ปัจจุบัน
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากรถประเภทนี้มีข้อดีอยู่ที่ความประหยัดพลังงานและการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจำเป็นต้องพิจารณาอีกหลายปัจจัย เพื่อให้ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้มากที่สุด บทความนี้
กูรูช้าง-สินธนุ จำปีศรี จะมาแนะนำหลักการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ว่าจะต้องดูเรื่องอะไรบ้าง ตามกูรูช้างไปดูกันเลย
1. ระยะทางการใช้งานต่อวัน
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาคือระยะทางที่คุณขับขี่ต่อวัน หากคุณใช้รถเฉลี่ยวันละไม่เกิน 100 กิโลเมตร รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน ปัจจุบันมีรุ่นที่วิ่งได้ตั้งแต่ 300-600 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ดังนั้น หากคุณมีการเดินทางไกลเพียงบางโอกาส การเลือกซื้อรถที่มีระยะการขับขี่ที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญ
2. ความสะดวกในการชาร์จ
การชาร์จไฟเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาเป็นลำดับต้นๆ โดยแบ่งออกเป็น 2 กรณีหลัก ก็คือ
- มีที่ชาร์จที่บ้าน: เหมาะสำหรับผู้ที่มีบ้านพักอาศัยส่วนตัวและสามารถติดตั้งที่ชาร์จไฟแบบ Wall Charger ได้ ซึ่งช่วยให้สะดวกและประหยัดเวลากว่าการไปชาร์จนอกสถานที่
- ไม่มีที่ชาร์จที่บ้าน: หากคุณอยู่คอนโดมิเนียมหรืออพาร์ตเมนต์ ควรตรวจสอบว่าสถานที่พักของคุณมีจุดชาร์จหรือไม่ หากไม่มี คุณอาจต้องพึ่งพาสถานีชาร์จสาธารณะ ซึ่งอาจต้องปรับพฤติกรรมการใช้รถให้เหมาะสม เช่น การแวะชาร์จระหว่างทำธุระ
.jpg.webp)
3. ความจุแบตเตอรี่และระยะทางที่รองรับ
หากคุณต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ควรเลือกรถที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้สามารถขับขี่ได้ไกลขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาค่า NEDC หรือ WLTP ซึ่งเป็นมาตรฐานการวัดระยะทางของรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากในสถานการณ์การขับขี่จริง ระยะทางอาจลดลงจากที่โฆษณาไว้ประมาณ 10-20%
4. งบประมาณและความคุ้มค่า
การเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าควรอยู่ในงบประมาณที่เหมาะสม โดยพิจารณาจาก
- ราคาซื้อรถยนต์
- ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งที่ชาร์จ (ถ้าต้องการ)
- ค่าประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอาจสูงกว่ารถยนต์สันดาปภายในเล็กน้อย
- ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้ามักมีค่าซ่อมต่ำกว่ารถยนต์น้ำมัน
5. เทคโนโลยีและความปลอดภัย
รถยนต์ไฟฟ้ามักมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เช่น
- ระบบขับขี่อัตโนมัติ (ADAS)
- ระบบเบรกฉุกเฉิน
- กล้องรอบคัน และเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง
- ซอฟต์แวร์ที่สามารถอัปเดตผ่านอินเทอร์เน็ต (OTA)
การเลือกซื้อรถที่มีเทคโนโลยีที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับการขับขี่ของคุณ
6. ความทนทานและค่าบำรุงรักษา
แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมีชิ้นส่วนน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป ทำให้ค่าบำรุงรักษาน้อยลง แต่ยังมีปัจจัยที่ควรคำนึงถึง ได้แก่
- อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ซึ่งมักมีการรับประกัน 8-10 ปี
- การดูแลรักษาระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่
- ค่าซ่อมอะไหล่เฉพาะทาง เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า และชุดควบคุมพลังงาน
.jpg.webp)
7. ความสามารถในการชาร์จเร็ว (Fast Charging)
หากคุณต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ควรเลือกรถที่รองรับการชาร์จเร็ว (DC Fast Charging) ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-80% ได้ภายใน 30-45 นาที อย่างไรก็ตาม ความเร็วในการชาร์จขึ้นอยู่กับกำลังของหัวชาร์จและแบตเตอรี่ของรถ
สรุป
ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้เพื่อให้แน่ใจว่ารถที่เลือกจะตอบโจทย์การใช้งานของคุณ
- ระยะทางที่ขับขี่ต่อวัน
- ความสะดวกในการชาร์จ
- ความจุแบตเตอรี่และระยะทางขับขี่
- งบประมาณและค่าใช้จ่าย
- เทคโนโลยีและความปลอดภัย
- ความทนทานและค่าบำรุงรักษา
- ความสามารถในการชาร์จเร็ว
การเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่ดีขึ้น และคุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาว หากคุณสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ครบถ้วน นั่นแปลว่าคุณพร้อมแล้วที่จะเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า!