FORD RANGER WILDTRAK V6 เจ้าเดียวในกระบะระดับเดียวกันที่ขุมพลัง วี6 ดีเซล เทอร์โบเดี่ยว 250 แรงม้า แรงบิด 600 นิวัตนเมตร เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เลือกโหมดขับขี่ได้มากถึง 6 รูปแบบ ระบบความปลอดภัยครบครัน ไฟหน้าแบบ Matrix LED ระบบเครื่องเสียง SYNC
®4A Apple CarPlay / Android Auto กับราคากระชับมิตรที่ 1,529,000 บาท
ภายนอก-ภายใน
ภายนอกยังมีความคล้ายกับใน RANGER รุ่นอื่น ๆ หรือรุ่น Wildtrak 2.0L Bi-Turbo แต่ว่าจะได้ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ขนาดเท่ากับใน Stormtrak และวิ่งที่เพิ่มเติมมาอีกคือ ระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน และโลโก้ตรงซุ้มล้อ "V6" เท่านั้น
ส่วนภายในก็มีการตกแต่งในสไตล์ Wildtrak เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ส่วนตัวรู้สึกว่าตรงเบาะนี่เองนั่งไม่สบายเท่าไหร่เพราะผิวสำผัสแข็งไปนั่งนาน ๆ มีแอบเมื่อย ต้องขยับตัวเปลี่ยนท่าบ่อย ๆ หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสีขนาด 8 นิ้ว แสดงฟังก์ชั่นใช้งานต่าง ๆ มองง่ายชัดเจนดี ยิ่งการแสดงระบบช่วยเหลือการขับขี่ ดูง่ายไม่ซับซ้อน ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวาและช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง หน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย Apple CarPlay® and Android AutoTM ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และ ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A และลำโพง 6 ตำแหน่ง
ส่วนของเบาะหลังผิวสัมผัสแข็ง และมีพื้นที่ห้องโดยสารไม่กว้างนัก แต่ยังดีที่ตัวโครงหลังคาสูงโปร่ง และเบาะพิงหลังมีระดับเอียงที่นั่งสบายพอดี พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบ ทั้ง ที่วางแขน วางแก้วน้ำ ช่องแอร์ หรือ ช่องเสียบ USB
ระบบความปลอดภัย สายขับกลางคืนต้องชอบ!
ระบบความปลอดภัยที่ชอบมากที่สุดของ FORD นั่นคือ ไฟหน้าอัจฉริยะที่สามารถปรับลำแสงได้ละเอียด ด้วยการ ส่องสว่างในเฉพาะบางจุดได้ และปรับลำแสงหลบรถที่สวนมากได้อัตโนมัติ พร้อมไฟส่องขณะเลี้ยว สายชอบขับท่องเที่ยวกลางคืนน่าจะต้องชอบเช่นกัน พร้อมกับระบบภาพที่ชัดตาแตกของกล้องมองรอบคัน และยังมีระบบเตือนเพื่อช่วยเหลือการขับขี่อีกมากมาย โดยเฉพาะระบบควบคุมความเร็วแปรผันที่ใช้งานได้สะดวกแม่นยำและทำงานได้นุ่มนวลมาก ๆ
ความสะดวกสบาย
แม้จะเป็นรถกระบะแต่ก็ยังให้ความสะดวกสบายในระดับรถเก๋งพรีเมียม ทั้งระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย ช่องชาร์จไร้สาย ระบบเปิดกระจกคู่หน้าแบบจังหวะเดียว ระบบดันหลัง ตันเกียร์ระบบไฟฟ้า ช่องวางแก้วน้ำ ที่เท้าแขน ไฟแต่งหน้าในบังแดด ก้านไฟเลี้ยวอยู่ทางขวา ช่องต่อ USB 4 จุด ระบบล็อครถเมื่อออกห่างจากรถ (กรณีพกกุญแจติดตัว) และปลดล็อคแบบสัมผัส
สมรรถนะ ดึงหนักแบบนุ่ม ๆ กับ 6 โหมดขับขี่
FORD RANGER WILDTRAK V6 มากับขุมพลังระดับ ดีเซล วี6 ให้ทั้งกำลัง 250 แรงม้า ที่ 3,250 รอบต่อนาที และ แรงบิด 600 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำ ๆ และช่วงที่กว้างขึ้น 1,750-2,250 รอบต่อนาที ทำให้ใช้คันเร่งน้อยก็สามารถเร่งทำความเร็วไปถึงจุดที่ต้องการได้รวดเร็วขึ้น ส่งผลให้มีความประหยัดตามมาได้อีกนิดหน่อย แม้ว่าช่วงต้น ๆ ที่เริ่มกดคันเร่ง อาจจะมีความหน่วงบ้าง แต่หลังจากรอบเครื่องยนต์ขยับได้ที่ พลังแรงบิดมหาศาล 600 นิวตันเมตร ก็ดึงตัวถังให้พุ่งไปอย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องลุ้น ยิ่งเวลาต้องเร่งแซงในความเร็วสูง ๆ เมื่อ "จุ่ม" คันเร่งเพียงครึ่งหนึ่ง ระบบเกียร์และเครื่องยนต์ก็ตอบสนองทันที เร่งทันใจ พร้อม ๆ กับระบบช่วงล่างที่แน่นหนึบออกไปทางแข็งด้วยซ้ำไป ทำให้การควบคุมรถในสภาพถนนต่าง ๆ มั่นใจมากขึ้น เหมาะสมกับพละกำลังที่มี และน้ำหนักพวงมาลัยที่หนืด ๆ ไม่เบาเกินไป ยิ่งควบคุมรถได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
สายลุยมันด้วย 4 โหมดขับเคลื่อน 6 โหมด พร้อมลุยทุกสภาพถนน แบบมืออาชีพ ทั้งที่ไม่ใช่มืออาชีพ!!!!
