Suzuki Swift RX-II รวมจุดเด่นที่ดีที่สุดเข้าด้วยกัน
Suzuki Swift RX-II ใหม่ มาพร้อม
Filling Drive for Fun! ขับสนุกในสไตล์เดิมด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ใหม่ ปรับระดับตามน้ำหนักบรรทุก พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมแพดเดิ้ลชิฟต์ CVT 7 จังหวะ Cruise control เพิ่มเติมความสปอร์ตด้วยไฟหรี่แบบ LED เสาอากาศแบบครีบฉลาม ล้อแม็กสี Gum Metallic 16 นิ้ว ไฟท้ายลายใหม่ มาพร้อม 3 สีสะดุดตาคือ แดง, ดำ และขาว ราคาเท่าเดิม 599,000 บาท!
บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เชิญสื่อมวลชนร่วมทดลองขับซูซูกิ สวิฟท์ อาร์เอ็กซ์-ทู ใหม่ เส้นทางกรุงเทพฯ - ระยอง รวมระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ซึ่งแบ่งเป็น 2 กรุ๊ปย่อยโดยทีมงานเช็คราคา.คอมขับทดสอบขาไป ส่วนขากลับนั่งรถบัส เพื่อสลับอีกกรุ๊ปที่เดินทางขามาด้วยรถบัสและขับสวิฟท์ อาร์เอ็กซ์-ทูในขากลับ
Suzuki Swift RX-II ล้ำ...ที่สไตล์ สุด...กับทุกฟังก์ชั่น 4 จุดเด่นใหม่ กับ 5 ความสะดวกสบายสไตล์เดิม
ซูซูกิ สวิฟต์ อาร์เอ็กซ์-ทู ใหม่ นับเป็นรุ่นที่ 2 ที่ใช้คำต่อท้าย "RX" และนับเป็นปีที่ 8 ของโมเดลนี้ในการทำตลาดในประเทศไทยนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2012 ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีรุ่นพิเศษออกมามากมาย เช่น Swift Energy Green Limited Color, Swift GLX Limited, Swift RX และ Swift SAI ต่อเนื่องมาจนถึงล่าสุดคือ Swift RX-II ที่รวมทุกความสปอร์ตและสะดวกสบายของทุกรุ่นที่ผ่านมาไว้ในคันเดียว!
ทั้งนี้ ซูซูกิตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ซูซูกิรวมในปี 2560 ที่ 24,000 คัน ด้วยสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 8% มีส่วนแบ่งในตลาด 4% นอกจากนี้ยังมีแผนขยายโชว์รูมจากเดิม 104 แห่งทั่วประเทศเป็น 120 แห่งในปี 2560
Suzuki Swift RX-II เพิ่มฟังก์ชั่น 4 จุดเด่นใหม่
1. ด้วยระบบปรับระดับไฟหน้าอัตโนมัติตามน้ำหนักบรรทุก ลดอาการไฟส่องสูงที่อาจมีผลกระทบต่อรถที่วิ่งสวนทางมา โดยจะมีไฟบอกสถานะการบนหน้าปัด พร้อมด้วยโคมไฟแบบโปรเจคเตอร์และไฟแบบ HID เหนือระดับกว่าใคร ไฟท้ายลายใหม่และโลโก้ RX-II บนฝากระโปรงท้าย
2. ไฟหรี่แบบ LED บริเวณกรอบไฟตัดหมอก เพิ่มความสว่างและมั่นใจยิ่งขึ้น ควบคุมการเปิด-ปิดด้วยสวิตช์แยกและรวมในก้านสวิตช์ระบบไฟหรี่ และไฟหน้า
3. เสาอากาศแบบครีบฉลาม เพิ่มความสปอร์ตและโดดเด่นมากขึ้น
4. ล้อแม็กสีใหม่ Gun Metallic ขนาด 16 นิ้ว เพิ่มความดุดันและเข้ากับตัวรถในทุกสีเป็นอย่างดี
Swift RX-II มาพร้อมฟังก์ชั่นพิเศษอื่นๆ อีกได้แก่
1. พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมแพดเดิ้ลชิฟต์ ให้ทุกจังหวะสนุกได้ดั่งใจกับระบบเกียร์ CVT 7 จังหวะ
