รวมรถยนต์เด่นในงาน Motor Expo 2024 ในงานนนี้บอกเลยครับว่ามีรถยนต์หลายรุ่นให้ได้สัมผัสกันแบบ "ทึ่ง อึ่ง และปัง " มาก ๆ ทั้งตัวรถ สมรรถนะและราคาสุดว้าว มีทั้งรถยนต์สันดาป ไฟฟ้าล้วน และรถปิคอัพรุ่นใหม่ โดยรถยนต์รุ่นที่น่าสนใจเปิดตัวก่อนหรือในงานนี้มีอะไรบ้างไปดูกันครับ
*บทความนี้เรียงแบรนด์ตามสะดวกไม่เน้นระยะเวลาเปิดตัวหรือลำดับใด ๆ
VIDEO
กลุ่มรถยนต์ญี่ปุ่น-เกาหลี MITSUBISHI
มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด ตกแต่งพรีเมียม ดุดันในโทนสีดำ โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกสีดำสุดเท่ ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว บันไดข้างและกันชนท้ายตกแต่งสีไทเทเนียมรมดำ ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ไฮเปอร์ พาวเวอร์ คลีนดีเซลเทอร์โบ กำลังสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะรอบคัน ‘Diamond Sense’ และจำหน่ายในราคาเดียวกับรถไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ ยกสูง เกียร์อัตโนมัติ รุ่นอัลตร้า (1,027,000 บาท)
TOYOTA NEW GR COROLLA รถ Sport hatchback สายเลือดแชมป์ WRC ปรับปรุงใหม่ทั้งด้านดีไซน์และสมรรถนะ เร้าใจยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ “Unified Design” ระบบเกียร์ใหม่ ขุมพลังเครื่องยนต์ G16E-GTS แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ขนาด 1.6 ลิตร ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด (GAZOO Racing Direct Auto Transmission) ซึ่งมาพร้อมกับ sequential shift และ paddle shiftระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ GR FOUR ช่วยกระจายกำลังขับเคลื่อนสู่ล้อ หน้า/หลัง ภายในห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ Driver-Centric Cockpit
ราคา 4,199,000 บาท
NEW GR YARIS กำลังสูงสุด 280 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 390 นิวตันเมตร ราคา 3,499,000 บาท
เป็นเจ้าของรถ GR COROLLA และ GR YARIS วันนี้ สัมผัสประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตแบบ GAZOO Racing และสิทธิพิเศษสุด Exclusive
GR Service package บริการเช็กระยะมาตรฐาน ภายในระยะเวลา 3 ปี 60,000 กม.(แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) Roadside Service package ฟรี ระยะเวลา 5 ปี (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด) GR Track Experience package สัมผัสประสบการณ์ลงขับในสนามแข่ง GR Collection souvenir ของที่ระลึก GR Collection HONDA
new Honda HR-V สีใหม่..อับเกรดจอเพิ่มออปชั่น คาดการณ์ เปิดราคาถูกกว่าเดิม !!! เปิดราคาจริง 29 พ.ย. 2024 ใน Motor Expo 2024 นี้
มาพร้อมระบบขับเคลื่อน Full Hybrid e:HEV ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit - IPU) แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน มอบสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนาน ตอบสนองทันใจตั้งแต่ออกตัวกับแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร ไปได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง* และมั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ติดตั้งในทุกรุ่นย่อย
new Honda HR-V 2024 มีการปรับปรุงในหลายจุด กว่าที่ตาเห็นและเพิ่มฟังก์ชั่นให้กับรุ่นเริ่มต้นนับว่าคุ้มค่ามากขึ้นกว่าในช่วงเปิดตัวแรก ๆ ด้วยซ้ำครับ โดยสิ่งที่เพิ่มเติมมาให้ในทุกรุ่นย่อยได้แก่
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto อัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย โดยมาพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อม ใหม่! จอแสดงไฟเบรก ส่วนด้านหน้าดีไซน์ใหม่ ทั้งกันชนหน้า กระจังหน้า (RS) และรุ่น E,EL กระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถ รุ่น RS ล้ออัลลอยลายใหม่ การออกแบบคอนโซลกลางใหม่ ด้วยการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง โดยมาพร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์ ช่องแอร์ผู้โดยสารตอนหลังทุกรุ่นย่อย e:HEV RS ใหม่!
