ปัจจุบันเข้าสู่ยุค "สังคมผู้สูงวัย" หรือ "ใกล้เกษียณ" หลายคนเริ่มมองหารถยนต์ใหม่สักคันเอาไว้ใช้งานเมื่อยามแก่เถ้า หรืออาจจะมีโอกาสที่ลูกหลานจะซื้อเอาไว้ให้ใช้งานหลังจากนั้น เช่น รับส่งหลาน, ไปตลาด, รถซื้อแกง(จะแรงได้ไง) หรือใช้ไปธุระพบปะเพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้อง สิ่งที่ความคำนึงถึงในการเลือกซื้อรถยนต์ในวัยเกษียณนั้นจะมีอะไรบ้าง?
1.ขึ้นลง-สะดวก
ผู้ใหญ่วัยเกษียณส่วนมากจะมีอายุราว ๆ 55 - 60 ปี แม้ว่าจะแข็งแรงแค่ไหน แต่สิ่งที่ยังคงต้องระมัดระวังตัวมาก ๆ คือ การก้าวขึ้น-ลง รถยนต์ เพราะถ้ารถที่มีความเตี้ยเกินไป เวลาก้าวเข้าไปนั่งในรถจะต้องย่อตัวลงมาก และจะต้องมีที่ยึดหรือจับมั่นคง เช่น มือจับภายใน หรือจะต้องโหนกับขอบประตู ซึ่งจะต้องใช้ความระมัดระวังมาก ๆ และถ้ารถที่สูงมากเกินไป เช่น รถกระบะหรือรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV/PPV) นั้นจะต้องใช้แรงในการดึงตัวพร้อมกับต้องก้าวขึ้นบันไดข้างตัวรถ หากรุ่นไหนที่ไม่บันไดก็จะยิ่งลำบาก เพราะจะต้องก้าวขาสูง ๆ เพื่อให้เข้าไปในรถก่อนที่จะต้องโหนดึงตัวขึ้นไป ผมเชื่อว่าวัยเกษีนณหลยา ๆคนยังมีเรี่ยวแรงมากอยู่ แต่ถ้าหลังจากนั้นอีก 3 - 5 ปี หรืออาจจะ 10 ปี ทุกอย่างย่อมเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ดังนั้นการเลือกซื้อรถยนต์ไว้ใช้ยามเกษียณอาจจะต้องเลือกเผื่ออนาคตเอาไว้ด้วยครับ
2.เทคโนโลยีน้อย ๆ
การใช้งานรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีน้อย ๆ ทำให้การดูแลรักษาประจำวันไม่ยุ่ฝยาก รวมถึงเมื่อรถมีอายการใช้งานเพิ่มขึ้น การบำรุงรักษาก็ย่อมง่าย ประหยัดและไม่จุกจิกอีกด้วย และยิ่งมีบริการหลังการขายที่สะดวกใกล้บ้านหรือมีบริการรับ-ว่งรถเข้าศูนย์ก็ยิ่งดี และโดยส่วนในวัยเกษียณนั้น อาจจะไม่ได้ขับขี่ทุกวัน จอดมากกว่าใช้งาน และนาน ๆ ที่อาจมีเดินทางไกลบ้าง ดังนั้น การใช้รถยนต์ที่ระบบไม่ซับซ้อน จะช่วยให้ดูแลง่ายกว่า เช่น รถยนต์สันดาปล้วน ๆ หรือถ้ามีความชื่อชอบรถยนต์ไฮบริดหรือรถยนต์ไฟฟ้าก้อาจจะดูเรื่องบริการหลังการขาย การซ่อมบำรุงที่สะดวกเอาไว้ก่อนครับ
3.ดูแลง่าย
รถยนต์ที่ดูแลง่าย ไม่ลำบากและเป็นภาระ เพราะเมื่อเกษีนณจำเป็นประหยัดค่าใช้จ่าย หลายทาง ยิ่งรถยนต์เป็นสิ่งที่ต้องบำรุงรักษาสม่ำเสมอ หากเลือกรถยนต์ที่มีปัญหาระยะยาวน้อย ราคาอะไหล่ไม่แพง หรือบางครั้งสามารถแก้ไขเบื้องต้นได้เอง ก็น่าจะช่วยลดภาระลงได้ และหากเกิดปัญหาต่าง ๆ ของรถก็สามารถเข้าใจปัญหาและความรู้ที่จะบอกหรือแก้ไขเมื่อถึงมือช่างได้ ย่อมช่วยให้ไม่ถูก "ฟันค่าซ่อม" ได้อีกทางด้วยครับ
