นาวารา รุ่น PRO-4X 2024 กับภายในห้องโดยสารใหม่ ! พร้อมขุมพลังแรง ประหยัด ทนพร้อมลุยเหมือนเดิมกับ เครื่องยนต์ดีเซลทวินเทอร์โบ 2.3 ลิตร 4 สูบ พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ สมรรถนะสูงแข็งแกร่งด้วยเชสซีเหล็กกล้าลุยได้ทุกที่ ครั้งนี้เราจะไปเปิดประสบการณ์ใหม่ วันเดย์ทริปกับสมรรถนะเต็มพลังของนิสสัน นาวาร่า
PRO-4X เส้นทาง กรุงเทพฯ - ชลบุรี จะให้อะไรกับเราได้บ้าง ติดตามได้จากคลิปนี้
ดีไซน์ภายนอก ยังดูดุดันแฝงความทันสมัย ตลอดไปจนเส้นสายของตัวถังด้านข้าง และด้านท้ายรถ ที่ดูคมเข้ม พร้อมประโยชน์ใช้สอย สื่อถึงจุดเด่นของนาวาราที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง และในทุกสภาพการขับ กระจังหน้าแบบอินเทอร์ล็อค ไฟหน้า Quad-Eye LED คุณภาพสูง พร้อมไฟ Daytime Running Light และไฟท้าย LED แบบ Guide light ที่โดดเด่น ซุ้มล้อขนาดใหญ่สไตล์รถออฟโรดตอกย้ำความพร้อมที่จะลุยในทุกสถานการณ์ สำหรับดีไซน์ภายนอกของ
นิสสัน นาวารา รุ่นPRO-4X และ PRO-2X เด่นด้วยกระจังหน้าสีดำสไตล์สปอร์ต ไฟหน้าแบบ Quad-Eye LED และไฟ DLR ล้ออัลลอยพร้อมยางแบบออลเทอเรน เสาอากาศดีไซน์ใหม่แบบ shark fin ตัวถังยกสูงช่วยให้ผู้ขับลุยได้ทุกเส้นทาง และพร้อมสำหรับทุกความท้าทายด้วยความมั่นใจ
ภายในลุคใหม่ทุกมุมมองกับคอนโซลหน้าจากรุ่นเทอร์ร่า เปลี่ยนบรรยากาศภายในของห้องโดยสารให้พรีเมี่ยมมากขึ้น ด้วยการตกแต่งที่ลงตัวทุกจุด เด่นด้วยจอทัชสกรีนใหญ่ขนาด 9 นิ้ว ในรุ่น PRO-4X และ PRO-2X เพิ่มความสปอร์ต พรีเมียม มาพร้อมวัสดุบุนุ่มคุณภาพสูงในหลายๆ จุด เช่น ที่พักแขน และคอนโซลหน้า และติดตั้งกระจกอคูสติก (Acoustic Glass) ลดเสียงรบกวนจากภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวน
รุ่น PRO-Series มีเบาะนั่งปรับระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง ช่วยให้ผู้ขับปรับเบาะนั่งให้เหมาะได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส รวมทั้งยังเพิ่มบรรยากาศสไตล์สปอร์ตด้วยเบาะเดินเส้นด้วยสีส้มที่นั่งตอนหน้าแบบ Zero Gravity เริ่มตั้งแต่ในรุ่น คาลิเบอร์ ช่วยลดความเมื่อยล้าเมื่อขับทางไกล หุ้มเบาะด้วยวัสดุ Quole Modure* ที่สะท้อน และไม่สะสมความร้อนแม้ต้องเดินทางในระยะไกล เพิ่มความสบายทั้งในรุ่น คาลิเบอร์และ PRO-Series ที่นั่งตอนหลังยังได้ติดตั้งที่พักแขน และที่วางแก้วน้ำให้ความสะดวกสำหรับผู้โดยสารตอนหลังมากยิ่งขึ้น
ระบบแอร์อัตโนมัติพร้อมแยกระบบควบคุมอุณหภูมิในแต่ละที่นั่ง ให้ความสบาย ผู้โดยสารแต่ละคนทั้งตอนหน้า และหลังสามารถปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการและเพื่อสนองความต้องการ และไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ นิสสัน นาวารา ยังมาพร้อม NissanConnect ระบบอินโฟเทนเมนท์อัจฉริยะ ที่พร้อมสร้างความบันเทิง ด้วยการรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับ Wireless Apple CarPlay และเชื่อมต่อผ่านสาย USB สำหรับ Android Auto ช่วยให้ผู้ขับและผู้โดยสารสามารถใช้แอปพลิเคชันระบบนำทางผ่านระบบเครื่องเสียงอัจฉริยะได้สะดวกยิ่งขึ้น และยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียง พร้อมกันนี้ยังมีจุดชาร์จไฟหลายรูปแบบทั้ง Type C และ Type A เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อ และสื่อสารได้อย่างไม่ขาดตอนขณะกำลังเดินทาง รวมทั้งยังมีช่องเก็บของหลายจุด ให้จัดเก็บของได้อย่างสะดวก ปลอดภัย สามารถหยิบใช้งานได้ง่าย และยังมาพร้อมกุญแจอัจฉริยะ ที่ใช้งานและควบคุมได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
