สัมผัสประสบการณ์การขับเหนือระดับกับ BMW Driving Experience 2016
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จัดกิจกรรม BMW Driving Experience 2016 โดยเชิญสื่อมวลชน เดินทางมาขับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูหลากหลายรุ่น เช่น BMW 118i M Sport, BMW 320d Luxury, BMW 320d Sport, BMW 525d M Sport และ BMW 330e M Sport ที่ใช้เทคโนโลยีปลั๊กอิน-ไฮบริด เพื่อสัมผัสขุมพลังและสมรรถนะของ ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ ระหว่างวันที่ 26-27 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา ด้านทีมงานเช็คราคา.คอม ได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวในช่วงเช้าวันที่ 27 พฤษภาคม โดยแบ่งสื่อมวลชนออกเป็น 2 กลุ่ม เพื่อให้กลุ่มแรกได้ทดลองสมรรถนะและขุมพลังของรถตามสถานีทดสอบและสนามแข่งจำลองก่อน ขณะที่อีกกลุ่มไปรับฟังเทคโนโลยีของ eDrive ที่โดดเด่นด้วยระบบปลั๊กอิน-ไฮบริด พร้อมทดลองขับโหมด EV หรือ eDrive ใน BMW 330e M Sport
ผู้เขียนได้อยู่กลุ่มแรก และได้ขับรุ่น 118i M Sport ก่อน โดยรอบแรกเป็นการขับตามผู้ฝึกสอนเข้าในสนามเพื่อฟังรูปแบบการทดสอบในสถานีต่างๆ และดูเส้นทางจำลองการขับช่วงสั้นๆ แต่มีหลากหลายจุดทดสอบ เช่น โค้งความเร็วปานกลาง, การเร่งและเบรก, การเข้าโค้งหักศอก, การเปลี่ยนเลนและการหักหลบกระทันหัน ซึ่งรถ BMW 118i M Sport ตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยม ตัวรถสไตล์คอมแพคผสานกับช่วงล่างที่ยอดเยี่ยมทำให้สนุกกับการขับได้ตลอด โดยเฉพาะการเข้าโค้งที่ฉับไว และเข้า-ออก ไพล่อนได้อย่างคล่องแคล่ว
ผ่านไป 3 รอบ ก็เปลี่ยนมาขับรุ่น 320d Sport ขนาดตัวถังใหญ่ขึ้น แต่ยังให้ความสนุกและการควบคุมที่ดี แต่ก็พบอาการหน้าดื้อง่ายขึ้นถ้าใช้ความเร็วระดับเดียวกับ 118i เป็นรถที่ให้ความสมดุลดีมาก แต่การขับในสนามจำลองที่ต้องใช้ความคล่องตัวสูงต้องยกให้ 118i เป็นพระเอก จากนั้นเปลี่ยนมาขับรุ่น 525d M Sport ตัวรถให้ความรู้สึกหนักแน่นและมั่นคงการขับผ่านตามสถานีทดสอบ เน้นจับอาการของรถและการแก้ไขสถานการณ์มากกว่า เพราะตัวรถขนาดใหญ่ขึ้น ฐานล้อยาวขึ้น อาการหน้าดื้อโค้งก็เกิดขึ้นง่ายตามไปด้วย จึงต้องใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับรถ
หลังจากขับครบ 3 รุ่น ก็สลับกับอีกกลุ่มไปฟังเรื่อง eDrive (EV) โดยมีรุ่น 330e M Sport เป็นคันเดโม่ เทคโยโลยีไฮบริดของ BMW ก้าวขึ้นมาอีกระดับโดยเก็บเกี่ยวจาก ActivHybrid ในรุ่นก่อน และปลั๊กอิน-ไฮบริด ใน i8 มาผสานและพัฒนาจนเป็นเทคโนโลยีล่าสุด พร้อมให้สมรรถนะร้อนแรงและประหยัดน้ำมันด้วยเทคโนโลยี iPerformance เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด ใน BMW 330e M Sport สามารถนำสมรรถนะของมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และยังสามารถขับในเมืองโดยไม่ปล่อยไอเสียได้ไกลถึง 40 กิโลเมตร ส่วนแบตเตอรี่รถมีความจุ 7.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง และสามารถชาร์จกับปลั๊กไฟบ้านทั่วไป โดยมีช่องเก็บสายชาร์จอยู่ใต้พื้นที่เก็บสัมภาระตอนท้าย เมื่อแบตเตอรี่หมด สามารถชาร์จด้วยไฟบ้านให้เต็ม ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ผู้เขียนได้มีโอกาสลองขับช่วงสั้นๆ ในโหมด Auto eDrive ตัวรถเงียบและเร่งขึ้นได้อย่างต่อเนื่องจนถึงจุดที่เครื่องยนต์สตาร์ททำงานร่วม ซึ่งค่อนข้างไว เป็นไปตามค่าการเปิด-ปิดของลิ้นปีกผีเสื้อ แต่ในโหมด MAX eDrive สามารถเร่งความเร็วได้มากขึ้น แบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเครื่องยนต์ไม่ทำงาน แต่ต้องไม่ใช้การ Kick Down ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงความรุดหน้าทางเทคโนโลยีของรถ BMW ที่พร้อมตอบสนองผู้ขับและสิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น นับเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคไฮบริดใหม่ของ BMW ที่ให้ความสมบูรณ์แบบมากกว่าที่เคย