Mercedes-Benz E 220 D AMG Dynamic เครื่องยนต์ใหม่ ใส่เทคโนโลยีสุดล้ำ
Mercedes-Benz ประเทศไทย จัดทดสอบกลุ่ม Mercedes-Benz E 220 d AMG Dynamic เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบคู่พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ 1,950 ซีซี 194 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติใหม่ 9G-Tronic 9 จังหวะ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจากโรงงานต่ำเพียง 25.6 กม./ลิตร* ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียงแค่ 102 กรัม/กิโลเมตร* รองรับไบโอดีเซล B5 และรุ่น E 220 d Exclusive ที่มีออปชั่นเพียงพอใช้งานอย่างครบถ้วน ราคา 3,990,000 บาท และ E 220 d AMG Dynamic ราคา 4,790,000 บาท
(*รับรองจากสหภาพยุโรป เพื่อเปรียบเทียบรถในแต่ละประเภทเท่านั้น ไม่สามารถใช้อ้างอิงกับคันใดคันหนึ่ง)
การทดสอบกลุ่มเส้นทางกรุงเทพฯ - เขาใหญ่ เริ่มต้นจากโรงแรมสุโขทัย ถนนสาทร - อัตตา เลคไซด์ รีสอร์ท สวีท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา รวมระยะทางกว่า 300 กม. โดยรถทดสอบทุกคันเป็นรุ่น E 220 d AMG Dynamic ทั้งหมด 15 คัน
ขอขอบคุณบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้เชิญทีมงานเช็คราคา.คอมร่วมทดสอบในครั้งนี้
Mercedes-Benz E 220 d AMG Dynamic ภายนอกหรูหราด้วยกระจังหน้าสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่พร้อมโลโก้ดาวสามแฉกไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์แบบ MULTIBEAM LED 84 ดวง ปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (ALS - Active Light System) กันชนทรงสปอร์ตพร้อมช่องดักลมขนาดใหญ่ 3 ช่อง ด้านข้างเส้นสายคล้ายๆ กับรุ่น C-Class แต่หากมองดีๆ แล้วก็ยังมีส่วนแตกต่างหลายจุด เช่น ขนาดตัวรถที่ใหญ่กว่า C-Class ซึ่งเป็นตามเอกลักษณ์ แต่เมื่อดูผ่านเมื่อมีขนาดเล็กกว่า E-Class รุ่นก่อนหน้า แต่ที่จริงแล้วระยะฐานล้อยาวขึ้น มิติตัวถัง กว้าง 1,852 X ยาว 4,923 X สูง 1,468 มม.
มาดูรอบๆ คันของ The new Mercedes-Benz E 220 d
ไฟหน้า
MULTIBEAM LED 84 ดวง ปรับตามการเลี้ยวบางส่วนโดยคงจุดส่องสว่างในทางหลักเอาไว้
หลังคาแบบ Panoramic Sunroof ระบบไฟฟ้าเปิดได้ทั้งผู้โดยสารตอนหน้าและตอนหลัง ส่วนท้ายลาดเอียงมากขึ้นและไฟท้ายสี่เหลี่ยมแนวเอียงที่ดูคล้ายกับ รุ่นพี่อย่างเอส-คลาส กันชนหลังพร้อมตกแต่งชายด้างล่างสีเงินและปลายท่อหลอกทรงเหลี่ยมทั้ง 2 ข้าง ล้อแม็กลาย 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว ยางขนาดหน้า 245/40 R19 หลัง 275/35 R19
Panoramic Sunroof
ภายในเหนือระดับหรูหราขึ้นกว่าอี-คลาสในหลายเจนฯ ที่ผ่านมา พวงมาลัย 3 ก้านทรงสปอร์ตแบบท้ายตัดหุ้มหนัง nappa มาตรวัดหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ widescreen cockpit 12.3 นิ้ว 2 จอ ระบบ Media Interface, USB และการเชื่อมต่อ Bluetooth, ช่องใส่การ์ด SDHC สำหรับ Garmin MAP PILOT เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต วิทยุ และ twin tuner จาก Burmester DSP 9 แชนแนล ที่ให้กำลังขับสูงสุดรวม 590 วัตต์
ระบบ COMAND Online นำระบบ infotainment, ระบบนำทาง และระบบการสื่อสารเชื่อมเข้าด้วยกัน ข้อมูลจะแสดงขึ้นบนจอความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว 2 จอ แสดงข้อมูลละเอียดชัดเจน ใช้งานง่าย และมีภาพสเหมือน 3 มิติกราฟิกสวยงาม เล่นไปเพลินตาไป แค่ลูกเล่นหน้าจอก็เพลินแล้ว