การออกแบบด้านหน้าดีไซน์ใหม่ กันชนหน้าเรียบและดูหนามากขึ้น ยกระดับความสปอร์ตแกร่งยิ่งขึ้น ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ตในดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS ไฟท้ายแบบ Full LED Light Strip ดีไซน์ใหม่ สี Smoke เสริมความสปอร์ตโดดเด่นยิ่งขึ้น ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว กับสีใหม่ สีดำ Berlina Black แบบ Diamond cut ซึ่งเป็นล้อลายเดิมจากรุ่นก่อนหน้าแต่ถูกออกแบบใหม่ ด้วยการขัดมันเงาและสลับลายใหม่ ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) สามารถเปิด-ปิดไฟสูงได้แยกฝั่งทีละข้างเพื่อหลบหลีกรถสวนทาง ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) เมื่อหมุนพวงมาลัยไฟส่องขณะเลี้ยวจะติดฝั่งนั้นอัตโนมัติ เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด มีมาให้ตามคำเรียกร้องแล้ว มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อม ใหม่! จอแสดงไฟเบรก การออกแบบคอนโซลกลางใหม่ ด้วยการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ปรับขอบด้านข้างฝั่งคนนั่งที่สูง ๆ ออกไปให้คนนั่งใช้งานสะดวกขึ้น ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto อัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง โดยมาพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง เพื่อใช้งานการเชื่อมต่ออื่น ๆ ให้หลากหลายมากขึ้น ใหม่! สีภายนอกสีใหม่ สีกากีแซนด์ (มุก) พร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน และอีก 4 สีเดิม สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) สีเทา เมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีขาวแพลทินัม (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) NISSAN นิสสัน เปิดตัว
นิสสัน เซเรน่า ใหม่ (Nissan SERENA) รถยนต์อเนกประสงค์ MPV พรีเมียม 7 ที่นั่ง ด้วยดีไซน์สะดุดตา ห้องโดยสารกว้างขวาง และเทคโนโลยีสุดล้ำ สามารถเป็นเจ้าของได้ใน
ราคา 1,469,000 บาท โดยมากับขุมพลังเครื่องยนต์ S-Hybrid (mild hybrid) เปิดให้จองแล้ววันนี้ และพร้อมส่งมอบในเดือนมกราคม 2568 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเพิ่มรุ่น
อี-พาวเวอร์ ในภายหลัง รถ MPV เพิ่มความสะดวกแก่ผู้โดยสารและผู้ขับขี่ให้สามารถเปิดฝาท้ายได้แม้จอดชิดด้านหลัง สัมภาระจึงไม่หล่นลงจากท้ายรถขณะเปิดปิด ภายในรถ เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับได้อิสระและแยกออกจากกันได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ระหว่างที่นั่ง ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก แต่ยังคงมีความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนที่นั่งแถว 3 สามารถปรับเอนได้เพิ่มความสบายในการเดินทางระยะไกล นอกจากนี้ ยังมีที่เก็บของหลายจุด ที่วางแก้ว 14 จุด ช่องเสียบ USB 6 ช่อง (ที่นั่งแถวละ 2 จุด) พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน 360° Nissan Safety Shield พร้อมระบบ Advanced Driver Assistance System (ADAS)
นิสสัน เซเรน่า ใหม่ มีจำหน่าย 1 รุ่น คือ ไฮเวย์ สตาร์ และมี 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ Diamond Black และสีขาว White Solid
นิสสัน เซเรน่า ใหม่ แล้ว ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งนี้ นิสสันยังคงนำรถยนต์รุ่นหลั กมาโชว์ในงาน ได้แก่ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ “คันนี้ ใช่เลย” นิสสัน นาวารา “ทน พร้อม ลุย” นิสสัน อัลเมร่า “แรงจริง จัดให้” และ นิสสัน เทอร์ร่า “คันเดียวจบ ครบเกินคุ้ม”
นิสสัน ยังได้เตรียมโปรโมชั่นพิเศษที่ จะทำให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์ คุณภาพเยี่ยมได้ง่ายขึ้นกับแคมเ ปญ SAY YES! ที่มีความหลากหลายสำหรั บรถยนต์แต่ละรุ่นให้ลูกค้าเลื อกได้อย่างเหมาะสมกับความต้ องการของตนเอง ตั้งแต่ดอกเบี้ยต่ำ 0% ไปจนถึงผ่อนนาน 96 เดือน
ISUZU
ใหม่! ISUZU 2.2 Ddi MAXFORCE พลังใหม่…กำหนดโลก ได้รับการพัฒนาใหม่ ให้เป็นเครื่องยนต์แห่งอนาคต ตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้น ด้วยพละกำลังสูงขึ้นแรงสุดถึง 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดถึง 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,400 รอบ/นาที
