ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

Porsche Panamera 4 E-Hybrid สปอร์ตไฮบริดขับเคลื่อน 4 ล้อ ใหม่

ข่าว icon 13 ก.ย. 59 icon 7,207
Porsche Panamera 4 E-Hybrid สปอร์ตไฮบริดขับเคลื่อน 4 ล้อ พลัง 462 แรงม้า วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ 50 กม.!

Porsche Panamera 4 E-Hybrid เผยโฉมในมหกรรมยานยนต์ Paris Motor Show เมือง Stuttgart ประเทศเยอรมนี ครั้งแรก มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้เป็นระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร พละกำลังรวม 462 แรงม้า 

จากบทพิสูจน์ชัยชนะอันยอดเยี่ยมของรถแข่งปอร์เช่ 919 ไฮบริด (919 hybird) ในการแข่งขัน Le Mans 24 ชั่วโมง ฤดูกาล 2015 และ 2016 ที่ผ่านมา ถูกถ่ายทอดมายังปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) รุ่นนี้ 

Porsche Panamera 4 E-Hybrid สามารถเริ่มการทำงานได้จากระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางอย่างต่อเนื่องในสภาวะของยานพาหนะที่ปราศจากมลพิษหรือ zero-emission vehicle ได้เป็นระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร โดยยังคงทำความเร็วสูงสุดถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นั่นจึงเป็นคำตอบว่าเพราะเหตุใดปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) ใหม่ จึงเป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่อยู่ในเรือนร่างของซาลูนสุดหรูอย่างแท้จริง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อประสิทธิภาพสูงของปอร์เช่ ทำหน้าที่รองรับความเร็วสูงสุดกว่า 278 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมทั้งถ่ายทอดแรงบิดมหาศาลในระดับ 700 นิวตันเมตรลงสู่พื้นถนนได้ทันทีที่ออกตัวจากจุดสตาร์ต โดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับรอบการทำงานของเครื่องยนต์ รถสปอร์ต hybrid 4 ประตูคันนี้ ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 4.6 วินาทีเท่านั้น แรงบิดทั้งหมดได้รับการส่งต่อไปยังล้อขับเคลื่อนทั้ง 4 อย่างสมบูรณ์โดยมีระบบช่วงล่างแบบถุงลม หรือ three-chamber air suspension ที่ให้เสถียรภาพในการทรงตัวอันยอดเยี่ยมพร้อมดุลยภาพระหว่างความนุ่มนวลสะดวกสบายและการบังคับควบคุมที่เฉียบคม  

Porsche Panamera 4 E-Hybrid เสริมมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงถึง 2 ชุดกว่า 136 แรงม้า (100 กิโลวัตต์) พร้อมแรงบิด 400 นิวตันเมตร คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อปลายเท้าสัมผัสแป้นคันเร่งเท่านั้น ในขณะเดียวกับที่ พานาเมร่า (Panamera) รุ่นก่อน ผู้ขับขี่จำเป็นต้องเหยียบคันเร่งลงถึง 80% ของระยะการทำงานจึงจะสามารถดึงเอาพละกำลังเสริมจากชุดขับเคลื่อนด้วย

ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริดใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาดความจุ 2.9 ลิตรไบเทอร์โบชาร์จเจอร์ กำลังสูงสุด 330 แรงม้า (243 กิโลวัตต์) แรงบิด 450 นิวตันเมตร มีพละกำลังที่ยอดเยี่ยมเต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะอันสุดแสนประทับใจ 
นอกจากนี้พลังงานที่ได้จากชุดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าใน พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) นั้นยังมีส่วนสำคัญในการถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มอัตราความเร็วสูงสุดที่รถคันนี้สามารถทำได้อีกด้วย และนี่คือนิยามใหม่ล่าสุด ของระบบขับเคลื่อน hybrid แห่งอนาคตจากปอร์เช่ "E-Performance" ระบบขับเคลื่อนล้ำยุคที่ให้พละกำลังมากยิ่งขึ้น เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดอย่างน่าอัศจรรย์ราวกับจากโลกอนาคต

ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่ซึ่งคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยปอร์เช่ผสานพลังร่วมกันกับเครื่องยนต์พร้อมระบบ electric clutch actuator (ECA) นวัตกรรมเทคโนโลยีทางวิศวกรรมยานยนต์ ทำงานด้วยการควบคุมของชุด electro-mechanically ซึ่งให้การตอบสนองที่แม่นยำฉับไวมากกว่าการควบคุมด้วย electro-hydraulic แบบเดิมในพานาเมร่า (Panamera) รุ่นก่อนหน้า ผสานชุดขับเคลื่อน hybrid ใหม่ล่าสุด พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ PDK 8 จังหวะ ถ่ายทอดพละกำลังมหาศาลอย่างสมบูรณ์แบบ

ชุดขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้านั้นได้รับพลังงานจากการจ่ายผ่านแหล่งพลังงานแบบแบตเตอรี่ระบายความร้อนด้วยของเหลวหรือ liquid-cooled Lithium-ion battery ถึงแม้แบตเตอรี่ดังกล่าว (ซึ่งได้รับการติดตั้งอยู่บริเวณพื้นตัวถังใต้ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ) จะมีอัตราความจุพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก 9.4 กิโลวัตต์ชั่วโมงในรุ่นเดิม เป็น 14.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ในรุ่นใหม่ก็ตาม แต่กลับมีน้ำหนักที่ไม่แตกต่างกัน สามารถชาร์จแบตเตอรี่แรงดันสูงดังกล่าวได้จนเต็มความจุพลังงานไฟฟ้าภายในระยะเวลาเพียง 5.8 ชั่วโมง ด้วยสายชาร์จขนาด 230-V, 10-A

สำหรับในกรณีที่ผู้ขับขี่เลือกใช้อุปกรณ์ชาร์จพลังงานไฟฟ้า แบบพิเศษ 7.2 kW on-board charger และสายชาร์จขนาด 230-V, 32-A แทนอุปกรณ์แบบมาตรฐาน 3.2 kW ในปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera)  นั้น จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มความจุพลังงานไฟฟ้าได้ภายในระยะเวลาเพียง 3.6 ชั่วโมงเท่านั้น ขั้นตอนการชาร์จพลังงานดังกล่าวสามารถตั้งค่าในการกำหนดเวลาได้ผ่านระบบ Porsche Communication Management หรือ PCM ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) ยังได้รับการติดตั้งระบบปรับอากาศแบบตั้งการทำงานอัตโนมัติซึ่งสามารถควบคุมการทำงานทั้งระบบทำความเย็นและระบบทำความร้อนให้แก่ห้องโดยสารในระหว่างการชาร์จพลังงานไฟฟ้าได้อีกด้วย 

อุปกรณ์ที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษอย่างหนึ่งของปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) เจเนอเรชั่นล่าสุด คือผลงานในการออกแบบและพัฒนาหน้าจอแสดงผลและฟังก์ชั่นควบคุมการทำงานตามหลักแนวคิดใหม่ของปอร์เช่ หรือ Porsche Advance Cockpit ซึ่งมาพร้อมแผงควบคุมระบบสัมผัสล้ำอนาคต และหน้าจอแสดงผลที่แบ่งแยกการทำงานโดยเฉพาะในแต่ละระบบ

ภายในห้องโดยสารประกอบด้วยจอภาพความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว 2 ตัวซึ่งได้รับการติดตั้งลงในชุดแผงหน้าปัดโดยมีมาตรวัดรอบเครื่องยนต์แบบเข็มสุดคลาสสิกคั่นกลางระหว่างหน้าจอทั้ง 2 และอีกหนึ่งความพิเศษสุดซึ่งคุณจะสามารถพบความแตกต่างจากพานาเมร่า (Panamera) รุ่นอื่นๆ ได้ในปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) เท่านั้น คือหน้าจอ power meter สำหรับแสดงสภาวะการทำงานของระบบขับเคลื่อน hybrid โดยเฉพาะ สามารถบอกสถานะการทำงานของระบบขับเคลื่อน hybrid ให้แก่ผู้ขับขี่รับทราบได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่ายในลักษณะเดียวกับอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ในรถซูเปอร์สปอร์ต ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) นั่นเอง หน้าจอ power meter แสดงข้อมูลได้หลากหลาย เช่น ปริมาณของพลังงานไฟฟ้าที่ถูกใช้งานอยู่ในขณะนั้น หรือ ปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่ได้รับการชาร์จคืนกลับ
หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รับหน้าที่ในการควบคุมการทำงานระบบ PCM พร้อมแสดงผลทั้งหมด ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลของการทำงานจากระบบขับเคลื่อนแบบ hybrid ที่มีความหลากหลายได้ ทั้งจากหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงหรืออ่านข้อมูลจากชุดแผงหน้าปัด ฟังก์ชั่นพิเศษ boost assistant และ hybrid assistant ออกแบบให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้ง่ายและเปี่ยมไปด้วยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ โดย boost assistant จะทำหน้าที่แสดงพลังงานที่สามารถใช้ได้ในขณะนั้น
สำหรับ Hybrid assistant ทำหน้าที่ให้ข้อมูลการประมวลผลของสัญญาณจากหลายแหล่งที่เกี่ยวข้องกับกำลังขับเคลื่อนจากพลังงานไฟฟ้า  
Hybrid Auto รูปแบบการขับขี่ที่ตอบรับประสิทธิภาพเหนือระดับ 
ชุดแต่งสปอร์ต โครโน (Sport Chrono Package) ติดตั้งพร้อมชุดสวิตช์เลือกรูปแบบการขับขี่บนพวงมาลัย สำหรับปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) นั้นมีความแตกต่าง โดยพานาเมร่า (Panaemra) รุ่นอื่น โดยทั่วไปสวิตช์เลือกรูปแบบการขับขี่หรือ mode switch และระบบควบคุมการติดต่อสื่อสารหรือ Porsche Commnication Management เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้งานรูปแบบการขับขี่ได้หลากหลายลักษณะ ซึ่งรูปแบบหรือ mode ที่คุ้นเคยกันดี ได้แก่ "Sport" และ "Sport Plus" ซึ่งรูปแบบดังกล่าวถูกติดตั้งลงในปอร์เช่ พานาเมร่า (Panae-mra) รุ่นอื่นที่มาพร้อมชุดแต่งสปอร์ต โครโน สำหรับรุ่น hybrid ได้รับการเพิ่มเติมเป็นพิเศษด้วยรูปแบบการขับขี่ "E-Power" "Hybrid Auto", "E-Hold" และ "E-Charge"  
ปอร์เช่ พานาเมร่า อี-ไฮบริด จะตั้งค่าการทำงานเริ่มต้นอัตโนมัติทุกครั้งเมื่อสตาร์ตเครื่องยนต์ด้วยรูปแบบการขับขี่จากพลังงานไฟฟ้า 100% ใน mode "E-Power" ในส่วนของ mode "Hybrid Auto" นั้นเป็นรูปแบบการขับขี่ที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาขึ้นใหม่ เมิ่อผู้ขับขี่เลือกใช้งานรูปแบบดังกล่าว พานาเมร่า (Panaemra) จะปรับตั้งการทำงานของระบบขับเคลื่อนทั้งหมดโดยอัตโนมัติเพื่อรองรับการขับขี่ที่ให้ประสิทธิภาพในการประหยัดสูงสุด  
รูปแบบการขับขี่ "E-Hold" เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทำงานของระบบการชาร์จพลังงานได้อย่างเต็มที่ พร้อมรองรับการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ของรถยนต์ปราศจากมลพิษหรือ zero-emissions mode ตัวอย่างเช่นในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเดินทางในเขตพื้นที่ที่มีความเข้มงวดในเรื่องสภาพแวดล้อม สำหรับ "E-Charge" mode เครื่องยนต์ เบนซิน V6 จะรับบทบาทในการชาร์จพลังงานไฟฟ้าคืนกลับให้แก่ระบบ ในการเลือกใช้งานรูปแบบการขับขี่ลักษณะนี้เครื่องยนต์เบนซินอาจทำงานมากกว่าความต้องการใช้กำลังจากเครื่องยนต์เพื่อรองรับการขับขี่ในขณะนั้น 
รูปแบบการขับขี่ที่เน้นสมรรถนะสูงสุดนั้นอยู่ใน mode การทำงานที่เรียกว่า "Sport" และ "Sport Plus" เครื่องยนต์ V6 ไบเทอร์โบ จะทำงานอย่างเต็มที่ต่อเนื่องเมื่อเลือกใช้ลักษณะการขับขี่ในรูปแบบทั้งสอง สำหรับ "Sport" อัตราการชาร์จพลังงานไฟฟ้าคืนกลับไปยังแบตเตอรี่นั้นจะถูกกำหนดให้อยู่ในระดับที่ต่ำสุดเพื่อให้แน่ใจว่าระบบขับเคลื่อนจะมีกำลังสำรองเพียงพอในการตอบสนองและรองรับการขับขี่แบบเน้นสมรรถนะอยู่ตลอดเวลาทุกครั้งที่ผู้ขับขี่ต้องการ 
ในส่วนของรูปแบบการขับ "Sport Plus" mode จะเป็นลักษณะการทำงานที่สมรรถนะสูงสุด ปลดปล่อย พานาเมร่า (Panamera) ให้ทำความเร็วสูงสุดทะลุขีดจำกัดจนถึงระดับ 278 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในรูปแบบการขับขี่นี้ระบบจะทำการ ชาร์จพลังงานในอัตราที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ จากการช่วยเหลือของเครื่องยนต์เบนซิน V6    

ปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) เจเนอเรชั่นที่สองประกอบด้วย พานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo) 550 แรงม้า/404 กิโลวัตต์ พานาเมร่า 4 เอส (Panamera 4S) 440 แรงม้า/324 กิโลวัตต์ และพานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid) 462 แรงม้า/340 กิโลวัตต์ จากสองระบบขับเคลื่อน ทั้ง 3 รุ่นคือตัวแทนของการผสมผสานรถสปอร์ตสมรรถนะสูงสายพันธุ์แท้ให้เป็นหนึ่งเดียวกับรถแกรนด์ทัวริ่งที่เพียบพร้อมไปด้วยความหรูหราควบรวมเอาที่สุดแห่งการขับขี่เข้ากันอย่างดีเยี่ยมกับความสะดวกสบายเหนือระดับ
ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง 40 กิโลเมตรต่อลิตร (25 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร) ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) 56 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้า 15.9 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร *ผลการทดสอบอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของยางรถยนต์ที่ใช้ 
ปอร์เช่ พานาเมร่า เทอร์โบ (Panamera Turbo): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง 10.6 - 10.7 กิโลเมตรต่อลิตร, (9.4-9.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร) อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยสำหรับการขับขี่ในเมือง 7.7 - 7.8 กิโลเมตรต่อลิตร (12.9-12.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร) สำหรับการขับขี่นอกเมือง 13.6 - 13.8 กิโลเมตรต่อลิตร (7.3-7.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร) ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) 214 - 212 กรัมต่อกิโลเมตร
ปอร์เช่ พานาเมร่า 4 เอส (Panamera 4S): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 12.1 - 12.3 กิโลเมตรต่อลิตร, (8.2-8.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร) อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยสำหรับการขับขี่ในเมือง 9.8 - 9.9 กิโลเมตรต่อลิตร (10.2-10.1 ลิตรต่อ 100 กิโลมตร) สำหรับการขับขี่นอกเมือง 14.7 - 14.9 กิโลเมตรต่อลิตร (6.8-6.7 ลิตรต่อ 100 กิโลมตร) ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) 186 - 184 กรัมต่อกิโลเมตร

แท็กที่เกี่ยวข้อง

porsche ปอร์เช่ porsche panamera ปอร์เช่ พานาเมร่า porsche panamera 4 e-hybrid

ข่าวและอีเว้นท์รถยนต์ล่าสุด




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)