ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

icon-filter ค้นหารถยนต์แบบละเอียด
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

Preview..New MG IM6 ยนตรกรรมรุ่นล่าสุดที่เข้ามาเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์อีวีพรีเมียมด้วย 2 ทางเลือก ได้แก่ Premium 2WD และ Performance AWD

icon 3 มี.ค. 68 icon 123
Preview..New MG IM6 ยนตรกรรมรุ่นล่าสุดที่เข้ามาเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์อีวีพรีเมียมด้วย 2 ทางเลือก ได้แก่ Premium 2WD และ Performance AWD
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์ เอ็มจี ในประเทศไทย เผยหนึ่งในโมเดลเรือธงจากเครือ SAIC MOTOR CORPORATION อย่าง New MG IM6 ที่พร้อมเข้ามาเปลี่ยนโฉมวงการยานยนต์ไทย โดยจะรุ่นที่โดดเด่น ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ผสานกับนวัตกรรมขั้นสูงและงานออกแบบที่เหนือระดับ แต่ยังชูจุดเด่นในการเป็นยนตรกรรมอีวีระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์ทั้งด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความหรูหรา เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ล้ำสมัยสำหรับผู้ใช้งาน ครั้งนี้ แอดช้าง-สินธนุ จำปีศรี จะพาไปทำความรู้จักกับรถรุ่นนี้ให้มากขึ้นว่ามีจุดเด่นอะไรบ้าง!
 
 

New MG IM6 รถยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำ ฟีเจอร์ครบครัน

ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยเฉพาะรุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย และความคุ้มค่า ซึ่งหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความสนใจไม่น้อยคือ New MG IM6 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ผสานการออกแบบหรูหราและสมรรถนะที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ที่สะท้อนภาพการไม่หยุดนิ่งในการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ใหม่ ๆ 

ดีไซน์ภายนอกหรูหราแต่ล้ำสมัย แปลกใหม่และโดดเด่นไม่ซ้ำใคร 

New MG IM6 มาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัย โฉบเฉี่ยว และให้ความรู้สึกพรีเมียมด้วยตัวถังแบบรถเอสยูวีคูเป้ไฟฟ้าสุดหรู ที่มากับมิติตัวถัง ยาว 4,904 มิลลืเมตร, กว้าง 1,988 มิลลิเมตร, สูง 1,669 มิลลิเมตร และมีระยะความยาวฐานล้อ 2,950 มิลลิเมตร ภายใต้คอนเซ็ปต์ Gentle Sculpture
ดีไซน์ไฟหน้าดีไซน์แบบ L Shape, ไฟท้ายพาดยาวแบบ Skyline Taillights และการออกแบบเส้นสายให้ดูโค้งโอบล้อมลงตัวเข้ากับช่วงท้ายรถ โดยใช้หลักอากาศพลศาสตร์ในการออกแบบเพื่อช่วยเสริมสมรรถนะและเพิ่มประสิทธิภาพของตัวรถ
ล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ เพิ่มความสปอร์ตและความโดดเด่นบนท้องถนน โดยจะใช้ล้ออัลลอย ขนาด 21 นิ้ว สำหรับรุ่น Performance AWD และขนาด 20 นิ้ว สำหรับรุ่น Premium 2WD  นอกจากนี้ New MG IM 6 ก็ยังมี 
  • กระจกข้างแบบไร้กรอบ พร้อมกระจกรอบคัน 2 ชั้น
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
  •  ไฟหน้า ไฟท้าย และ ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED 
  • ระบบควบคุมการ เปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
  • กระจกมองข้างพับ และปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
  • ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
  • หลังคากระจกพาโนรามิก
  • ที่เปิดประตูแบบเก็บซ่อนในตัวรถ (Hidden Door Handle)

ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางและล้ำสมัย กับหลากลูกเล่นที่ตอบไลฟ์สไตล์ สะดวกสบาย และลงตัว  

ภายในของ New MG IM6 ถูกออกแบบให้สะดวกสบายและหรูหรา โดยให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุพรีเมียม และการจัดวางที่ประณีตบรรจง เน้นความกว้าง ทำให้ดูโล่ง โปร่ง สบาย แต่ยังคงจุดเด่นของการเป็นรถอเนกประสงค์ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระรอบคัน ครบครันด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ล้ำสมัย และใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ระดับไฮเอนด์
  • คอนโซลหน้าเรียบหรูด้วยวัสดุ Soft Touch พร้อมที่วางแก้ว และรองรับการชาร์จแบบไร้สายกำลังไฟสูงสุด 50 วัตต์ (Wireless Charger)
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์ 
  • เบาะนั่ง POPO Sofa ทรงขนมปัง พร้อมสัมผัสพรีเมี่ยมโดยหุ้มด้วยวัสดุสังเคราะห์ โดยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง  เบาะคู่หน้าเป็นแบบระบายความร้อน พร้อมระบบนวดสำหรับผู้ขับขี่ 
  • เบาะนั่งด้านหลังพนักพิงพับได้ 60:40 
  • หน้าจอระบบสัมผัส Intelligent Immersive Touch Screens จำนวน 2 จอขนาดใหญ่ ประกอบด้วย หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 26.3 นิ้ว และหน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 10.5 นิ้ว สำหรับควบคุมส่วนต่าง ๆ ภายในรถ 
  • ลำโพงรอบทิศทาง 20 จุด (ลำโพงรอบทิศทาง 16 จุด และลำโพงบริเวณหลังคา 4 จุด)
  • ระบบสั่งการอัจฉริยะ IM OS
  • Interactive Ambient Light ที่สามารถเปลี่ยนได้ 256 เฉดสี
  • กระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down
  • กระจกมองหลังแบบ Streaming Media Rearview Mirror
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกโซนอิสระ พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้ารถ จุได้มากถึง 32 ลิตร, พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายรถ จุได้มากถึง 596 ลิตร และเมื่อพับเบาะสามารถจุได้มากถึง 1,640 ลิตร พร้อมที่เก็บสัมภาระเพิ่มเติมที่ท้ายรถได้อีก 69 ลิตร 
  • ฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบ เตะเปิดอัตโนมัติ
  • ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android แบบไร้สาย
  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE C จำนวน 2 จุด
  • เพิ่มเติมความพิเศษด้วย IM MAG HUB อุปกรณ์เสริมติดแม่เหล็กภายในตัวรถ เพื่อใช้ติดตั้งแอคเซสเซอรี่ต่าง ๆ อาทิ โคมไฟ กระจกแต่งหน้า ไฟอ่านหนังสือ ฯลฯ จำนวน 5 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นผลงานการสร้างสรรค์เฉพาะจาก SAIC เพื่อครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานรถอย่างแท้จริง 

สมรรถนะและระบบขับเคลื่อน

New MG IM6 ไม่เพียงแค่ดีไซน์สวยงาม แต่ยังมาพร้อมกับสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ที่รังสรรค์บนแชสซีดิจิทัลอัจฉริยะใหม่ (IM Digital Chassis) ทำจากอะลูมิเนียม มอบความสมดุลและประสิทธิภาพในการขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยมมาพร้อมกับชิปประมวลผลระดับไฮเอนด์สำหรับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง 
  • ขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor
    • รุ่น Premium 2WD มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้พละกำลังสูงสุด 295 แรงม้า (217 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 5.9 วินาที
    • รุ่น Performance AWD มอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้พละกำลังสูงสุด 787 แรงม้า (572 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 802 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.48 วินาที โดยสามารถทำความเร็วสูงสุด (Top speed) ได้มากกว่า 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 
จากความเหนือชั้นและขั้นกว่าของสถาปัตยกรรม 800V Dual SiC Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานที่ออกแบบโดยเฉพาะจาก SAIC MOTOR CORPORATION ทำให้ New MG IM6 มีความสามารถในการชาร์จไฟได้ไวและเพิ่มระยะทางในการขับต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ เอ็มจี ยังมอบความสะดวกสบาย ให้การใช้รถอีวีเป็นเรื่องที่ง่ายด้วยความพร้อมของสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG SUPER CHARGE ที่พร้อมให้บริการแล้วกว่า 140 แห่ง ทั่วประเทศ 
  • แบตเตอรี่ Lithium-ion  
    • รุ่น Premium 2WD ขนาดความจุ 75 kWh ขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 400 โวลต์ สามารถวิ่งได้ระยะทาง 550 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
    • รุ่น Performance AWD ขนาดความจุ 100 kWh ขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 875 โวลต์ สามารถวิ่งได้ระยะทาง 634 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC 
  • ระบบ Cooling system เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่สามารถระบายความร้อนได้ 15 องศาเซลเซียส ภายในเวลาเพียง 30 วินาที
  • แบตเตอรี่ 12V แบบ Lithium- ion 
  • ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% - 80% ใช้เวลาน้อยกว่า 20 นาที* ด้วยแรงดันไฟฟ้า 800 โวลต์ รองรับการชาร์จแบบกระแสตรงสูงสุด 396 kW  
  • รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสูงสุด 6.6 kW
นอกจากนี้ New MG IM6 ยังมี
  • ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 2 ระดับ
  • รัศมีวงเลี้ยว 5.09 เมตร ทำให้ขับเลี้ยวและเข้าออกในพื้นที่แคบได้อย่างง่ายดาย 
  • ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมช่องระบายความร้อน จาก Continental
  • ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ Double Wishbone พร้อมระบบถุงลม และด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์พร้อมระบบถุงลมสำหรับรุ่น Performance AWD 
  • ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ (Intelligent Four-Wheel Steering System) ทำให้การเปลี่ยนเลน มีเสถียรภาพแม้ในช่วงความเร็วสูง รวมถึงทำให้การกลับรถในที่แคบได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
  • ถอยจอดและขับออกอย่างสะดวกสบายด้วยปลายนิ้วสัมผัสกับระบบ One Touch iAD ที่ช่วยในการถอยจอดด้านข้าง (One Touch Side Parking) ด้วย Crab Mode ที่สามารถปรับมุมทั้ง 4 ล้อแล้วสไลด์เข้าจอดได้อย่างง่ายดาย รวมถึงการจอดและออกจากช่องจอดรถในพื้นที่จำกัด (One Touch Escape) และการถอยหลังอัตโนมัติเมื่อขับเจอซอยตัน (One Touch Traceback)    
  • ระบบการขับขี่ 6 โหมด ได้แก่ Eco / Comfort / Sport / Snow / Custom และ Super Eco ซึ่งจะดึง ไฟสำรองจากแบตเตอรี่มาใช้อีก 80 กิโลเมตร สำหรับในยามฉุกเฉิน  
  • ระบบช่วงล่างถุงลมอัจฉริยะ (Intelligent Air Suspension) สามารถปรับสูง-ต่ำได้ 3 ระดับ ได้แก่ ระดับความสูงปกติ (Standard) ปรับเตี้ยลง 5 เซนติเมตร และปรับสูงขึ้น 2 เซนติเมตร พร้อมปรับการทำงานอัตโนมัติตามรูปแบบการขับขี่ 