ออกตัว เร่งแซงเร็วขึ้น กับแรงบิดช่วงออกตัวสูงขึ้นถึง 56% แต่ประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเดิมสูงสุด 10% และมีค่า CO2 ต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานอีซูซุเป็นระยะทางเทียบเท่า 2.2 ล้านกิโลเมตร จนมั่นใจว่าเครื่องยนต์นี้มีความแรง ทนทาน และประหยัดน้ำมันเหมาะสมกับตลาดรถยนต์เมืองไทยมากที่สุด พร้อมที่จะถ่ายทอดสมรรถนะอันยอดเยี่ยมในทุก ๆ ด้าน ถือเป็นเทคโนโลยีดีเซลที่จะกำหนดอนาคตแห่งการขับเคลื่อนอย่างแท้จริง
นอกจากเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ใหม่แล้ว
ISUZU 3.0 Ddi MAXFORCE พลังใหม่…กำหนดโลก พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน แรงจัดตั้งแต่รอบต่ำ ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ทนทาน และประหยัดน้ำมัน ให้พลังแรงสุดถึง 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และ แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที ด้วย ECM ใหม่ แบบ MULTI-CORE ประสิทธิภาพสูง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการใช้งานที่ต้องการกำลังสูงเป็นพิเศษ อีกทั้งยังเพิ่มไลน์อัพใหม่กับ ใหม่! มิว-เอ็กซ์ “เดอะ เน็คซ์พีค” รุ่น RS 2.2 Ddi MAXFORCE อีซูซุ วี-ครอส 4x4 รุ่น 4 ประตู เกรด ZP เกียร์อัตโนมัติ 3.0 Ddi MAXFORCE และ อีซูซุ ดีแมคซ์ สปาร์ค 4x4 เกียร์อัตโนมัติ 3.0 Ddi MAXFORCE รวมทั้งยังมาพร้อมสีใหม่ “เทาเอลบรุส โอเพค” (Elbrus Grey Opaque) ในอีซูซุ ดีแมคซ์ทุกรุ่น
MAZDA
MAZDA เปิดตัวรถปิกอัพรุ่นใหม่ล่าสุด
Bold New Mazda BT-50 ที่แรกของโลก ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ใส่เทคโนโลยีแห่งอนาคต มาพร้อมคอนเซ็ปต์
Dignity into Power พลังแกร่ง สะท้อนตัวตน ฉีกกฎภาพลักษณ์แบบเดิม ๆ เติมความแกร่ง ดุดัน หรูหรา สง่างาม พรีเมี่ยมทุกจุดสัมผัส ตามแนวทางการออกแบบ โคโดะ ดีไซน์ เครื่องยนต์ขุมพลังใหม่ล่าสุด เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร ให้พละกำลังแรงสุด 163 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด สมรรถนะแรงขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น แข็งแรง ทนทาน ดูแลรักษาง่าย และเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3.0 ลิตร ให้พละกำลังแรงสุด 190 แรงม้า สมรรถนะแรงทรงพลังสมบุกสมบันพร้อมลุยไปได้ทุกที่ ออปชั่นเต็มคันในสไตล์ที่คนขับปิกอัพยุคใหม่ต้องการ เพิ่มเทคโนโลยีความสะดวกสบายและความปลอดภัยใส่มาแบบครบครัน ราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 7 แสนกว่าบาท ในรุ่นขับ 2 แบบยกสูง หรือ
FSC 2.2 XS HI-RACER 6MT จองวันนี้ รับข้อเสนอสุดพิเศษช่วงเปิดตัว ดอกเบี้ย 1.99%
1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี
2 หรือ ส่วนลดสูงสุด 55,000 บาท
3 และฟรีบัตรน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท
4 พิเศษสำหรับลูกค้า Mazda Family รับฟรีบัตรน้ำมัน 30,000 บาท
4 ผู้สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่งาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป และที่โชว์รูมมาตรฐานมาสด้าทั่วประเทศ
HYUNDAI
Hyundai PALISADE ภายนอกที่โดดเด่นจากกระจังหน้าแบบ Premium Parametric Shield เสริมด้วยการตกแต่ง Dark Metallic Chrome และไฟ LED เต็มรูปแบบ ภายในมอบความสะดวกสบายที่หรูหรา ด้วยเบาะนั่งที่กว้าง วัสดุเบาะหนัง ทั้งเบาะแบบ
Nappa ทรงกระชับลำตัว ฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมดันหลัง คนข้างหน้าปรับ 8 ทิศทาง พร้อมระบบเป่าลมเย็น/ร้อนทั้งตอนหน้าและเบาะแถวที่สอง พวงมาลัยทรงคลาสสิกผสานความทันสมัย พร้อมสวิตช์ควบคุมมัลติฟังก์ชัน จอแสดงผล Supervision Cluster ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมระบบปรับความร้อน และความเย็นของที่นั่ง 2 แถวแรก ติดตั้งระบบเครื่องเสียง Infinity Premium Sound System พร้อมลำโพง 12 ตัว
โปรโมชันพิเศษ ในงานรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 1 ปี พร้อมรับประกันคุณภาพรถยนต์ 7 ปีหรือ 150,000 กม. พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนแบบไม่จำกัดระยะทาง 7 ปี และสำหรับลูกค้า 200 ท่านแรกจะได้รับแพ็กเกจการดูแลรักษารถ นาน 4 ปี ฟรี กุญแจรถ Digital และพรมปูพื้นรถยนต์
SUZUKI SUZUKI JIMNY จากรุ่นสู่รุ่นถึงเจเนเรชั่นที่ 4 ภายใต้คอนเซ็ปต์
Authentic compact 4WD รถยนต์ออฟโรดขนาดคอมแพ็คกับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซูซูกิ ที่มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของดีไซน์และสมรรถนะเกินตัวกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-time 4WD ถูกตกแต่งในแบบ