2. Cruise Control ล็อคความเร็วได้ตามต้องการ เพิ่มความสบายมากขึ้นเมื่อเดินทางไกล
3. พวงมาลัยและเบาะคนขับปรับได้หลายระดับ พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทางทั้งสูง-ต่ำและดึงเข้ากับดันออก พร้อมด้วยเบาะนั่งคนขับที่ปรับสูง-ต่ำ เพื่อจัดท่านั่งให้เหมาะสม ลดการเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี
4. กุญแจ Keyless Entry เปิด-ปิดประตูสะดวกง่ายและปลอดภัย พร้อมปุ่มกดที่มือจับประตูคู่หน้า เพื่อความรวดเร็วไม่ต้องกดปุ่มจากรีโมท และปุ่ม Push Start
5. ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ควบคุมและเปิด-ปิดได้อัตโนมัติให้ความแม่นยำ พร้อมหน้าจอแบบดิจิทัล
สะดวกสบายอีกหลากหลายฟังก์ชั่นในสวิฟท์ อาร์เอ็กซ์-ทู อีก เช่น เบาะหลังพับได้ 60:40 เครื่องเสียงควมคุมด้วยสวิตช์บนพวงมาลัย พร้อมช่องเสียบ USB กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า มาตรวัดพร้อมจอแสดงผลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง, ระยะทาง (Trip1/2) อุณหภูมิภายนอก, ตำแหน่งเกียร์ และไฟเตือนระบบต่างๆ
Suzuki Swift RX-II มองผิวเผินอาจดูไม่มีอะไรแตกต่างจากรุ่น RX ก่อนหน้านี้ แต่เมื่อลองสัมผัสจริงๆ แล้ว สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ เครื่องยนต์ที่ไหลลื่นขึ้น และระบบเกียร์ที่เข้าจังหวะได้รวดเร็ว พร้อมกับอาการตอบสนองคล้ายการ "เย่อคลัตช์นิดๆ" เมื่อเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ นับว่าให้ความรู้สึกที่สนุกไปอีกแบบ
แม้เครื่องยนต์ของ Swift RX-II ใช้รุ่นเดิมคือ K12B 4 สูบ 16 วาล์ว VVT 1,242 ซีซี กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 118 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที สามารถลากตัวรถที่มีน้ำหนักตัวรถเปล่าเพียง 975 กิโลกรัม รวมผู้โดยสารก็ราวๆ 1,000 เศษๆ ให้พุ่งไต่ระดับความเร็วอย่างรวดเร็ว พร้อมระบบเกียร์ CVT ที่ค้างรอบกำลังสูงสุดของเครื่องยนต์เอาไว้เพื่อให้ทำอัตราเร่งได้อย่างง่ายดาย
การควบคุมของพวงมาลัย ให้ความหนืดๆ อยู่บ้าง แต่ไม่ถึงกับหนักมาก อาจปรับเอาไว้ให้มีความหน่วงเพื่อความมั่นใจในย่านความเร็วสูงไม่ให้เกิดอาการวอกแวกหรือพวงมาลัยไวเกินไป การเข้าทางโค้งและเปลี่ยนช่องทางค่อนข้างนิ่งและควบคุมง่าย ระบบช่วงล่างที่หนึบแน่น ที่ความเร็วต่ำๆ อาจมีอาการกระด้างอยู่บ้าง แต่เมื่อใช้ความเร็วสูงช่วยให้มั่นใจมากขึ้น และระบบเบรกที่ให้ความมั่นใจ เพราะได้ทดลองจากความเร็วสูงประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและลองเบรกกะทันหันอย่างรวดเร็ว จนหยุดนิ่ง โดยไม่ต้องออกแรงเหยียบเบรกมากนัก ก็สามารถลดความเร็วได้อย่างนุ่มนวลและนิ่งไม่มีอาการส่ายหรือเสียงร้องของยางให้ได้ยิน นับว่าระบบเบรกก็เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของสวิฟท์ที่ให้ประสิทธิภาพดีเกิดคาดจริงๆ ครับ แม้จะเป็นดิสก์เบรกแค่ล้อหน้าและดรัมหลังก็ตาม
สวิฟท์ อาร์เอ็กซ์-ทู ปรับปรุงชุดยางขอบประตูใหม่ให้มีความหนาและแน่นขึ้น เมื่อปิดประตูอาจต้องออกแรงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ในขณะขับขี่เสียงลมเข้ารถน้อยลงอย่างชัดเจน การเก็บเสียงนับว่าทำได้ดีมากๆ ครับ
ความสะดวกสบายภายใน
Swift RX-II จากการทดลองขับนั้นความสะดวกสบายที่เห็นชัดเจนคือ กุญแจรีโมทที่ใช้กดปุ่มตรงมือจับประตูได้เลย และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ พวงมาลัยควบคุมเครื่องเสียงได้ และครุซคอนโทรลที่ใช้งานง่าย ระดับท่านั่งที่ค่อนข้างพอดี เพราะสามารถปรับได้ทั้งพวงมาลัยและเบาะนั่ง จึงลดการเมื่อยล้าแม้ขับระยะทางยาวๆ
สวิฟท์นับเป็นรถแฮตช์แบ็กขนาดกึ่งเล็ก ดังนั้นพื้นที่ภายในห้องโดยสารตอนหน้านับว่าไม่แคบเกินไปอยู่ในระดับกลางๆ ส่วนตอนหลังอาจมีพื้นที่วางขาจำกัดอยู่บ้าง หากผู้ขับและโดยสารตอนหน้าเลื่อนเบาะถอยมาด้านหลังมากๆ
แต่สิ่งที่สวิฟท์ทำได้ดีมากนั้นคือ งานประกอบที่เนี้ยบและเลือกใช้วัสดุที่ดูดีเกินราคา การออกแบบทั้งคอนโทรล พวงมาลัย หรือมาตรวัด ให้ความรู้สึกเกินระดับอีโคคาร์ นับเป็นความตั้งใจที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหนือระดับขึ้นมาในราคาประหยัดและสมรรถนะที่พอตัวอีกด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวกที่ขาดไปบ้างอย่างเช่น ไม่มีไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า สวิตช์กระจกไฟฟ้าด้านคนขับเลื่อนลงอัตโนมัติแต่ไม่เลื่อนขึ้นอัตโนมัติ ต้องดึงค้างเอาไว้ ส่วนระบบเครื่องเสียงยังคงใช้รุ่นดั้งเดิมตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรกๆ ที่ไม่เป็นจอสัมผัส และไม่มีระบบเซ็นเซอร์ถอยหลัง ในจุดนี้เองเป็นข้อจำกัดในเรื่องของควบคุมราคาไม่ให้สูงเกินไป และการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างอาจต้องมีการเพิ่มต้นทุน ซึ่งในระยะสั้นนั้นอาจไม่เน้นระบบเหล่านี้มากนัก เพราะต้องการเน้นด้านสมรรถนะและความสนุกในการขับขี่มากกว่าและอาจเป็นฟังก์ชั่นที่ผู้ใช้รถให้ความสำคัญน้อยกว่าในจุดอื่นๆ จากการสำรวจความต้องการของลูกค้าโดยรวมในอดีตที่ผ่านมาของซูซูกิ และอีกสิ่งที่พบเจอในการทดสอบครั้งนี้คือ เมื่อคิกดาวน์ลากรอบเครื่องยนต์สูงๆ มักได้กลิ่นจากห้องเครื่องเข้ามาในรถ และเมื่อขับไปสักพักก็จะหายไปเอง ซึ่งทางซูซูกิพยายามแก้ไขในจุดนี้และนับว่ามีกลิ่นเข้าน้อยลงกว่ารุ่นก่อนหน้า
Suzuki Swift RX-II ตอบสนองความชื่นชอบของผู้ที่รักอิสระ ไม่ตามใคร ให้ความคล่องตัว ประหยัด พร้อมความอเนกประสงค์ในสไตล์ Eco Car สุดคุ้มค่าราคา 599,000 บาทเท่าเดิม