ระบบนำทางจากฮาร์ดดิสก์นำคุณไปสู่จุดหมายปลายทางจากความช่วยเหลือของ "Live Traffic Information" ที่แสดงข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android หรือ Apple CarPlay, Media Interface, USB และ Bluetooth และช่องเสียบการ์ด SDHC และ WLAN/Wifi ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมกันได้ถึงสามตัว
Touchpad และปุ่มควบคุมต่างๆ ปุ่มทางซ้ายสั่งปรับโหมดการขับขี่เพียงโยกขึ้น-ลง
คอนโซลกลางมีชุดควบคุมโดยใช้นิ้วสัมผัสเหมือนการใช้ Touchpad และสามารถใช้ปุ่มกลมๆ ควบคุมได้เช่นกัน ถัดลงมาเป็นระบบแอร์อัตโนมัติ ปุ่มเลือกการใช้งานหน้าจอแบบ "ช็อตคัต" และคงความคลาสสิกด้วยนาฬิกาแบบอนาล็อก นอกจากนี้สามารถควบคุมหน้าต่างๆ ได้บนพวงมาลัยอีกด้วย โดยทางขวาจะควบคุมหน้าปัด ทางซ้ายควบคุมหน้าจอเครื่องเสียง
เบาะคู่หน้านั่งกระชับสไตล์กึ่งบักเก็ตซีท ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางพร้อมดันหลังและหน่วยความจำ 3 ระดับ เบาะหลังกึ่งสปอร์ต พร้อมที่เท้าแขนและเปิดออกเพื่อหยิบของในห้องเก็บของท้ายรถได้ กล่องเก็บของคอนโซลกลางแบบฝาแยกเอกลักษณ์ที่ไม่ลืมเลือน
เบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำสำหรับตำแหน่งที่นั่ง พวงมาลัย และกระจกมองข้าง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังพับได้แบบ 1/3 และ 2/3 ม่านบังแดดประตูหลังซ้าย - ขวา ม่านบังแดดหลัง เลื่อนขึ้น - ลงด้วยระบบไฟฟ้า ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ (Push Start) ระบบปิด/เปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติ (HAND-FREE ACCESS) ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (wireless charging) กาบบันไดสเตนเลส พร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz แบบเรืองแสง ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต และก็ระบบปิดท้ายด้วยไฟฟ้า
ความปลอดภัยเต็มคัน ด้วยถุงลม 9 ตำแหน่ง. ระบบควบคุมการทรงตัว ESP, เบรกมือไฟฟ้า, เตือนแรงดันลมยาง, เซ็นเซอร์นำรถเข้าจอด, ระบบช่วยนำรถเข้าจอด, กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง เป็นต้น
Mercedes-benz E 220 D AMG Dynamic เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1,950 ซีซี เทอร์โบคู่พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 194 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 - 2,800 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9G - TRONIC) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering - wheel Gearshift Paddles) จะเห็นว่าแม้ความจุน้อยลงเนื่องจากการใช้เทคโนโลยีดาวน์ไซส์ ที่ให้ขนาดเล็กลงน้ำหนักเบาลง แต่ใช้พลังเทอร์โบแปรผันและระบบหัวฉีดที่มีแรงดันสูงกว่า 2,000 บาร์ ตัวเลขที่เคลมไว้จาก 0 - 100 กม./ชม. ใน 7.3 วินาที และความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
เครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ของ E 220 d ให้อัตราเร่งที่รุนแรงทันใจในไม่แพ้เครื่องยนต์เบนซินธรรมดา 2.5 ลิตร ด้วยแรงบิดขนาด 400 นิวตัน-เมตร สัมผัสได้ถึงแรงดึงนิดๆ ส่งผ่านเกียร์ 9 จังหวะ ให้ความแม่นยำและนุ่มไม่สะดุด แม้จะไม่กระชากโหดเหมือนในรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 2.1 ลิตร เทอร์โบ แต่เชื่อว่ากำลังระดับนี้เพียงพอต่อการใช้งานและให้ความประหยัดพอตัว ที่สำคัญช่วยรักษ์โลกด้วยการคายมลพิษต่ำมากเพียง 102 กรัม/กม. เท่านั้น
ด้ามเกียร์อยู่หลังพวงมาลัยนะรู้ยัง!