OFFROAD EDITION เป็นรถออฟโรดที่ดูดุดันและแข็งแกร่งมากขึ้น ภายใต้แนวคิด
BORN TO BE LEGEND ด้วยการตกแต่งชุดกระจังหน้าดีไซน์ดุดัน มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งกันชนด้านหน้า ชุดสเกิร์ตด้านข้าง ชุดฝาครอบล้อพร้อมสติกเกอร์ตกแต่ง แผ่นกันโคลน กรอบรองมือจับประตู สติกเกอร์ตกแต่งฝาครอบถังน้ำมันและ Jimny Offroad Emblem โดยมีสีโมโนโทนให้เลือกเป็นสีเขียว /Solid Jungle Green สีดำ/Pearl Bluish Black สีเทา/Solid Medium Gray และสีขาว /Superior White และสีขาว/Metallic Chiffon Ivory ใน
ราคาเดิมที่ 1,760,000 บาท และ สีทูโทน เป็นสีเหลืองกับหลังคาสีดำ/Solid Kinetic Yellow with Pearl Bluish Black และสีขาวกับหลังคาสีดำ/ Metallic Chiffon Ivory with Pearl Bluish Black ใน
ราคาเดิมที่ 1,790,000 บาท
กลุ่มรถยนต์จีน DEEPAL
DEEPAL ได้เปิดตัว
DEEPAL E07 รถ SUV ไฟฟ้าที่ออกแบบเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ สะท้อนแนวคิด BE YOURSELF, DRIVE YOUR WAY ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์มอัจฉริยะ SDA ที่มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ที่แตกต่าง
DEEPAL E07 ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ในขณะนี้เปิดตัวมาด้วยกัน 2 รุ่น คือ
Plus และ
Performance AWD โดยรุ่น
Plus นั้นจะขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง ด้วยมอเตอร์ที่ให้กำลัง 342 แรงม้า แรงบิด 365 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 6.7 วินาที มีระยะทางวิ่งสูงสุด 640 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ส่วนรุ่น
Performance AWD นั้นจะขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ให้กำลัง 598 แรงม้า แรงบิด 645 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.96 วินาที มีระยะทางวิ่งสูงสุด 590 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ทั้ง 2 รุ่นจะมากับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 89.98 กิโลวัตต์-ชั่วโมง รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้าแบบ DC สูงสุดในการชาร์จแบบ DC 240 กิโลวัตต์ (30% - 80%) ใน 15 นาที โดยในรุ่น Performance AWD จะได้ช่วงล่างแบบถุงลมและระบบปรับความหนืดช่วงล่างอัจฉริยะมาด้วย
RIDDARA
RIDDARA RD6 รถกระบะไฟฟ้า 100% สะดวกสบายระดับ SUV แพลตฟอร์
มรถยนต์เก๋งระบบขับเคลื่อนสี่ล้
อที่มีระบบกันสะเทือนอิสระ และช่วงล่าง multi-link ให้สมรรถนะที่โดดเด่นด้วย
อั ตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที แรงบิดสูงสุด 595 นิวตันเมตร กำลังสูงสุด 315 kW และความเร็วสูงสุดที่ 190 กม./ชม. มาพร้อม
ช่องจ่ ายกระแสไฟตามมาตรฐานยุโรปขนาด 6KW
หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 14.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Carbit link พร้อมที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้ สายขนาด 50W มีระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone และช่องแอร์สำหรับผู้ โดยสารตอนหลัง ที่มาพร้อมระบบกรองอากาศ CN95 filter PM 2.5 เบาะหนังคุณภาพสูง ดีไซน์เอกลักษณ์ ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบระบายอากาศที่ เบาะโดยสาร เบาะหน้าเอนได้แบบ 180 องศา โ ดยรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 แบบอัตโนมัติ โดยมีโหมดการขับขี่ 7 โหมด สำหรับสภาพถนนที่แตกต่างกัน (Sand / Mud / Off-road / Wading / Economy / Comfort / Sport) อีกทั้งยังโดดเด่นด้ วยความสามารถในการลุยน้ำลึกได้ สูงสุด 815 มิลลิเมตร
มาพร้อม 4 รุ่นให้เลือกคือ
BYD
BYD SEALION 7 ตกแต่งด้วยวัสดุสัมผัสนุ่มระดับพรีเมียมกว่า 80% มาพร้อมขุมพลัง Blade Battery ความจุ 82.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 390 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 690 นิวตัน-เมตร และระยะทางวิ่งสูงสุด 542กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ Double Wishbone และด้านหลังแบบ Multi-link ทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนปรับอัตโนมัติตามความเร็วแบบ FSD (Frequency Selective Damping) ที่ปรับระดับความหนืดของโช้คอัพอัตโนมัติตามสภาพถนน
