เข้าสู่ช่วง เทศกาลสงกรานต์ 2568 ซึ่งถือเป็นวันปีใหม่ของไทย เป็นเทศกาลแห่งความสุขของหลาย ๆ คน โดยจะมีช่วงหยุดยาวหลาย ๆ วันติดต่อกัน หลายท่านก็เตรียมตัวเดินทางกลับบ้านเกิดหรือออกเดินทางท่องเที่ยวกับครอบครัว แต่รถยนต์ของคุณนั้น? พร้อมแค่ไหนสำหรับการเดินทางไกลในช่วงสงกรานต์ บางท่านที่มีเวลาเอารถไปเข้าศูนย์บริการที่มีการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ในช่วงเทศกาลนี้ แต่ท่านที่ไม่มีเวลา กูรูช้าง-สินธนุ จำปีศรี ก็มีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงแค่สละเวลาไม่กี่นาที เพื่อตรวจเช็กสภาพรถเบื้องต้นไปดูกันเลย
1. ตรวจสภาพรอบคัน
เดินดูรอบรถใช้สายตาสำรวจความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น เช่น ยางแบน, ยางโดนของมีคม, ยางโดนตะปู, กันชนเบี้ยว ฯลฯ ก้มดูใต้ท้องรถ หากพบคราบน้ำหรือของเหลวอาจเป็นคราบน้ำมัน (เครื่อง,เบรก) หยด ต้องระวังอาจมีรอยรั่ว ถ้าไม่รีบแก้ไขอาจมีความเสียหายตามมาในอนาคต
2. ระบบไฟส่องสว่าง
- ไฟหน้า: ติดครบไหม? แสงพุ่งตรงพื้นถนนหรือแยงตาคนอื่น? หรือไม่
- ไฟเบรก: กดเบรกแล้วดูจากเงาสะท้อนหรือกำแพงด้านหลังว่าติดครบหรือไม่
- ไฟเลี้ยว: ใช้ได้ทุกจุดมั้ย ถ้ามีไฟกระพริบเร็วผิดปกติเป็นสัญญาณที่แสดงว่าหลอดไฟอาจขาด
3. ตรวจของเหลวต่าง ๆ
- น้ำมันเครื่อง: เช็คดูด้วยตัวเองง่ายๆ ด้วยการดึงก้านวัดระดับ เพื่อตรวจระดับและสี ที่ควรอยู่ในขีด "MAX" และใสสะอาด
- น้ำหล่อเย็น (หม้อน้ำ): เติมเฉพาะน้ำยาหล่อเย็นเท่านั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำเปล่าเติมเข้าไปผสมกับน้ำยาหล่อ! ถ้ามีเหตุจำเป็นเมื่อมันพร่องลงไปก็ควรซื้อน้ำยาหล่อเย็นมาเติม แต่ถ้าถึงขั้นหม้อน้ำแห้งก็ไม่ควรขับ
- น้ำมันเบรก: ระดับควรใกล้ขีด "MAX" หากพร่องมาก ให้สังเกตผ้าเบรกว่ามีสภาพเป็นอย่างไร ถึงเวลาเปลี่ยนหรือไม่
- แบตเตอรี่ 12V : ควรตรวจสภาพแบตเตอรี่ (รถยนต์ไฟฟ้าก็มีแบตเตอรี่ 12V เช่นกัน เพราะเป็นตัวจ่ายไฟให้ระบบสำคัญแม้ไม่ได้สตาร์ทรถ
4. ยางรถยนต์
ตรวจปีที่ผลิต และอายุการใช้งาน (ไม่ควรเกิน 5 ปี) ดูดอกยางว่าเหลือพอไหม เสื่อมหรือแตกลายงาไหม และอย่าลืมตรวจข้างในของหน้ายาง/แก้มยางด้วย อาจมีปัญหาโดยที่มองไม่เห็นจากด้านนอก
5. ฟังเสียงผิดปกติ
สตาร์ทรถฟังเสียงรอบเดินเบา หรือแม้แต่ในขณะขับลองเงียบฟังเสียงเวลาโยกพวงมาลัย ขึ้นลูกระนาด หรือเลี้ยวแรง ๆ ถ้ามีเสียง "ดัง แกรก" "จี๊ด ๆ" ควรเข้าตรวจเช็กช่วงล่าง
6. วางแผนการเดินทางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
- ประเมินระยะทางจริง จากแบตเตอรี่ 100% อาจใช้ได้จริงเพียง 70-80%
- วางแผนแวะชาร์จทุก 50% เพื่อเผื่อคิวและป้องกันหมดกลางทาง (ในกรณีที่ตรงกับเทศกาลที่มีวันหยุดยาวอย่างนี้ เหลือดีกว่าขาดครับ)
- เตรียมแอปจองสถานีชาร์จหลายแอป เช่น EV Station, EleX by EGAT, Shell Recharge เป็นต้น
- ถ้าจำเป็นต้องนอนพักระหว่างทาง เลือกสถานีบริการที่ปลอดภัย มีไฟส่องสว่าง กล้องวงจรปิด และสิ่งอำนวยความสะดวก
7. ตรวจมาตรวัดและไฟเตือนต่าง ๆ
ไฟเตือนสีเหลือง/แดง มีความหมายสำคัญ เช่น ลมยางต่ำ น้ำมันเบรกพร่อง หรือเครื่องยนต์ร้อน ฉะนั้นอ่านคู่มือรถหรือใช้แอปตรวจเช็กรถ ถ้าไม่แน่ใจว่าไฟนั้นคืออะไร
8. สุขภาพผู้ขับก็สำคัญ
- พักผ่อนให้เพียงพอ ก่อนขับ
- จิบน้ำบ่อย ๆ และแวะพักเป็นระยะ ป้องกันง่วงและอาการขาดน้ำ
- ปรับเบาะนั่งให้เหมาะสม ลดอาการเมื่อยล้า
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- อย่าใช้ไฟหน้าฟุ้ง/แยงตา หากเปลี่ยนเป็น LED ให้เลือกหลอดคุณภาพสูง
- ถ้าไฟเบรกไม่ติด ลองเช็กสวิตช์เบรก อาจหลวมหรือชำรุด
- หากต้องพักนอนในรถ เลือกจอดในที่ปลอดภัย คนพลุกพล่าน มีไฟสว่าง
สุดท้าย... ขับขี่ปลอดภัย เมาไม่ขับ, รักษามารยาทบนท้องถนน, หลีกเลี่ยงการแซงแบบเสี่ยง หรือขับปาดคอสะพาน ขอให้สงกรานต์นี้เต็มไปด้วยความสุข ความปลอดภัย และการเริ่มต้นปีใหม่ไทยที่ดีครับ ขอให้คุณและครอบครัวมีความสุขในช่วงสงกรานต์ เดินทางปลอดภัย แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุในทุกเส้นทาง ได้พักผ่อนเต็มที่ และเริ่มต้นปีใหม่ไทยด้วยพลังบวกและสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตนะครับ เริ่มต้นปีใหม่ไทยด้วยรอยยิ้มและพลังบวกนะครับ เดินทางปลอดภัยครับทุกคน 🙏