5 รุ่นรถยนต์ที่มีระบบกรองฝุ่น PM 2.5 ราคาไม่เกิน 8 แสนบาท

PM 2.5 ปัญหามลพิษที่อยู่ในอากาศและมีผลกระทบต่อการหายใจ แม้แต่การนั่งในรถยนต์ที่หลายคนเข้าใจว่าน่าจะไม่เจอฝุ่น PM 2.5 แล้ว แต่ความจริงฝุ่นที่มีอนุภาคเล็กระดับนี้สามารถเล็ดรอดเข้ามาในห้องโดยสารได้อย่างชิว ๆ  เลย ซึ่งตอนนี้รถยนต์หลายรุ่นก็มีระบบแผ่นกรองอากาศหรือฝุ่น PM 2.5 มากมาย และส่วนมากจะมีราคาระดับเกิน 9 แสน ขึ้นไป แต่ก็ยังพอมีรถยนต์ที่ราคาไม่ข้าม 8 แสนติดตั้งระบบแผ่นกรองฝุ่น PM 2.5 นี้อยู่บ้าง มาดูกันครับว่า 5 รุ่นรถยนต์สำหรับคนมีที่งบประมาณจำกัด แต่ต้องการรถยนต์ที่มีระบบกรองอากาศแบบนี้มีรุ่นอะไรบ้าง 

 

 

 

MG 3 HYBRID+ รถยนต์แฮตช์แบ็ก 5 ประตู ใหม่ ที่มาพร้อมระบบกรองฝุ่น PM 2.5 และจัดเต็มด้วยระบบ ADAS (Advanced Driver-Assistance System) ถึง 8 ระบบ พร้อมกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ ทำงานร่วมกับเซนเซอร์ด้านหลัง รวบถึงสามารถควบควบคุมระยะการเบรก และชะลอตัวได้อย่างแม่นยำทั้งยังมีดิสก์เบรกถึง 4 ล้อ ควบคุมผ่านระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB และ AVH เครื่องยนต์เบนซินผสานไฮบริดกำลังรวมสูงสุด 194 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้า 250 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ความจุสูง 1.83 kWh พร้อม 3 โหมด ECO NORMAL และ SPORT ระบบการขับเคลื่อน 4 รูปแบบที่พลัสมาอย่างครอบคลุม สามารถปรับเปลี่ยนได้โดยอัตโนมัติเพื่อความประหยัดน้ำมัน ตลอดการขับขี่ และได้สมรรถนะสูงสุดให้ตอบสนองได้ดีเหมือนรถไฟฟ้า โดยไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่ อีกทั้งเครื่องยนต์ยังสามารถ เติมน้ำมัน E20 และมาพร้อมเกียร์ไฟฟ้า E-AT 3 สปีด ประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.2 กิโลเมตรต่อลิตร

 

 

TOYOTA YARIS CROSS HEV รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลาง 5 ประต โดยในรุ่นเริ่มต้นก็จะมีระบบกรองฝุ่น PM2.5 มาให้แล้ว รถที่มีออปชั่นเกินราคา และมาครบทั้งท้ายไฟฟ้า เตะเปิด Wireless Charger เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย พร้อม T-Connect*ไร้สาย ระบบ T-connect ความปลอดภัยเยอะ กล้องบันทึกภาพ หน้า-หลัง เครื่องยนต์ไฮบริด 2NR-VEX ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 91 แรงม้า กับ 121 นิวตันเมตร ผสานมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 80 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน 4.3 แอมแปร์-ชั่วโมง ผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT พลังรวมทั้งระบบ 111 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร   

 

 

BYD DOLPHIN รถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมแผ่นกรองระบบกรองฝุ่น PM 2.5 แบบประสิทธิภาพสูง (CN95) ที่มีให้ทั้ง 2 รุ่นย่อยคือ Extended Range
 709,900 บาท และ Standard Range 569,900 บาท ด้วย  e-PLATFORM 3.0 VtoL รองรับ VtoL การต่อไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์กับเครื่องใช้ไฟฟ้า กับความสะดวกสบายและปลอดภัยเพียบ พร้อมกับขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตตันเมตร ระยะทางวิ่งได้ 435 กิโลเมตรต่อชาร์จ (มาตรฐาน NEDC) ในรุ่น Standard และ 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร ในรุ่น Extended Range ระยะทางวิ่งได้ 490 กิโลเมตรต่อชาร์จ (มาตรฐาน NEDC)

 

 

ORA GOOD CAT เหมียวไฟฟ้าที่มาพร้อมระบบกรองฝุ่น PM 2.5 ทุกรุ่นย่อยและให้ความสะดวกสบายและความปลอดภัยระดับ NCAP 5 ดาว และรุ่น ULTRA ที่โดดเด่นด้วยระบบช่วยจอด 3 รูปแบบอัตโนมัติ และระบบความปลอดภัย ADAS ครบถ้วน ด้วยรูปทรงเป็นเอกลันษณ์แต่แฝงสมรรถนะมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 480 กิโลเมตรต่อชาร์จ (มาตรฐาน NEDC)

 

Neta X รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ยกสูงราคาเบา ๆ คันใหญ่โตที่เริ่มเป้นที่สนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยราคารุ่นเริ่มต้น Comfort ราคา 739,000 บาท กำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร ระยะทางวิ่งได้สูงสุด 401 กิโลเมตรต่อชาร์จ (มาตรฐาน NEDC) และรุ่น Smart ราคา 799,000 บาท เพิ่มขนาดแบตฯ วิ่งได้ไกลขึ้นเป็น 480 กิโลเมตรต่อชาร์จ (มาตรฐาน NEDC) โดยรุ่นนี้จะเพิ่มระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS 2.0 ครบถ้วนยิ่งขึ้น 

 

 

---

สำหรับรถยนต์ 5 รุ่นนี่เป็นเพียงการเลือกมาให้ชมเท่านั้น ความจริงแล้วรถยนต์ราคาไม่เกิน 8 แสนบาทที่มีระบบกรองฝุ่น PM 2.5 ยังมีอีกหลายรุ่น โดยเฉพาะรถยนต์จากประเทศจีนและส่วนมากเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน 100% แต่ถ้ารถยนต์ที่ราคาขยับสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็จะมีรถยนต์อีกเพียบที่ให้กรองฝุ่น PM 2.5 มาด้วย ผมคิดว่าในสถานการณ์ปัจจุบันและในอนาคต การขับรถยนต์ที่มีระบบฟอกอากาศให้บริสุทธ์นั้น จำเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสภาพอากาศบนโลกนี้ไม่อาจจะกลับมาใส่สะอาดได้เหมือนสมัยก่อน ๆ อีกต่อไปแน่ ๆ ครับ