BYD SEALION 7 รถยนต์ C-SUV Sport พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่น Premium ราคาขายปลีกแนะนำ 1,249,900 บาท และรุ่น AWD Performance ราคาขายปลีกแนะนำ 1,399,900 บาท และ
พิเศษสุดกับ Early Bird 2024 Motor Expo Campaign! สามารถเป็นเจ้าของ BYD SEALION 7 รุ่น Premium ได้ใน
ราคา 1,149,900 บาท และรุ่น AWD Performance ใน
ราคา 1,249,900 บาท Leapmotor
Leapmotor C10 มาพร้อมระยะทางการขับขี่สูงสุดถึง
477 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์เดี่ยวที่เพลาหลัง ภายในมีกว้างขวาง, เบาะที่นั่งแบบซิลิโคนที่มีความปลอดภัยต่อเด็กทารก มาพร้อมซอฟต์แวร์ four-leaf clover แบบศูนย์รวม Leap 3.0 และระบบจัดการแบตเตอรี่ด้วย AI ไฟหน้า LED แบบ
Angel-Wing มาพร้อม DRL แบบ Sequential ระบบ Active Grille Shutter (AGS) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วลาย
มีให้เลือกตัวถัง 5 สี ได้แก่ Glazed Green, Pearly White, Canopy Grey, Tundra Grey และ Metallic Black และภายในมี 2 สี คือ Criollo Brown และ Midnight Aurora ราคาจำหน่าย Leapmotor C10 อยู่ที่ 1,098,000 บาท
AION
AION V ราคาเหลือเพียง 999,900 บาท นำเสนอมิติใหม่ของการขับขี่และการโดยสารที่เหนือกว่า พร้อมมอบความหรูหราระดับเรือธง ด้วยฟีเจอร์และออปชันอำนวยความสะดวกมากมาย ชูจุดเด่นเรื่องระยะทางวิ่งสูงสุด 602 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง, เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 3C รับกำลังไฟได้สูงสุด 180 kW และฟีเจอร์อัจฉริยะมากมาย
เบาะนวดแบบสปา : เลียนแบบการนวดเสมือนจริง พร้อมการนวด 8 จุด, ปรับระดับความแรงได้ 3 ระดับ และมีโหมดให้เลือก 5 แบบ ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการขับขี่และอาการปวดเอว วัสดุนุ่มสัมผัสบริเวณที่สัมผัสบ่อย 100% : ตู้เย็นอเนกประสงค์อัจฉริยะ : ปรับการทำงานได้ 3 โหมด ได้แก่ โหมดอุ่นร้อน โหมดแช่เย็น และโหมดแช่แข็ง ครอบคลุมช่วงอุณหภูมิตั้งแต่ -15 ถึง 50 องศาเซลเซียส ให้คุณเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายและความอร่อยได้ทุกที่ ทุกเวลา ห้องโดยสารแบบลอยตัว : หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 8.88 นิ้ว และ หน้าจอ Infotainment ขนาด 14.6 นิ้ว มอบประสบการณ์ที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ ช่องลมแอร์ด้านหลัง บริเวณเสา B-Pillar : ให้ความเย็นโดยไม่มีลมกระแทก ป้องกันลมเย็นเป่าตรงไปที่หัวเข่าของผู้โดยสารด้านหลัง โต๊ะพับอเนกประสงค์ : โต๊ะพับอเนกประสงค์หลังเบาะผู้ขับขี่ เพื่อไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม หลังคากระจกพาโนรามาขนาด 2.14 ตารางเมตร : ให้การป้องกันแสงแดดอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า มุมเปิดประตูขนาดใหญ่: ประตูหลังสามารถเปิดได้กว้างเกือบ 90 องศา เพิ่มความสะดวกในการขึ้นลง ระบบเสียงพรีเมียมเสมือนอยู่ในสถานที่จริง : ลำโพงพรีเมียมจากเบลเยียม พร้อมซับวูฟเฟอร์ 8 นิ้ว ให้เสียงที่เต็มอิ่ม พื้นที่เงียบสงบ : กระจกกันเสียง 2 ชั้นด้านหน้า และวัสดุซับเสียงคุณภาพสูง ลดเสียงรบกวนจากภายนอก สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบขณะเดินทาง ระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ : รองรับการควบคุมด้วยเสียงในภาษาอังกฤษและภาษาไทย ครอบคลุมทุกสถานการณ์ พร้อมระบบโต้ตอบ 4 ทิศทาง ใช้งานได้ทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยให้คุณไม่ต้องใช้มือในการควบคุม รองรับ CarPlay และ Spotify : แพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงชั้นนำระดับโลก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในหลายภูมิภาคทั่วโลก (Spotify จะพร้อมใช้งานผ่าน OTA ในเดือนธันวาคม) ชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง Snapdragon 8155P : ให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลที่ยอดเยี่ยม สั่งการค่าต่างๆ ของตัวรถได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 : มอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นบนทางหลวงหรือถนนที่มีการจราจรหนาแน่น ระบบนำทางอัจฉริยะ : รองรับการค้นหาสถานีชาร์จ และการแสดงผลแผนที่แบบ 3 มิติ พร้อมประสบการณ์การใช้งานที่ล้ำสมัยด้วยข้อมูลภาพจาก Here AION V ถูกออกแบบโดยยึดหลักแนวคิด Cyber Design ผสมผสานรูปทรงที่ล้ำสมัยเข้ากับรูปทรงเรขาคณิตที่หลากหลาย เพื่อสร้างความสวยงามที่เฉียบคมและพลิ้วไหว โดดเด่นด้วยไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Full LED ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องจักรกลล้ำสมัย ด้านข้างมาพร้อมเส้นสายที่ดูแข็งแกร่งและทรงพลัง พร้อมด้วยล้ออัลลอยแบบ 8 ก้าน ขนาด 19 นิ้ว มาพร้อมสีตัวถังภายนอกทั้งหมด 7 สี และสีภายในห้องโดยสาร 2 สี ดังนี้ สีภายนอก (Exterior)