ขุมพลังเครื่องยนต์ทรงพลังและสมรรถนะสูง ภายใต้มาตรฐานไอเสียยูโร 5 รหัส YS23DDTT ความจุ 2.3 ลิตร 4 สูบ แบบทวินเทอร์โบ พร้อมจะพาผู้ขับไปทุกที่ และสนุกกับทุกความท้าทายในการเดินทาง เครื่องยนต์ใหม่รุ่นนี้มีความทันสมัยได้มาตรฐานยูโร 5 (EURO V) ที่มีการปล่อยไอเสียต่ำ แต่ยังคงให้การตอบนองทันใจ ประหยัดน้ำมันเช่นเดียวกับนิสสัน นาวารา รุ่นก่อนหน้า ฟิลเตอร์ Diesel Particulate Filter (DPF) ช่วยกรองละอองเขม่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อไฟ DPF โชว์ที่หน้าจอ ผู้ขับสามารถกดปุ่มให้ฟิลเตอร์ DPF ทำงาน เพื่อลดปริมาณเขม่าควันลง โดยให้พลังสูงสุด 190 แรงม้า (Ps) และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ที่สามารถเปลี่ยนไปเป็นโหมดแมนนวล (M mode) ได้เพื่อเพิ่มความสนุกสนการขับที่ควบคุมได้ตามใจ รวมทั้งยังประหยัดเชื้อเพลิง และรองรับน้ำมันดีเซลทุกประเภท (B7, B10, และ B20)
เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ ประสิทธิภาพเยี่ยมให้ความมั่นคงในการยึดเกาะถนน และควบคุมได้ ด้วยเทคโนโลยี Brake-Limited Slip Differential (B-LSD) ระบบ Shift-On-The-Fly 4-Wheel Drive & ILO ที่ผู้ขับสามารถเปลี่ยนโหมดระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เป็น 4 ล้อได้เมื่อขับด้วยความเร็วต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นิสสัน นาวารา ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของความแข็งแกร่งและการบรรทุกหนักด้วยโครงสร้างแชสซีทำจากเหล็กกล้า มีพื้นที่บรรทุกของได้อย่างจุใจ ให้ประโยชน์การใช้งาน และความสะดวกเต็มพิกัด เช่น บันไดที่กันชนหลังซึ่งช่วยให้เข้าออก และขนของที่กระบะได้สะดวก รวมถึงการปรับตำแหน่งตะขอยึดใหม่ เพื่อตอบโจทย์การบรรทุกสัมภาระทั้งขนาดใหญ่ และเล็ก
ระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยกล้องรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM) ที่มีกล้อง 4 ตัวที่แสดงภาพได้แบบเรียลไทม์ และมุมสูง ดูได้จากขอ 9 นิ้ว (สำหรับรุ่น PRO) ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Moving Object Detection (MOD) ที่ตรวจจับวัตถุรอบตัวรถในช่วงความเร็วไม่เกิน 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากตรวจพบวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ ระบบจะส่งสัญญาณเสียงและภาพเพื่อเตือนผู้ขับทันที รวมทั้งยังสั่งให้ระบบออฟโรด และระบบชับเคลื่อนทุกล้อทำงาน นอกจากนี้ยังมี Parking Sonar พร้อมเซ็นเซอร์ที่กันชนหน้าและหลังที่ส่งสัญญาณเตือนเมื่อพบวัตถุเคลื่อนไหวขณะที่กำลังจอด นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือต่างๆ อีกมากมายเหมือนเดิม
สำหรับการขับตลอดเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ ชลบุรี ระยะทางรวมเกือบ 200 กม. ใช้เวลาขับจริงไม่นานด้วยขุมพลังที่ตอบสนองการขับแบบออนโร้ดได้ดีเยี่ยม พร้อมกับความเพลิดเพลินจากการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วย Apple Car Play ฟังเพลงผ่าน Spotify ไปเพลินๆ ไม่นานก็ถึงหาดบางแสน พร้อมแวะขับไปเก็บภาพตามสถานที่ต่างๆ ในชลบุรี รวมทั้งคาเฟ่เก๋ๆ แถวหาดวอนนภา รวมไปถึงชมพระอาทิตย์ตกดินที่ริมทะเลบางพระ ที่มีร้านอาหารทะเลอร่อยๆ พร้อมบรรยากาศเงียบสงบมากที่สุดในชลบุรี จนได้เวลาก็ขับ
นิสสัน นาวาร่า PRO-4X กลับกรุงเทพฯ พร้อมกับประสบการณ์ใหม่ดีๆ ในวันเดียวไปกับนาวาร่า
สนใจชมคันจริง และทดลองขับได้ที่โชว์รูมนิสสัน พร้อมสอบถามรายละเอียดและโปรโมชั่นเพิ่มเติม ช่วงนี้มีโปรโมชั่น Say Yes รับดอกเบี้ยเริ่มต้น 0% หรือผ่อน 96 งวด