มั่นใจได้กับเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัย

New MG IM6 มาพร้อมกับฟีเจอร์เทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น ด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย, ระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ซึ่งรวมระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) หรือระบบอำนวยความสะดวกช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งยังผ่านการทดสอบและรับรองมาตรฐานระดับ 5 ดาวจาก China NCAP และดีไซน์เพื่อรองรับ EURO-NCAP ประกอบด้วย
  • ระบบอัจฉริยะแสดงผลในที่มืดและฝนตก (Intelligent Rainy Night Mode) ที่ผสานการทำงานของกล้องรอบคัน การปรับค่าช่วงล่างถุงลมอัตโนมัติ ช่วยลดปัญหาทัศนวิสัยในการมองเห็นระหว่างการขับขี่ 
  • ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ APA (Auto Park Assist)
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VDC (Vehicle Dynamic Control System)
  • ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HHC (Hill Hold Control)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
  • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)  
  • ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
  • ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
  • ระบบช่วยเบรก AEB (Automatic Emergency Braking)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบแจ้งเตือนความเร็วอัตโนมัติ SLF (Speed Limit Information Function)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LCC (Lane Centering Control)
  • ระบบะช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
  • ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตาที่ทำงานประสานกันทั้งระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบช่วยเบรกขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Braking) และระบบระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
  • ระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)
นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะด้านหน้าและหลัง ระบบกุญแจอัจฉริยะพร้อมการ์ด NFC สำหรับแปะเพื่อล้อคและปลดล็อคตัวรถ
New MG IM6 ทั้ง รุ่น Premium 2WD และ รุ่น Performance AWD โดยมีสีตัวถังให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีชมพู Ferdinand Pink, สีขาว Raphael Beige, สีดำ Ares Black, สีเทา Rembrandt Grey และสีน้ำเงิน Nevis Blue

สรุป

New MG IM6 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของดีไซน์ เทคโนโลยี และสมรรถนะ ด้วยฟีเจอร์ที่ครบครันและระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มค่าและล้ำสมัย หากคุณกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ผสานทั้งความหรูหราและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม รถคันนี้อาจเป็นตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม!
แท็กที่เกี่ยวข้อง mg evcar NEW MG IM6 New MG IM6 Performance AWD New MG IM6 Premium 2WD
CAR GURU
เขียนโดย วโรดม อิ้วลันตา CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่


คำนวณสินเชื่อเพื่อออกรถยนต์

ตัวช่วยให้คุณพิจารณาข้อมูลเบื้องต้นก่อนตัดสินใจซื้อรถ



เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)