สีขาว Alpine White สีดำ Onyx Black สีน้ำตาล Sahara Sand สีเงิน Aurora Silver สีเทา Iceland Grey สีส้ม Volcano Orange สีส้ม หลังคาขาว Volcano Orange + White Roof สีภายใน (Interior)
สีดำ Midnight Black สีน้ำตาล Olympus Brown AION V 602 Luxury ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 1,029,900 บาท โปรโมชั่นพิเศษสำหรับ AION V เฉพาะในงาน Motor Expo 2024 ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2567 รับสิทธิพิเศษ ส่วนลดเพิ่ม 30,000 บาท
ราคาเหลือเพียง 999,900 บาท MG
NEW MG IM6 โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกโค้งมน และพลิ้วไหว มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ และระบบเครื่องเสียงพร้อมลําโพง 20 จุด สมรรถนะทรงพลังด้วยขุมพลังมอเตอร์คู่ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้พละกำลังสูงสุดที่ 787 แรงม้า (579 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 3.48 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 100 kWh สามารถชาร์จแบบเร็วสูงสุด 800 V (Quick Charge) จาก 10% - 80% ใช้เวลาประมาณ 18 นาที และให้ระยะทางมากกว่า 600 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทั้งนี้ NEW MG IM6 ถือเป็นโมเดลแรกและหนึ่งเดียวในคลาสที่มีระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ
แต่!!! NEW MG IM6 มีกำหนดเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยภายในครึ่งปีแรกของปี 2568
GWM
GWM TANK 700 Hi4 -Tจะมีความยาวที่สุดในตระกูล GWM TANK โดยมีความยาวตังถังอยู่ที่ 5,110 มม. กว้าง 2,122 มม. สูง 1,986 มม. และมีระยะฐานล้อ 3,000 มม. โดยมีระยะความสูงใต้ท้องรถ 282 มม. ลุยน้ำลึกได้ถึง 970 มม. และ 970 มม. ในโหมดยกตัว มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ 2 จอที่ประกอบไปด้วยหน้าจอมาตรวัดขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจออินโฟนเทนเมนต์ 16.2 นิ้ว ที่วางแบบลอยตัว อีกทั้งยังได้รับจอ HUD ระบบเครื่องเสียง Harman Kardon มาพร้อมลำโพง 16 ตำแหน่ง และแอมพลิฟายเออร์อิสระที่มีกำลังสูงสุด 1,600 วัตต์
ส่วนขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริด 3.0T V6 ระบบ VGT (Variable Geometry Turbochargers) คู่ขนาดใหญ่ พละกำลังรวม 385 กิโลวัตต์ หรือ 523 แรงม้า แรงบิด 800 นิวทันเมตร แรงบิดที่ล้อสูงสุด 13,000 นิวทันเมตร ทำงานร่วมกับเกียร์ 9 จังหวะ สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 5 วินาที
GWM WEY 80 PHEV มาพร้อมกับมอเตอร์คู่ด้านหน้า และด้านหลัง มอบพละกำลังรวมสูงสุดถึง 337 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุดที่ 644 นิวทันเมตร และด้วยมอเตอร์หลังที่มีพละกำลัง 135 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุดที่ 232 นิวทันเมตร จึงทำให้รถยนต์เอมวีพีอเนกประสงค์ไฮเอนด์คันนี้มอบพลังในการขับขี่ทางลาดชันที่เหนือชั้น เหมาะสำหรับสภาพถนนที่ท้าทาย เช่น สะพานที่สูงชัน สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 5.7 วินาที รวมถึงยังประหยัดน้ำมันภายใต้สภาวะที่แบทเตอรีหมด โดยมีอัตราการใช้น้ำมันอยู่ที่ 7.2 ลิตร/100 กม. ตามมาตรฐาน WLTC
XPENG
XPENG X9 เปิดราคา 2,790,000 บาท พร้อมเปิดรับจองสิทธิ์ ก้าวล้ำด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ SiC Architecture รองรับความเร็วในการชาร์จสูงสุดถึง 330 กิโลวัตต์ โครงสร้างตัวถังสถาปัตยกรรม SEPA2.0 ที่พัฒนาโดย เอ็กซ์เผิง รูปลักษณ์ได้แรงบันดาลใจจากยานอวกาศ (Starship) ห้องโดยสารกว้างขวาง มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 7.7 ตารางเมตร ผสาน Zero-gravity Seat หรูหรา มีระดับ โดยที่เบาะแถว 3 สามารถพับแบนราบด้วยระบบไฟฟ้า ปรับเปลี่ยนการโดยสารเป็นแบบ 4 หรือ 7 ที่นั่ง ได้ตามต้องการ ติดตั้งจอภาพขนาด 21.4 นิ้ว รองรับความบันเทิงเต็มรูปแบบ ขับกล่อมด้วยลำโพง Xopera 23 ตำแหน่ง ติดตั้งชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8295 เด่นด้วยระบบเลี้ยว 4 ล้ออัตโนมัติ ช่วยให้วงเลี้ยวแคบเพียง 5.4 เมตร คล่องตัวสูงสุดเทียบกับรถกลุ่มเดียวกัน มาพร้อมช่วงล่างถุงลม Dual-Chamber ปรับสูง-ต่ำและความหนืดอัตโนมัติ เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ราคา 2,790,000 บาท มาพร้อมแพ็กเกจ
