MINI Aceman SE เป็นรถครอสโอเวอร์ขนาดย่อมที่มากับระบบการขับขี่ด้วยไฟฟ้า 100% เปิดตัวมาพร้อม
ราคาจำหน่ายที่ 1,999,000 บาท โดยภาพรวมของตลาดรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีการเติบโตอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะแบรนด์จากจีนที่เข้ามาแข่งขันในตลาด จนเกิดสงครามราคา ส่งผลให้ทั้งรถยนต์มือสอง รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปจนถึงรถยนต์จากทางยุโรปที่เป็น EV ต่างก็ต้องปรับราคาตามสถานการณ์ตลาด แล้วอะไรที่ทำให้
MINI นั้นยังคงเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีใจรักในแบรนด์ MINI รวทถึงรถยนต์ไฟฟ้า
กูรูบอม-ชลัคร ช่วยชู จะมาเล่าให้ฟังจากการได้สัมผัสกับรถรุ่นนี้รวมถึงการขับขี่แบบ Go-Kart Feeling ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้ทราบกัน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
โดยทางแบรนด์
MINI ก็เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เข้ามาร่วมในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% อย่างจริงจัง เพื่อเป็นการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค โดยได้นำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหลายรุ่น โดยแบ่งออกเป็น 4 รุ่นหลัก ได้แก่
- MINI Cooper SE - 3 ประตู 4 ที่นั่ง ราคา 1,699,000 บาท
- MINI Aceman SE - 5 ประตู 5 ที่นั่ง ราคา 1,999,000 บาท
- MINI Countryman - SUV Crossover 5 ประตู ราคา 3,399,000 บาท
- MINI John Cooper Works Electric - เป็นรุ่นสมรรถนะสูง คาดว่าจะเปิดราคาในงาน Motor Show
.jpg.webp)
MINI Aceman SE ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย
MINI Aceman SE เป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นรถยนต์ 5 ประตู พร้อมรองรับผู้โดยสารถึง 5 ที่นั่ง และยังสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องตัว รวมถึงมีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม โดยมีรายละเอียดดังนี้
- พละกำลัง: 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร
- แบตเตอรี่: 54.2 kWh
- ระยะทางขับขี่: 405 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP)
- ระบบขับเคลื่อนด้วย ล้อหน้า
- เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 7.1 วินาที
- ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 170 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ด้าน MINI Countryman ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์แบบครอบครัว มีจุดเด่นที่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (All Four) และพละกำลังสูงถึง 313 แรงม้า และ MINI John Cooper Works Electric (JCW) เป็นครั้งแรกของ JCW กับการก้าวสู่โลกของยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว เป็นรถสำหรับสายชื่นชอบความแรง โฉบเฉี่ยวด้วยโลโก้ JCW สีแดง-ขาว-ดำ, สปอยเลอร์ท้ายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านอากาศพลศาสตร์ ให้ระยะทางการขับขี่ที่ 371 กิโลเมตร/การชาร์จหนึ่งครั้ง
.jpg.webp)
เทคโนโลยีและฟีเจอร์เด่นของ MINI All-Electric
- โหมดขับขี่ที่หลากหลาย: มีโหมด Eco, Normal และ Sport เพื่อปรับการขับขี่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์
- Digital Key: ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน รองรับทั้ง iOS และ Android
- หน้าจอ OLED และระบบแสดงผล Ambient Light: ปรับแต่งธีมสีสันภายในห้องโดยสารตามโหมดการขับขี่
- การเชื่อมต่อและการสั่งงานผ่านแอปพลิเคชัน: ช่วยให้เจ้าของรถสามารถควบคุมการตั้งค่ารถจากระยะไกล
.jpg.webp)
ความคุ้มค่าของ MINI EV
แม้ MINI All-Electric จะเป็นแบรนด์ยุโรป แต่ราคาของรุ่นที่ผลิตในจีนอย่าง Cooper SE และ Aceman นั้นสามารถแข่งขันได้ในตลาด EV ได้ดี ด้วยราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ในขณะที่รุ่นนำเข้าจากเยอรมันอย่าง Countryman มีราคาสูงกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงต้นทุนการผลิตที่แตกต่างกัน
บทสรุป
MINI All-Electric เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งดีไซน์ เทคโนโลยี และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม การมาของรุ่น JCW All-Electric น่าจะช่วยเสริมความครบครันให้กับไลน์อัปของ MINI EV และเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองในตลาดรถไฟฟ้า หากสนใจ สามารถเข้าชมรถยนต์ MINI EV ทุกรุ่นได้ที่งาน Motor Show หรือโชว์รูม MINI ทั่วประเทศ!