Ferrari California T เป็นผลงานที่วิเศษที่สุดของสายพันธุ์เฟอร์รารี่ ที่มาพร้อมกับหลังคาแข็งพับได้ (RHT) และโครงสร้าง 2+ รวมถึงคุณสมบัติอื่นๆทำให้รถรุ่นนี้เป็นรถอเนกประสงค์ที่ปรับเปลี่ยนได้สูงสุดตามความต้องการในการใช้งาน การผสมผสานอย่างลงตัวของความปราดเปรียวและและความสง่างาม Ferrari California T ขับเคลื่อนด้วยระบบหัวฉีดตรงจากเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ V8 ขนาด 3,855 ซีซี. ที่ให้พลังแรงม้าสูงถึง 560 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที ส่งผลให้เกิดพลังงานถึง 145 แรงม้า/ลิตร ซึ่งสูงสุดในกลุ่มนี้ แรงบิดสูงสุด 755 นิวตันเมตร ในเกียร์ 7 โดยมีอัตราเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที และส่งผลถึงอัตราเร่งความเร็วพิเศษ แม้ในเกียร์ที่สูงขึ้น และการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม
Ferrari California T ระบบควบคุมใหม่ล่าสุดของ F1-Trac ซึ่งรับประกันอัตราเร่งสูงสุดและเบรกคาร์บอนเซรามิก CCM3 กับดิสก์เบรกใหม่ ร่วมกับระบบ ESP Premium 8.0 ซึ่งควบคุมการเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง โดยให้ระยะหยุดสั้นมาก จากความเร็ว 100-0 กม./ชม. ในระยะทางเพียง 34 เมตร การผสมผสานสถาปัตยกรรมที่ชัดเจนแน่วแน่ของแคลิฟอร์เนีย ที กับการควบคุมที่ทรงประสิทธิภาพ และเครื่องยนต์ใหม่นั้นรับประกันความสนุกในการขับขี่ ที่มอบทั้งความท้าทายและสภาพการขับขี่ที่ผ่อนคลายมากขึ้น
McLaren 570S Coupe รุ่นแรกในสปอร์ตซีรีส์ นวัตกรรมยานยนต์จากอังกฤษ ชูไฮไลท์ 5 ลักษณะเด่น ตอบสนองความต้องการของหนุ่มสาวสมัยใหม่ อาทิ พละกำลังสูงสุดและน้ำหนักเบาที่สุดของสปอร์ตคาร์ทั้งหมด ด้วยโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ เบากว่าคู่แข่งเกือบ 140 กก., สามารถขับได้ทุกวัน, การออกแบบด้านอากาศพลศาสตร์ที่ดีเยี่ยม, การตกแต่งที่ประณีตจากช่างฝีมือผู้ชำนาญการ, และยังให้ผู้ขับมีความรู้สึกร่วมและเร้าใจสูงสุด อัตราส่วนกำลังเครื่องต่อน้ำหนักอยู่ที่ 434 แรงม้าต่อตัน
McLaren 570S Coupe ใช้เครื่องยนต์ขนาด 3.8 ลิตร Twinturbo V8 ด้วยชิ้นส่วนใหม่กว่า 30% ให้พละกำลัง 570 แรงม้า ที่ 7,400 รอบ/นาที แรงบิด 600 นิวตันเมตร จะอยู่ที่ 5,000-6,500 รอบ/นาที ให้พละกำลังมหาศาลผ่านเกียร์แบบ 7 Speed (SSG) ระบบ Stop-Start นำมาใช้ในแมคลาเรนเป็นครั้งแรก เอื้อการขับขี่ในเมือง และยังมีการปรับปรุงอัตราการกินน้ำมันอยู่ที่ 25.5 mpg และการปล่อยมลพิษ 258 กรัม/กิโลเมตร
V8 DOHC Turbo