Wallbox + ค่าติดตั้ง* ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อมพรบ. นาน 1 ปี* Portable Charger 1 ชุด* Vehicle Warranty 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร Battery and Drive Motor with Intelligent Power Unit Warranty 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร* คะแนนสะสม MOBILIFE 90,000 คะแนน* ZEEKR
ZEEKR 7X รถเอสยูวีไฟฟ้า 5 ที่นั่งสุดพรีเมียมที่ออกแบบมาเพื่อครอบครัวโดยเฉพาะ สะดวกสบายด้วยห้องโดยสารขนาดใหญ่ กว้าง นั่งสบาย พร้อมเบาะปรับไฟฟ้าทั้งผู้โดยสารหน้า และหลังพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ด้วยระบบขับเคลื่อน Silicon Carbide E-Motor 2 ชุด ช่วยให้ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.8 วินาที ระยะทางขับขี่สูงสุด 780 กิโลเมตร มาตรฐาน CLTC โดยรุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งด้านสมรรถนะและความสะดวกสบาย มอบประสบการณ์เหนือระดับทั้งการเดินทางใกล้และไกลไปกับครอบครัวอย่างไร้กังวล
อย่างไรก็ตามรถยนต์ในบูธจากประเทศจีนหลายรุ่นนำมาโชว์เรียกน้ำย่อยก่อนจะขายจริงในช่วงปี 2568 นี้
กลุ่มรถยนต์ยุโรป-อเมริกา ZEEKR
ZEEKR 001 รถยนต์ไฟฟ้าพลังแรง FR Hyper-Performing Electric Shooting Brake รถยนต์ซีดานทรงสปอร์ตที่จะมาทลายทุกข้อจำกัดของรถ Performance ด้วยพละกำลังสูงถึง 1,300 แรงม้า จาก Silicon Carbide E-Motor 4 ชุด ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 2.02 วินาที พร้อมระบบช่วงล่างแบบ High Performance และแบตเตอรี่ Qilin ขนาด 100 kWh เทคโนโลยี 800V รุ่นล่าสุดจาก CATL
MERCEDES-BENZ
Mercedes-Benz G 450 d ยนตรกรรมเอสยูวีขนาดใหญ่สำหรับผู้ที่หลงใหลในเสียงเครื่องยนต์ดีเซลอันทรงพลัง มาพร้อมดีไซน์ดุดันในแบบ G-Class โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ดีเซลรหัส OM 656M ความจุ 2,989 ซีซี พ่วงระบบ ISG2 (Integrated Starter Generator) ที่ให้พลังรวมสูงสุด 367 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดถึง 750 นิวตันเมตร ที่ 1,350-2,800 รอบต่อนาที อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 5.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กม./ชม. ระบบขับเคลื่อนที่พัฒนาขึ้นใหม่นี้ทำให้รถยนต์คันนี้โดดเด่นทั้งด้านสมรรถนะการขับขี่และการประหยัดพลังงานไปอีกขั้น จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 12,200,000 บาท
BMW
BMW M5 ใหม่ กลับมาสืบสานตำนานแห่งสมรรถนะ 40 ปีเต็มด้วยรุ่นล่าสุดในเจนเนอเรชั่นที่ 7 ที่นำระบบ
ส่งกำลังแบบไฮบริดมาปรับใช้เป็นครั้งแรกในรถซีดานตัวแรงในตำนานรุ่นนี้ ด้วยขุมพลังเทคโนโลยี M HYBRID ที่พัฒนาขึ้นสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ ดึงสมรรถนะจากเครื่องยนต์ทรงกำลัง V8 ขนาด 4.4 ลิตร เทคโนโลยี M TwinPower Turbo ส่งกำลังได้สูงสุดถึง 430 กิโลวัตต์ / 585 แรงม้า มาจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 145 กิโลวัตต์ / 197 แรงม้า และเกียร์ M Steptronic 8 จังหวะ ผลลัพธ์ที่ออกมาคือพละกำลังมหาศาล รวมกว่า 535 กิโลวัตต์ / 727 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,000 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.5 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ถูกจำกัดไว้ที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพร้อม M Driver’s Package (สามารถปลดล็อกความเร็วสูงสุดได้ที่ศูนย์บริการบีเอ็มดับเบิลยู หลังจากขับขี่ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 กิโลเมตร) ด้วยเทคโนโลยีแชสซีขั้นสูงที่ปรับแต่งมาให้เข้ากับสมรรถนะของตัวรถโดยเฉพาะ บีเอ็มดับเบิลยู M5 ใหม่ จึงเร็ว แรง และนิ่งกว่าคู่แข่งในเซกเมนต์นี้อย่างชัดเจน พร้อมยกระดับสมรรถนะในแบบ M สู่มิติใหม่
MASERATI