สายลุยอาจจะต้องชอบกับ 6 โหมดขับขี่และเลือกระบบขับเคลื่อนได้ตามต้องการ เช่น ขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ (4A) ที่จะปรับเปลี่ยนการขับเคลื่อนทั้ง 4 ล้อ ตามสภาพถนนให้เอง ปลอดภัยมั่นใจแบบรถ 4WD Full Time หรือจะเลือก 4H ขับในทางลื่น ๆ แบบความเร็วสูงเพิ่มความมัน่ใจมากขึ้นด้วยการขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลอดเวลา หรือจะลุยหนัก ๆ ดิบ ๆ ต้องไป 4L ที่จะมีระบบล็อคเฟืองท้ายเพื่อให้ผ่านอุปสรรคไปได้อย่างง่ายดาย หรือจะเข้าป่าจัดหนักกับเส้นทางแบบ Off-Road เต็มรูปแบบก็มีโหมดให้เลือกพร้อมลุย Narmal, ECO, TOW/Hael, Spippery, Mud/Ruts และ Sand เอาที่สบายใจได้เลย แต่สุดท้ายถ้าขับใยเมืองเป็นหลักก็เลือก 2H เพื่อความประหยัดขับง่ายขึ้น แต่อย่าลืมปรับมาใช้งานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ บ้าง เพราะต้องให้ระบบทำงานเอาไว้บ้างจะได้พร้อมใช้งานจริง ๆ เมื่อต้องการครับ และยังไงก็ต้องเสียค่าบำรุงรักษาระบบขับเคลื่อนทั้งหมดอยู่แล้ว เดี๋ยวจะไม่คุ้ม!
อัตราสิ้นเปลืองบนมาตรวัดในการขับบี่รูปแบบในเมืองและนอกนอกนั้น น่าประทับใจมาก ด้วยเครื่องยนต์ระดับ วี6 สูบ ความจุขนาด 3.0 ลิตร แต่การใช้งานทั้งแบบรถติดหนัก ๆ ในตัวเมือง ไปจนถึงขับเดินทางยาว ๆ โดยรวมแล้วตัวเลขอยู่ระหว่าง ต่ำสุด 8 - 13 กม./ลิตร คือขับในเมืองได้ 8 กมง/ลิตร พอเข้าใจได้ แต่ขับทางไกล ๆ ได้ 13 กม./ลิตร แบบไม่ปั้นนะครับ มีเร่งแซงในจังหวะปกติของการขับขี่เลย เพราะตอนแรกไม่คิดเรื่องความประหยัดมากนัก แต่ตัวเลขออกมาแบบน่าพอใจจริง ๆ ครับ
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
สำหรับการลองขับขี่ FORD RANGER WILDTRAK V6 ชื่นชอบเรื่องของกำลังเครื่องยนต์มากที่สุด รองลงมาก็เป็นเรื่องการควบคุมพวงมาลัยที่เบาสบาย แต่ปัจจุบันมีรถจากค่ายคู่แข่งฝั่งญี่ปุ่นหันมาใช้ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) กันบ้างแล้ว ทำให้ตอนนี้มีรุ่นอื่นที่ทำน้ำหนักพวงมาลัยได้เบากว่า โดยเฉพาะการขับขี่ความเร็วต่ำ หรือสภาพการจราจรในเมือง และการจอดในที่แคบ ๆ ซึ่งยอมรับว่าการขับ RANGER คันนี้ทำให้มีอาการปวดหัวไหล่และเมื่อยล้าอยู่บ้าง แต่สำหรับผู้ที่ชอบความแน่นหนึบและมั่นใจ น่าจะไม่ติดใจในเรื่องนี้
นอกจากนี้ระบบการเชื่อมต่อ AppleCarPlay ยังมีอาการ หน้าจอ "ค้าง" บ่อย ไม่สามารถกดเปลี่ยนหน้าได้ ต้องรอดับและสตาร์ทใหม่เท่านั้น จึงคาดว่าอาจจะเป็นบางคันบางครั้ง สุดท้ายคือ เบาะนั่งคนขับหรือคู่หน้านั้น ตัวเบาะรองนั่งสั้นไปหน่อย ทำให้ช่วงขาลอยและผิวสัมผัสที่แข็ง (พิเศษ) ทำให้การขับนาน ๆ มีความเมื่อยล้า ซึ่งทั้งหมดนี้อาจเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ สมรรถนะ เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มีให้ พร้อมกับขุมพลังที่ยังไม่มีคู่แข่งในไทยกล้าใช้ในตอนนี้ เรียกว่า เป็นกระบะไซต์มาตรฐาน วี6 หนึ่งเดียวปัจจุบันในไทยก็ว่าได้ครับ
สรุปความคุ้มค่ากับราคา
FORD RANGER WILDTRAK V6 ราคา 1,529,000 บาท อาจไม่ใช่รถที่คุ้มค่า แต่เป็นรถที่เหมาะกับคนชอบความแปลกใหม่ ท้าทาย แตกต่าง อย่างดุดันยิ่งขึ้น ในร่างของรถกระบะไซต์มาตรฐาน ไม่ใหญ่เกินไปแบบเจ้า Raptor และต้องการความประหยัดแรงบิดหนัก ๆ ของเครื่องยนต์ดีเซล รถคันนี้อาจกลายเป็นรถที่ใช้ขับในทุก ๆ วัน ได้อย่างสบาย ๆ และยังสามารถเอาไปแบ่งกล้ามในป่า เขา หรือบนเส้นทาง Off-Road เป็นเหลือ ๆ อีกด้วย และหมดคำถามที่ว่า
"จะออกทริปไหวหรอ?" อีกต่อไป!!