนโลยีเต็มคัน แรงและประหยัดด้วยเครื่องยนต์ i-DTEC ผสานช่วงล่างกับระบบขับเคลื่อนที่ลงตัว มาพร้อม 4 รุ่นย่อยคือ
- Honda CR-V 1.6 i-DTEC 4WD
- Honda CR-V 2.4 i-VTEC 4WD
- Honda CR-V 1.6 i-DTEC 2WD
- Honda CR-V 2.4 i-VTEC 2WD
อดใจรอราคาในวันเปิดตัว 24 มีนาคมนี้ ติดตามได้ที่นี่ เช็คราคา.คอม
สอบถามเพิ่มเติมที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือ www.honda.co.th โทร. 02 341 7777 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง