MINI Track Day กองทัพรถหรูลงแทร็ค ระเบิดความมัน สัมผัส go kart feeling!

มินิ ประเทศไทย เชิญสื่อมวลชนสัมผัสพลังกองทัพรถหรู MINI COOPER ตัวเล็กแต่จี๊ดจ๊าดระเบิดความมันด้วยการจับลงแทร็คแก่งกระจานเซอร์กิต ซึ่งทีมงาน Checkraka.com ได้ร่วมขับทดสอบทั้ง 6 รุ่นต้องบอกว่ามันสนุกควบคุมง่ายและปลอดภัยมากๆ ได้อารมณ์ Go Kart Feeling!     

รถยนต์มินิมีความโดดเด่นมากกว่าใครด้วยรูปทรงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและความพิเศษสไตล์รถยนต์มินินั่นคือ

• Go Kart Feelingให้อารมณ์สนุกเช่น โกคาร์ต
• design การออกแบบที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร เอกลักษณ์เฉพาะตัว
• customize การเลือกสรรอุปกรณ์ตกแต่งและออปชั่นต่างๆ ได้ตามแบบฉบับตัวคุณเอง (สำหรับประเทศไทยอาจสั่งได้บางรุ่นเนื่องจากข้อจำกัดในการขนส่งชิ้นส่วนจากต่างประเทศ)  

กิจกรรม "MINI Track Day" เป็นการเชิญทั้งดีลเลอร์ สื่อมวลชน ตลอดจนลูกค้า ให้ได้มาสัมผัสสมรรถนะรถยนต์มินิในรูปแบบเซอร์กิต ทดสอบอัตราเร่ง การทรงตัว การเกาะถนน ระบบเบรก และระบบความปลอดภัย พร้อม Instructor ควบคุมการขับในสนามให้เป็นไปอย่างปลอดภัย และใช้ความเร็วที่เหมาะสม

คุณปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย ผู้จัดกิจกรรมดีๆ ของมินิเพื่อต่อยอดความสำเร็จของมินิในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์คอมแพคหรูของเมืองไทย จัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับอีกด้านของประสบการณ์การขับขี่แบบมินิ เพราะนอกเหนือจากดีไซน์อันโดดเด่นที่เติมเต็มทุกอารมณ์แล้ว มินิทุกคันยังมีสมรรถนะและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยมเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย

คุณปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย

ขบวนมินิในทริปนี้มีทั้งหมด 6 รุ่นด้วยกันประกอบด้วย

MINI CooperS Convertible ราคา 3,050,000 บาท

มินิ คอนเวอร์ทิเบิล ใหม่ เป็นรถเปิดประทุนสปอร์ตล้ำสมัย และคงความสนุกในการขับขี่แบบโกคาร์ท พร้อมคอนเซปต์ "STAY OPEN"  ดีไซน์โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน มิติรถที่เพิ่มขึ้น พร้อมพื้นที่ภายใน ตัวรถกว้างขวางขึ้นเช่นเดียวกับมิติภายนอก เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน

มินิ คูเปอร์ เอส คอนเวอร์ทิเบิล ให้สมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ตด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ MINI TwinPower Turbo ให้ประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุด 141 กิโลวัตต์/192 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 228 กิโลเมตรต่อชม. อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.1 วินาที เพื่อความรื่นรมย์ในยามขับขี่แบบเปิดประทุนตามสไตล์มินิ แผงหลังคารถหรือซอฟต์ท็อปผลิตจากวัสดุผ้าทอพิเศษ ด้วยวัสดุป้องเสียงหลายชั้น ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก มาพร้อมกับดีไซน์ลายธง UNION JACK ที่เป็นเอกลักษณ์ของมินิ ซึ่งสามารถเปิดและปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าภายในเวลาเพียง 20 วินาที และในขณะที่รถวิ่งอยู่ด้วยความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

จอความบันเทิงและแสดงฟังก์ชั่นต่างๆ คนรถ

แอร์อัตโนมัติแยกปรับอุณหภูมิซ้ายขวา

มาตรวัดแบบมอเตอร์สปอร์ต

ปุ่มควบคุมจดแสดงผลและสวิตช์เลือกโหมดขับขี่ที่ฐานเกียร์

Head-up display แสดงผลครบรวมถึงระบบนำทาง

แผงควบคุมเปิด-ปิดหลังคาและระบบไฟส่องสว่างในรถ เอ... นี่มันห้องนักบินชัดๆ

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านแบบสปอร์ต

พร้อมลำโพงจาก Harman Kadon ไพเราะบาดใจจริงๆ

โหมดการขับขี่ที่คุณสามารถกดเลือกได้ MINI HEAD-UP DISPLAY ที่สามารถเปิดปิดเพื่อแสดงข้อมูลสำคัญบนคอนโซลหน้าช่วยให้คนขับไม่ต้องละสายตาในขณะขับขี่  ปุ่มควบคุมความบันเทิง MINI Controller ที่ทำงานด้วยระบบสัมผัส หน้าจอแสดงผลคอนโซลกลางขนาด 8.8 นิ้ว โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี LED ใหม่ล่าสุดที่ให้แสงไฟสีสันต่างๆ รอบวงแหวนซึ่งสามารถเปลี่ยนตามฟังก์ชั่นการใช้งาน นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดแอป MINI Connected XL Journey Mate บนสมาร์ทโฟนทำการเชื่อมต่อกับตัวรถเพื่อใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนฝนตกขณะเปิดประทุน การบอกตำแหน่งจุดจอดรถล่าสุด และอื่นๆ อีกมากมาย

MINI CooperS Clubman HIGHTRIM ราคา 3,288,000 บาท

มินิรุ่น "ท้ายตู้กับข้าว" รุ่นพิเศษ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับครอบครัวรักความสปอร์ต ด้วยความยาวที่เพิ่มขึ้น 27 เซนติเมตร กว้างขึ้น 9 เซนติเมตร และฐานล้อที่ยาวขึ้น 10 เซนติเมตร เมื่อเทียบกับรถยนต์มินิ แฮทช์ 5 ประตู มินิ คลับแมน โฉมใหม่ จึงเป็นรถยนต์มินิที่มีขนาดใหญ่ที่สุด พร้อมตอบรับทุกการใช้งานด้วยช่องเก็บสัมภาระที่มีความจุมากถึง 360 ลิตร และยังสามารถขยายขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,250 ลิตร เมื่อทำการพับเบาะที่นั่งหลังซึ่งแยกกันที่ 60:40 ส่วนฝากระโปรงท้ายแบบบานพับ สองข้างใช้วัสดุโลหะที่โดดเด่นสะดุดตา เป็นอีกจุดเด่นชวนมองในส่วนท้ายของ มินิ คลับแมน โฉมใหม่ เสากลางระหว่างบานกระจกซ้าย-ขวามีขนาดเล็กลงกว่าในรุ่นก่อนหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองด้านหลังให้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังสะดวกสบายด้วยการเปิดประตูแบบไม่ต้องสัมผัส เพียงใช้เท้าจ่อบริเวณใต้ กันชนท้ายเมื่อมีกุญแจรถอยู่กับตัวเท่านั้น

มินิ คลับแมน มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด 3 รุ่น ด้วยเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ทั้งดีเซล 4 สูบ เทอร์โบ 2.0 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตัน-เมตร เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร 136 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตัน-เมตร และเบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร 192 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตัน-เมตร ซึ่งทุกรุ่นให้อารมณ์ในการขับขี่แบบโกคาร์ทโดยเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ด้านต่างๆ ที่ดียิ่งขึ้น

MINI JOHN COOPER WORKS ราคา 3,450,000 บาท 

มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ตัวแรงสุดในกลุ่มผสมผสานความเร้าใจจากสนามแข่งกับความหรูหรา ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นแต่ยังคงเอกลักษณ์สุดคลาสสิกไว้อย่างครบครัน ต่อยอดจากรถยนต์ต้นแบบเพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ในระดับรถแข่งพันธุ์แท้ 

มาพร้อมกับที่สุดแห่งขุมพลังสปอร์ต กับเครื่องยนต์ 4 สูบที่ติดตั้งแบบ transverse พร้อมอัพเกรดระบบส่งกำลังให้ทำงานราบรื่นด้วยเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ให้คุณขับขี่ได้คล่องตัว รวดเร็ว พร้อมท้าทายทุกสนามแข่ง ขุมพลังใหม่ของมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ถือเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่มินิเคยนำออกมาทำตลาด โดยมีกำลังสูงสุดถึง 170 กิโลวัตต์/231 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 6.1 วินาที Topspeed 246 กม./ชม.

JCW สปอร์ตเต็มคราบทั้งภายนอกและภายใน

เบาะหนังอัลคันทารา แบบเดียวกับซูเปอร์คาร์เชียวนะ

คาร์ลิเปอร์เบรกโตในรุ่นพิเศษ JCW เท่านั้น

มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ยังมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครด้วย พร้อมคอนเทนต์พิเศษในรุ่นนี้โดยเฉพาะ หลังคาและกระจกมองข้างสีแดง Chili Red ล้อแม็กอัลลอยน้ำหนักเบา จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ขนาด 18 นิ้ว และแถบสีแต่งกระโปรงรถลายจอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ส่วนระบบช่วงล่างทำงานสอดประสานกับเครื่องยนต์อย่างสมบูรณ์แบบ ควบคู่ไปกับเบรกระดับสปอร์ตรุ่นใหม่จากเบรมโบ ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ เซอร์โว ทรอนิก ที่ใช้ทั้งระบบไฟฟ้าและกลไกผสมผสานกัน และเทคโนโลยี Dynamic Stability Control ที่มีทั้งคุณสมบัติ Dynamic Traction Control (DTC)  Electronic Differential Lock Control (EDLC) และ Dynamic Damper Control ติดตั้งมาในตัวเป็นมาตรฐาน

MINI COOPER SD ALL4 COUNTRYMAN PARK LANE ราคา 2,590,000 บาท

มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน เป็นรุ่นที่สามของมินิรุ่นไฮเอนด์สุดคลาสสิกที่เปี่ยมความหรูหรา พร้อมจับทุกสายตาด้วยดีไซน์และสีสันพิเศษสุดเฉพาะตัว ตัวถังสีเทาเมทัลลิก Earl Grey จับคู่กับหลังคาและกระจกมองข้างสีแดง Oak Red พร้อมแต่งด้วยแถบสีสไตล์สปอร์ตในสีเดียวกับกระโปรงรถ กันชนท้าย และส่วนข้างตัวรถ ขณะที่ไฟเลี้ยวติดตั้งในกรอบชุบโครเมียมที่แต่งด้วยสีแดง Oak Red เช่นกัน นอกจากนี้ ตัวรถยังเสริมความสปอร์ตด้วยล้อแม็กอัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้วสีเทาในดีไซน์ Turbo Fan Dark Grey พร้อมตกแต่งรอบตัวถังด้วยชิ้นส่วนกันชนและขอบประตูสีเงินในชุดแต่ง MINI ALL4 Exterior

มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังดีเซล MINI TwinPower Turbo ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งผลิตจากอลูมิเนียมทั้งบล็อก มอบกำลังสูงสุด 143 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 305 นิวตัน-เมตร

MINI COOPER S JOHN COOPER WORKS DRESS UP EDITION HATCH 3 DOOR ราคา 2,990,000 บาท

มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู พร้อมชุดแต่งจอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ คอมแพคต์ระดับพรีเมี่ยมคงเอกลักษณ์สุดคลาสสิก ในคราบชุดแต่งรอบคัน ขุมพลังเครื่องยนต์เทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo แบบเดียวกับ CooperS รุ่นเบนซิน พร้อมอีก 2 เครื่องยนต์ให้เลือกเบนซิน 3 สูบ และดีเซล 4 สูบ 

MINI COOPER S JOHN COOPER WORKS DRESS UP EDITION HATCH 5 DOOR ราคา 3,030,000 บาท 

มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 5 ประตู พร้อมชุดแต่งจอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ เพิ่มขึ้นจากรุ่น 3 ประตู ด้วยการเน้นประสิทธิภาพการใช้งานจริงและความสะดวกสบายของห้องโดยสารที่เพิ่มมาจากฐานล้อที่ขยายยาวขึ้น ผู้โดยสารตอนหลังมีพื้นที่กว้างขวางขึ้นถึง 72 มิลลิเมตรสำหรับระยะวางขาเมื่อเทียบกับมินิ แฮทช์ รุ่น 3 ประตู ไม่เพียงเท่านั้น พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นยังหมายถึงเบาะนั่งที่สามสำหรับผู้โดยสารตอนหลังอีกด้วย สำหรับประตูด้านหลังทั้งสองที่เพิ่มเข้ามาช่วยให้การขึ้น-ลงสะดวกสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สปอร์ตมากขึ้นมาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งแอโรไดนามิค

ล้อแม็ก Cup Spoke 2-tone ขนาด 18 นิ้ว ภายในมาพร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบ สเต็ปโทรนิค สปอร์ต ตกแต่งด้วยพวงมาลัยหนัง JCW หัวเกียร์หนัง ครบชุดแต่งในแบบฉบับจอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ทั้งขอบประตู แท่นเหยียบสแตนเลส สตีล และที่วางเท้า ช่วงล่างที่มีระบบ Dynamic Damper Control ไฟหน้าแบบ LED และสุดยอดระบบเครื่องเสียง Harman Kardon ที่ช่วยเพิ่มสุนทรียะแห่งการขับขี่

รูปแบบการเดินทางเริ่มต้นจากขบวนมินิ คูเปอร์ หลากหลายรุ่นจากโรงแรม ดับเบิ้ลยู สาทร มุ่งหน้าสู่ แก่งกระจานเซอร์กิต จ.เพชรบุรี โดยทีมงานเช็คราคาได้ขับ MINI CooperS Convertible ใหม่ล่าสุด

MINI CooperS Convertible (มินิ คอนเวอร์ทิเบิล ใหม่) คอนเซปต์ "STAY OPEN" โดดเด่นด้วยระบบเปิด-ปิดหลังอัตโนมัติที่ความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. ในเวลาเพียง 20 วินาทีเท่านั้น สมรรถนะไม่ธรรมดาด้วยเครื่องยนต์ MINI TwinPower Turbo 4 สูบ เบนซิน เทอร์โบ 192 แรงม้า ที่ 5,000 - 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 280 นิวตัน-เมตร ที่ 1,250 รอบต่อนาที (เมื่อบูสต์สูงสุด) Topspeed 228 กม./ชม. อัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. 7.1 วินาที อัตราสิ้นเปลือง 16.6 กม./ลิตร ราคา 3,050,000 บาท

การทดลองขับบนถนนจากกรุงเทพฯ - แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในมินิ คูเปอร์ เอส คอนเวอร์ทิเบิล มีความโดดเด่นมาเมื่อเปิดหลังคาและขับตามท้องถนน กระจกบังลมหน้า และเมื่อเลื่อนกระจกด้านข้างขึ้นทั้งหมดก็ลดแรงลมปะทะได้มากทีเดียว ส่วนพละกำลังนั้น 192 แรงม้า มีแรงบิด 280 นิวตันเมตร ที่สามารถเรียกรอบและอัตราเร่งแซงได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงท่อไอเสียเมื่อเปลี่ยนเกียร์หรือลากรอบสูงที่ดุดดัน ได้อารมณ์ความสปอร์ตเต็มรูปแบบ 

MINI CooperS Convertible ทดลองเปิด-ปิดหลังคาไฟฟ้า

โหมดการขับขี่สามารถเลือกได้ 3 รูปแบบ คือ

• Sport ปรับระบบเครื่องยนต์และเกียร์ให้มีรอบสูงขึ้นเพื่อพร้อมในการเร่งตลอดเวลาและระบบช่วงล่างที่หนึบมากขึ้น ให้อารมณ์ น้องๆ "รถแข่ง" ทั้งหนึบ เกาะถนน พร้อมระบบพวงมาลัยให้ควบแม่นยำและเฉียบคมมากขึ้น โยกเพียงเล็กน้อยก็บังคับทิศทางได้ฉับไวมากๆ จนต้องทำความคุ้นเคยสักระยะ เพราะว่าความไวของพวงมาลัยที่มากขึ้นกว่าปกตินั่นเอง 
• Normal ใช้ในการขับขี่ปกติ ให้ความนุ่มนวล แต่ก็สามารถซิ่งได้หายห่วง เพราะยังให้ความเกาะถนนและมั่นใจตามสไตล์ "มินิ"
• Green โหมดนี้เน้นประหยัด ขับสบายๆ ไปเรื่อยๆ คล้ายโหมด Eco ของรถทั่วไปครับ ซึ่งในวันทดสอบนั้นไม่ได้ใช้ เพราะชอบโหมดสปอร์ตมากกว่า ขับมันมากๆ

ในการขับขี่ในสนามนั้นมีรถทั้งหมด 6 รุ่น 12 คัน คันละ 2 คน ให้ผู้ร่วมทดสอบขับคนละ 3 รอบ และสลับผู้ขับ จากนั้นก็สลับรถยนต์และขับทดสอบไปเรื่อยๆ จนครบทุกรุ่น ซึ่งจะมีรถนำหน้า (instructor) คอยควบคุมความเร็วและขับตามเรสซิ่งไลน์ พร้อมกับบนแทร็คก็มีกรวยยางวางมาร์คจุดเอาไว้ตามโค้งหรือเนินต่างๆ เพื่อบังคับให้ผู้ขับทดสอบวิ่งตามเส้นทางที่กำหนดไว้ เพื่อความปลอดภัย

ในวันทดสอบทีมงานเช็คราคามีโอกาสได้ขับ 1 คัน/คน เนื่องจากมีจำนวนรถมากกว่าสื่อมวลชน โดยเริ่มจากคันหลังสุดไล่ไปจนคันหน้าสุด รวมเป็นคันละ 6 รอบ และต้องรอให้คันอื่นๆ สลับคนขับไปด้วย จนเมื่อครบทุกรุ่นแล้วโดยรวมขับในสนามทั้งหมด 36 รอบ! เรียกว่ามีอาการมึนอยู่ไม่น้อย

มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน

เริ่มต้นด้วยมินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน ซึ่งต่อท้ายสุดใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 143 แรงม้า แม้จะเป็นรุ่นยกสูง แต่ก็เกาะถนนในแทร็คไม่เป็นใคร ขณะเข้าโค้งนั้นใช้ความเร็วได้ใกล้เคียงกับรุ่นอื่นซึ่งนำหน้าอยู่ และไม่ถูกทิ้งระยะมากนัก 

อาการที่พบคือ ช่วงเข้าแต่ละโค้งมักมีอาการโยนนิดๆ เพราะตัวรถที่สูงและใหญ่ พร้อมเสียงโหยหวนของยางเริ่มร้องตามความเร็วที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นเมื่อเข้าโค้งลักษณะยูเทิร์นหรือตัวเอส อาจมีการเหวี่ยงมากกว่ารุ่นอื่นๆ แต่ยังคงควบคุมทิศทางได้ดี มีเพียงช่วงออกตัวจากทางโค้งเท่านั้นที่ออกจะอุ้ยอ้ายไปหน่อย ซึ่งในการขับขี่บนถนนจริงอาจไม่ใช้ความเร็วระดับนี้เข้าโค้ง ดังนั้น การเกาะถนนถนนและสมรรถนะโดยรวมสำหรับบนถนนจริงนับว่า เหลือเฟือ ปลอดภัยสูง และมีกำลังเครื่องยนต์ที่เกินพอ

 
มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน 

มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน ตัวยาวสุดในกลุ่ม แต่มีระดับรถที่ต่ำเทียบเท่ามินิรุ่นปกติ รุ่นที่ทดสอบในสนามนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ 192 แรงม้า หรือตัวเดียวกับ คูเปอร์ เอส สมรรถนะเครื่องยนต์เร่งดี ตอบสนองได้ทันใจเกิดคาด ความยาวตัวรถไม่ทำให้การทรงตัวด้อยลงแต่อย่างใด กลับขับง่ายและสนุกมากขึ้นด้วยซ้ำ ทั้งระบบช่วงล่างที่แน่นหนึบ พวงมาลัยที่เฉียบคม สามารถใช้ความเร็วขับตาม Instructor ได้สบายๆ แน่นอนว่าอัตราเร่งแรงขึ้นกว่าเจ้า คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน จึงเข้าโค้งได้ไว้และเร็วมากขึ้น แต่ก็ให้การเกาะถนนที่ดีเช่นกัน พวงมาลัยก็ควบคุมทิศทางได้ฉับไว้ และเมื่อออกตัวจากโค้งสามารถไต่ระดับความเร็วรวดเร็ว นับว่าเริ่มขับสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ 

มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน ให้การขับขี่ที่ปลอดภัย และสนุกในทุกโค้ง แม้จะเป็นรถลำตัวยาว แต่ก็ไม่มีผลต่อการทรงตัวมากนัก สามารถยัดความเร็วสูงๆ ได้ทุกโค้งครับ 

มินิ คูเปอร์ เอส คอนเวอร์ทิเบิล

มินิ คูเปอร์ เอส คอนเวอร์ทิเบิล ดวงเด่นของวงการนอกจะให้ความสวยและเท่แล้ว ยังให้สามารถนะที่ดีเกินรุ่นอื่นๆ เครื่องยนต์ 192 แรงม้า บวกกับตัวถังรถที่น้ำหนักเบากว่าใคร ทำให้รุ่นคอนเวอร์ทิเบิล พลิ้วไหวดุจสายน้ำ ทั้งการเร่งออกตัว การเข้าทางโค้งทุกรูปแบบเป็นไปอย่างง่ายดาย แทบไม่ต้องลุ้นหรือเกร็งมือ พวงมาลัยที่เฉียบคมให้อารณ์ Go Kart เป๊ะ ยิ่งขับยิ่งสนุก นับเป็นรุ่นหนึ่งของมินิที่ผมชอบฟีลลิ่ง ทั้งในและนอกสนามมากที่สุด

มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู

มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 5 ประตู

มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู และ มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 5 ประตู 2 รุ่นนี้จะมีฟิลลิ่งคล้ายกันมาก แม้รุ่น 5 ประตู จะมีความยาวกว่าเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วมีสมรรถนะที่ใกล้เคียงกันครับ ทั้งเกาะถนน อัตราเร่งทันใจและพวงมาลัยที่ควบคุมได้ฉับไว

มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์

มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ พระเอกของทริปนี้ที่ทีมงานเช็คราคารอคอยสลับรถขับไปจนได้สัมผัสสักที สมรรถนะสมคำร่ำลือ อัตราเร่งออกตัวทั้งทางตรงทางโค้ง กระฉับกระเฉง พวงมาลัยยิ่งเฉียบคมแม่นยำและช่วงล่างที่ไม่แตกต่างจากรถที่ถูกปรับแต่งเพื่อลงแข่งในสนาม ได้อารมณ์การขับขี่แบบ Go kart อย่างแท้จริง ด้วยฐานล้อที่สั้นและตัวรถเล็กกะทัดรัด ทำให้การเข้าโค้ง ออกโค้ง ในทุกสถานการณ์นั้น คล่องแคล่ว และสนุกจนลืมเหนื่อย ระบบเบรกที่หนึบสุดๆ แม้จะเร่งจากทางตรงยาวๆ กว่า 140 กม./ชม.และต้องเบรกตามจุดที่มาร์กไว้ เพื่อต่อโค้งต่างๆ เป็นไปอย่างสบายๆ ไม่ต้องลุ้น พร้อมเร่งทะยานออกจากโค้งอย่างดุดันด้วยเสียงท่อที่เร้าใจมากๆ ราวกับรถแข่ง

ความปลอดภัยในมินิทุกรุ่นที่ได้ทดสอบนั้น ช่วยให้การขับในสนามเป็นไปอย่างง่ายดายปลอดภัย เมื่อเข้าโค้งอย่างรวดเร็วระบบควบคุมการทรงตัวก็เริ่มทำงานให้อาการของรถไม่เป๋หรือไถลออกจากไลน์ และควบคุมพวงมาลัยได้เหมือนเช่นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องกังวล เพราะระบบได้จัดการแก้ไขให้หมดแล้ว แม้ว่าต้องการเหยียบคันเร่งจมมิดในการออกตัวจากทางโค้งหักศอกก็ตาม ระบบควบคุมการลื่นไถลและป้องกันล้อหมุนฟรีก็จะทำงานตัดกำลังให้เหมาะสม เพื่อให้ควบคุมทิศทางได้อย่างปลอดภัย นับว่าการขับในสนามแข่งแห่งนี้เป็นการทดลองระบบช่วยเหลือต่างๆ ได้อย่างดี และปลอดภัยจริงๆ ครับ ยกเว้นระบบถุงลมที่คงไม่มีใครอยากทดสอบ! 

กิจกรรม MINI Track Day สร้างความคุ้นเคยและเข้าใจสมรรถนะของรถยนต์มินิได้เป็นอย่างดี ซึ่งรถยนต์มินิทุกรุ่นต่างก็มีอรรถประโยชน์ในการใช้งานแตกต่างกันไป ตามความต้องการของลูกค้า แต่ไม่ว่าคุณจะซื้อมินิรุ่นตัวถังแบบใดก็ตาม สิ่งที่คุณจะยังคงได้รับนั่นคือ ความสปอร์ตในสไตล์อังกฤษ และความมันในการขับขี่แบบ Go Kart Feeling ที่รับรองว่าต้องประทับใจและติดใจไม่รู้ลืมครับ

นอกเหนือจากสมรรถนะและดีไซน์ที่โดดเด่นของมินิทุกรุ่นแล้ว อีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการสร้างความพึงพอใจสูงสุดคือความสบายใจของลูกค้ากับโปรแกรม MINI Service Inclusive อภิสิทธิ์พิเศษสุดสำหรับเจ้าของรถมินิ คุ้มครองรถให้ขับเคลื่อนไปในทุกเส้นทางอย่างราบรื่น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือตลอดระยะทาง 100,000 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับกำหนดใดที่ถึงก่อน) นอกจากนี้ มินิยังมีโปรแกรมการรับประกันที่ขยายขอบเขตการคุ้มครองเป็นตลอดระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทางอีกด้วย

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น MINI ทุกรุ่น