อัตราสิ้นเปลือง 6.5 ลิตร/กม. หรือ 15.38 กม./ลิตร สิ่งที่คงความโดดเด่นตลอดกาลนั่นคือ ระบบช่วงล่างที่สามารถปรับระดับการขับขี่พร้อมกับคำนวณรูปแบบการใช้กำลังของเครื่องยนต์ได้อย่างดี หากต้องการขับแบบทั่วไปที่ให้ความนุ่มนวลก็เพียงใช้โหมด Comfort ซึ่งจะปรับการทำงานทั้งเครื่องยนต์และช่วงล่างในแบบที่สบาย แต่ก็มั่นใจในทุกโค้ง ในโหมดนี้เป็นการใช้งานในแบบมาตรฐานนั่นเอง
ส่วนโหมด Sport จะเริ่มรับรู้ถึงความแข็งของช่วงล่างที่เฟิร์มขึ้น พร้อมกับเครื่องยนต์ที่ปรับรอบให้อยู่ในย่านสูงเพื่อตอบรับคันเร่งได้ฉับพลัน และถ้าต้องการความ Racing อีกนิดก็ใช้โหมด Sport+ เพิ่มความหนึบขึ้นอีกระดับและรอบเครื่องยนต์ที่ลากยาวขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้แพดเดิ้ลชิฟต์เลย
จุดเด่นของ E-Class ใหม่อีกอย่างนั่นคือ แม้จะมีความสปอร์ตในโหมดต่างๆ และเครื่องยนต์ที่ปรับการทำงานให้แรงขึ้น แต่สามารถคงความนุ่มนวนตามแบบฉบับของรถซีดานสุดหรูขนาดกลางได้อย่างลงตัว ซึ่งอาจไม่เหมาะนักกับผู้ที่คาดหวังจะได้ความดิบๆ ใน E-Class ใหม่นี้ อย่าลืมว่าทาง Mercedes-Benz ออกแบบ E-Class ให้คงคอนเซปต์ "หรูหรา สะดวกสบาย" จึงเน้นไปทางการใช้งานทั่วไปและภาพลักษณ์ที่หรูหรามากกว่า แต่ขณะเดียวกันก็ "แอบซ่าได้ทุกเมื่อ"
ล้อหน้าพร้อมยางขนาด 245/40 R19
ล้อหลังขนาด 275/35 R19 การควบคุมรวมถึงระบบเบรกแม้ใช้โหมดธรรมดาก็นับว่าเพียงพอแล้วในการขับขี่ทุกสภาพถนน คาลิปเปอร์ขนาดใหญ่โต (ซึ่งไม่ระบุขนาด) แถมจานเซาะร่องระบายอากาศจับม้าและแรงบิดระดับนี้ได้อย่างชิลๆ
ลูกเล่นหน้าจอที่ใช้งานแสนง่าย จากการใช้รูปประกอบและคำสั่งที่เข้าใจง่าย บวกกับปุ่มควบคุมก็ใช้ง่าย เล่นสักพักก็คุ้นเคย และยังมีอะไรให้เล่นอีกเพียบ
ฟังก์ชั่นแสดงกำลังเครื่องยนต์ ( KW-กิโลวัตต์) และแรงบิด (NM) ล้ำจริงๆ
เลือกโหมดการขับขี่ได้ทั้งในนี้และปุ่มด้านข้าง Touchpad คอนโซลกลาง
Comfort Mode
เลือกปรับโหมดพวงมาลัยได้ สรุปง่ายๆ โหมดการขับขี่ 5 รูปแบบคือ
- Comfort Mode รูปแบบการขับขี่ปกติ เครื่องยนต์ทำงานราบเรียบนุ่มนวล + ช่วงล่างนุ่มนวล พวงมาลัยเบาขับง่าย
- Sport Mode รูปแบบการขับขี่สปอร์ต เครื่องยนต์เริ่มคงไว้รอบสูงตอบสองการเร่งได้ดี + ช่วงล่างเริ่มหนึบๆ พวงมาลัยตึงมือน้ำหนักเพิ่มขึ้นเกาะถนนขึ้นอีกนิด
- Sport+ Mode รูปแบบการขับขี่สปอร์ต เครื่องยนต์ค้างรอบสูงและค้างตำแหน่งเกียร์ต่ำๆ + ช่วงล่างและพวงมาลัยหนึบมากขึ้นไปอีก ให้ความเกาะเหมือนรถสปอร์ตและกระด้างขึ้น
- Eco Mode การขับขี่แบบประหยัด เครื่องยนต์รอบต่ำเปลี่ยนเกียร์สูงตามความเร็วเหมาะสมเร่งไม่ค่อยไปเท่าไหร่+ช่วงล่างนุ่มนวลคล้ายโหมด Comfort
- Individual Mode เป็นโหมดที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกผสมผสานปรับตั้งเองได้ระหว่างเครื่องยนต์และช่วงล่างตามความชอบ
ระบบจอดเองโดยไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่ใช้คำสั่งเท่านั้นระบบถอยจอดเข้าซองและจอดขนานในเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี 220 ดี จะจัดการให้เองทั้ง เบรก-หมุนพวงมาลัย-เปลี่ยนเกียร์!
ทดสอบการจอดโดยอัตโนมัติของ The new E220d
Mercedes-Benz E 220 d ทดสอบอัตรเร่งในสนามบินเล็ก ออกตัวด้วยการเร่งเครื่องยนต์ค้างไว้ก่อนปล่อยเบรกครับ
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
Mercedes-benz E 220 d AMG Dynamic รถยนต์ที่ให้ภาพลักษณ์พร้อมความสะดวกสบายในทุกมิติ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่ขนาดเล็กลงมลพิษต่ำ ประหยัดรักษ์โลก และฟังก์ชั่นใช้งานที่สนุกทุกการขับขี่ เชื่อเถอะครับว่า E-Class ใหม่จะทำให้คุณต้องการขับด้วยตัวเองไม่ง้อคนขับรถแน่ๆ อีกทั้งยังจัดเต็มชุดแต่งในราคา 4,790,000 บาท และ The new E-Class E 220 d Exclusive ราคา 3,990,000 บาท