โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (Toyota) เผยโฉม
Toyota C-HR+ พร้อม
bZ4X และ
Lexus RZ เป็นครั้งแรกในยุโรปซึ่งถือเป็นการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) และเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางในการบรรลุเป้าหมาย
สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยโตโยต้ามุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างรถยนต์ที่ดียิ่งขึ้น ในการพัฒนาเพื่อให้บรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนนั้น มีการนำระบบขับเคลื่อนประเภทต่าง ๆ มาใช้ การนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้า Toyota C-HR+ ในยุโรปก็เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ ยุโรปมีอัตราการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าสูงกว่าโดยเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV จึงมีความจำเป็นต้องเสริมความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์ในรูปแบบดังกล่าว
Toyota C-HR+ รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่
Toyota C-HR+ มีสไตล์โฉบเฉี่ยวสะดุดตาพร้อมทั้งให้ความสะดวกสบายด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางและพื้นที่เก็บสัมภาระที่มีความจุมากถึง 416 ลิตร ใช้แพลตฟอร์ม e-TNGA ระบบกันสะเทือนได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ
Toyota C-HR+ (ในยุโรป) มี 3 รุ่นย่อย ให้เลือกโดยใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ แบ่งออกเป็น
- Standard (FWD) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ให้กำลัง 123 kW (165 แรงม้า) แบตเตอรี่ขนาดความจุ 57.5 kWh สร้างอัตราเร่ง 0-100 km/h ภายในเวลา 8.6 วินาที วิ่งได้ไกล 445 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP)
- Long Range (FWD) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ให้กำลัง 165 kW (222 แรงม้า) แบตเตอรี่ขนาดความจุ 77 kWh สร้างอัตราเร่ง 0-100 km/h ภายในเวลา 7.4 วินาที วิ่งได้ไกล 600 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP)
- Performance (AWD) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลัง 252 kW (338 แรงม้า) แบตเตอรี่ขนาดความจุ 77 kWh สร้างอัตราเร่ง 0-100 km/h ภายในเวลา 5.2 วินาที วิ่งได้ไกล 525 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP)
การชาร์จไฟ Toyota C-HR+ ใช้หัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo รองรับกระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 11 kW / 22 kW, dระแสตรง DC รองรับสูงสุด 150 kW
ฟีเจอร์สำคัญของ Toyota C-HR+
- ตัวถังพิกัด B-SUV Coupe Crossover
- ไฟหน้า-ไฟท้าย Full LED
- หน้าจอกลาง Touchscreen 14 นิ้ว
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Toyota Safety Ssense
- ระบบเตือนมุมอับสายตา
- ระบบเบรกอัตโนมัติขณะถอยจอด
- ระบบช่วยจอด Park Assist
- กล้องรอบคัน 360 องศา
วิสัยทัศน์ของโตโยต้าและแนวทางการพัฒนา
Simon Humphries หัวหน้าฝ่ายแบรนด์ของโตโยต้า ได้เน้นย้ำถึงแนวทางของบริษัทที่มุ่งเน้นสร้าง รถยนต์ที่ดีขึ้นตลอดไป ซึ่งเป็นหลักการที่ Akio Toyoda วางรากฐานไว้ แนวทางนี้ส่งเสริมให้ทีมออกแบบ วิศวกร และนักวางแผนสามารถพัฒนาและตีความแนวคิดได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าในแต่ละภูมิภาค
ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
- Hilux Champ – ตอบโจทย์การทำงานในประเทศไทย
- Alphard – นิยามใหม่ของพื้นที่เคลื่อนที่ในญี่ปุ่น
- Land Cruiser – ออกแบบเพื่อความทนทานและการใช้งานจริง
- Prius – ผสมผสานประสิทธิภาพและเสน่ห์ในการขับขี่
- Century – สัญลักษณ์แห่งนวัตกรรมและมรดกของโตโยต้า
แนวทางการผลิตในแต่ละภูมิภาค
- จีน: bZ3X, bZ3C และ bZ7 ออกแบบให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง
- อเมริกา: Tacoma และ 4Runner รองรับการผจญภัยและการพักผ่อน
- ยุโรป: Aygo Cross เพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่
โตโยต้า มีพนักงานกว่า 380,000 คน ศูนย์วิจัยและพัฒนา 22 แห่ง และโรงงานผลิต 69 แห่งทั่วโลก โดยพัฒนาเทคโนโลยีขับเคลื่อนที่หลากหลาย อาทิ
- รถยนต์ไฮบริดเชื้อเพลิงยืดหยุ่นในอเมริกาใต้
- รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงในญี่ปุ่น
- รถยนต์ไฟฟ้า BEV รุ่นใหม่ 3 รุ่นในยุโรป
Toyota C-HR+ ถือเป็นหนึ่งในรถที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และการพัฒนารุ่นไฟฟ้าล้วนเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาด โดยมีกำหนดเปิดตัวในยุโรปช่วงครึ่งหลังของปี 2025 และเริ่มส่งมอบในปี 2026