4.ซ่อมได้ทุกที่
รถยนต์ที่เลือกก็จำเป็นต้องหาที่ซ่อมบำรุงได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน สามารถนำรถเข้าศูนย์ใกล้ ๆ หรืออู่ที่ไว้ใจหรือแม้แต่หาซื้ออะไหล่เองได้ง่าย ๆ ช่วยลดการเดินทางไปตระเวนหาร้านซ่อมรถ หรือว่าเมื่อต้องทิ้งรถไว้ จะได้มีความสะดวกในการเดินทางกลับมาบ้าน รถยนต์ไม่ว่าจะดีแค่ไหนเมื่อถึงเวลาย่อมต้องมีการบำรุงรักษาตามอายุการใช้งาน แม้จะจอดนิ่งก็ยังต้องนำเข้าเช็คระยะตามกำหนดไว้่ว่าระยะทางวิ่งหรือระยะเวลาใดถึงกำหนด เพื่อให้รถยนต์พร้อมเสมอในการเดินทางและไม่ไปจอด "ตาย" กลางถนนครับ
5.งบประมาณที่ดูแลเองได้
ก่อนจะซื้อรถไว้ใช้วัยเกษียณ นอกจากจะเลือกรถให้เหมาะสมแล้ว อีกสิ่งที่ควรเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าคือ "เงิน" และควรจะเน้นการซื้อ "สด" ให้จบขาด เพราะเมื่อเกษียณแล้วจะไม่มีรายรับประจำเช่นเคย ดังนั้น หากซื้อแบบ "ผ่อนชำระ" ก็ควรต้องใช้เงินดาวน์ให้มากที่สุด ผ่อนต่อเดือนน้อยที่สุดและระยะเวลาสั้นที่สุด แต่ทางที่ดีคือ ควรสดเงินสดไปเลยดีกว่าครับ เพื่อไม่ให้ตกไปเป็นภาระกับลูกหลายต่อไปโดยที่เราไม่ตั้งใจเอาไว้ ยกเว้นกรณีลูกหลายพร้อมรับช่วงต่อโดยไม่เดือดร้อนนะครับ
อ๋อแล้วอย่าลืมเผื่อเงินไว้เติมน้ำมันด้วยนะครับ น้ำมันราคาไม่นิ่งมีแต่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ถึงวันนั้นจริง ๆ อาจะทะลุ 50 บาทต่อลิตรแล้วก็เป็นได้ครับ!!!
สรุปแล้วผู้เกษียณและผู้สู.วัยนั้น ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการขับรถยนต์ด้วยตนเองเอาไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัย เพราะสภาพร่ายการในแต่ละวันแต่ละปีอาจจะไม่ "ฟิต" ระบบประสาทและสายตาอาจะไม่ชัดเจนหรือว่าการตัดสินใจต่าง ๆ อาจไม่แม่นยำเหมือนสมัยหนุ่ม ๆ แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องขับรถยนต์เองควรค่อย ๆ เป็นค่อยไป ไม่ต้องรีบร้อน ใจเย็น ๆ และถ้ามีสัญลักษณ์ติดท้ายรถเอาไว้เพื่อบอกเพื่อร่วมทางว่า "ผู้สูงวัย" หรืออาจจะเป็นรูปภาพให้เข้าใจ เพื่อเพื่อนร่วมทางจะได้คอยระมัดระวังเราในอีกทางหนึ่งด้วยครับ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่คำแนะนำไม่ใช่กฎข้อบังคับแต่ประการใด หากเป็นเพียงความหวังดีและห่วงใยเท่านั้น ส่วนใครที่ยังสามารถหรือจำเป็นในการขับรถเพื่อความสะดวกในการเดินทางอยู่นั้น ก็แค่เพิ่มความระมัดระวังมากอีก 5 เท่านะครับ