GranTurismo Folgore Limited Edition 110 Anniversario’ มีเพียง 110 คัน ทั่วโลก มาจัดแสดง ให้ได้ชมกันแบบใกล้ชิด ผ่านการตกแต่งพิเศษจาก Fuoriserie Program พร้อมนำเทคโนโลยี จากสนามแข่ง ฟอร์มูลา อี (Formula E) สุดยอดรายการแข่งรถยนต์ไฟฟ้าชิงแชมป์โลก อาทิ แบตเตอรี่ 800 โวลต์ ขับเคลื่อนด้วยพลังจาก 3 มอเตอร์ไฟฟ้า (1 ด้านหน้า และ 2 ด้านหลัง) มีกำลังรวมสูงถึง 761 แรงม้า (CV) และแรงบิดมหาศาล 1,350 นิวตันเมตร ใช้เทคโนโลยีการติดตั้งแบตเตอรี่ กับโครงสร้างรถเป็นทรงคล้ายตัวอักษร T ส่งผลให้ตำแหน่งการขับสามารถทำได้ดีแบบรถสปอร์ต พันธุ์แท้และช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างตัวถังได้ดี และเพื่อเป็นการเดินหน้าสู่พลังงานแห่งอนาคตอย่างเต็มที่ และก็ยังมีรุ่น ‘Grecale Folgore’ สปอร์ตเอสยูวีไฟฟ้า 100% คันแรกของค่ายตรีศูล แรงจัดระดับ 550 แรงม้า (HP) มาให้สัมผัส มาเซราติ สายพันธุ์ โฟลกอเร ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% มาพร้อมแพ็กเกจ ราคาขำๆ ที่ 12,900,000 บาท
รับประกันคุณภาพตัวรถ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง* รับประกันแบตเตอรี่ High-voltage 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร* FORD
ฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมชุดแต่ง MS-RT (Ranger MS-RT) สุดยอดรถกระบะสไตล์เรซซิ่งอาร์เอ็มเอในการเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมชุดแต่ง MS-RT เป็นครั้งแรก หลังจากเราได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากการจัดแสดงรถต้นแบบเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดรถยนต์ไทย ฟอร์ด ผู้จำหน่ายฟอร์ดและอาร์เอ็มเอ จึงนำนวัตกรรมที่แตกต่างอย่างเป็นเอกลักษณ์มานำเสนอให้กับลูกค้าชาวไทย
ราคา 1,749,000 บา ท โดยนำเสนอครั้งแรกเพียง 200 คัน เท่านั้น
อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ MS-RT
การออกแบบตัวถังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ต เน้นความพรีเมียมตั้งแต่กันชนหน้าใหม่อันโดดเด่น พร้อมลิ้นหน้า (Splitter) ในตัว ซุ้มล้อกว้างขึ้นทั้งหน้าและหลังทำให้ความกว้างโดยรวมเพิ่มขึ้น 82 มิลลิเมตร ชุดสเกิร์ตด้านข้าง สปอยเลอร์หลังคา กันชนหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมดิฟฟิวเซอร์หลังสไตล์มอเตอร์สปอร์ต สปอยเลอร์หลังแบบ Ducktail บันไดข้างไฟฟ้าแบบพับเก็บอัตโนมัติ ห้องโดยสารภายในตกแต่งด้วยหนังสังเคราะห์และหนังกลับ พร้อมเบาะที่นั่งโอบกระชับออกแบบมาเฉพาะในสไตล์ MS-RT พร้อมเดินด้ายสีน้ำเงินเอกลักษณ์ตกแต่งรอบห้องโดยสาร ล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษลาย ‘ไดมอนด์ คัท’ สีดำ ขนาด 21 นิ้ว กระจกมองข้าง และมือจับประตูสีอะเกต แบล็ก พวงมาลัยใหม่ดีไซน์สปอร์ต ตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ MS-RT ลดความสูงของตัวรถลง 40 มิลลิเมตร
สเปคดุดันนน !!!
ขุมพลังเครื่องยนต์เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร วี 6 หัวฉีด Bosch Piezo แรงดันในรางหัวฉีด 2,000 บาร์ แรงดันเทอร์โบชาร์จสูงสุด 2.8 บาร์ เป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับความนิยมมายาวนานในต่างประเทศและเปิดตัวในไทยเมื่อต้นปี 2024 มีความเสถียรและทนทาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำลังและแรงบิดมากขึ้นจากรุ่นปกติ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter พละกำลังสูงสุด 250 แรงม้า ที่ 3,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร (Best in Class) ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติ 4A 4WD มีตัวเลือกโหมดการขับขี่ 6 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ (Normal), โหมดประหยัด (Eco), โหมดลากจูง (Tow/Haul), โหมดถนนลื่น (Slippery), โหมดโคลนและหิน (Mud/Ruts) และโหมดทราย (Sand) มอบสมรรถนะสูงสุดสำหรับการเดินทางบนทุกสภาพผิว
ความสะดวกสบายครบ
ระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน (Zone Lighting) ควบคุมการเปิดไฟส่องสว่างภายนอกตัวรถ เมื่อต้องการแสงสว่างในการทำกิจกรรมต่างๆ ในตอนกลางคืน ได้แก่ ไฟหน้า ไฟส่องพื้นจากกระจกข้างรถ ไฟในกระบะท้าย และไฟส่องแผ่นป้ายทะเบียน โดยสามารถเลือกเปิดปิดเฉพาะบางโซนหรือทุกโซนพร้อมกันได้ผ่านหน้าจอ SYNC
ฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมชุดแต่ง MS-RT มีสีภายนอกให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเทา คอมมานด์ เกรย์ สีดำ แอบโซลูท แบล็ค
ฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมชุดแต่ง MS-RT เปิดให้จองภายในงานมหกรรมยานยนต์มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 41 และที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดที่ร่วมโครงการโดยเริ่มจองได้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป