BMW IX xDrive 50 Sport รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้เปิดตัวมาก็นานแล้วแต่กลับมีเทคโนโนโลยีที่ยังล้ำสมัยและไม่ตกยุคหรืออาจจะ
มีฟังก์ชั่นที่โดดเด่นกว่าคู่แข่งหรือรถยนต์รุ่นใหม่ระดับเดียวกันในปัจจุบันด้วยซ้ำ และเป็นรถที่ขับง่าย คันเร่งและเบรกนุ่ม ๆ ไม่ต่างรถสันดาป แถมสบายท่านั่งผ่อนคลาย เบาะคู่หน้าที่ปรับได้ละเอียดให้รับกับตัวคนนั่งได้อย่างดี พื้นที่ภายในทั้งตอนหน้าและหลังกว้างขวางมาก ๆ หลังคาโปร่งโล่งสบายกระจกพาโนรามิคปรับลดแสงได้ในตัว และระบบไฟฟ้าทั้งคันประตูไฟฟ้า แบบ Smart entry สามารถเปิดได้ทุก ๆ ประตูไม่จำเป็นต้องเปิดแค่ปนะตูด้านหน้า ฝาท่ายไฟฟ้าพร้อม Hand free ใช้ง่ายแค่ยื่นเท้าระบบทำงานไว้แม่นยำมาก ไม่ต้องยืนรอนาน ผมกล้าบอกเลยว่า
iX คันนี้นับเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่สมกับราคาค่าตัว 6 ล้านกว่าบาทมากที่สุดในตอนนี้!
VIDEO
ก่อนอื่นต้องบอกว่ารถยนต์ไฟฟ้าระดับนี้อาจแบ่งเป็นกลุ่มคนที่ต้องการซื้อ "เทคโนโลยี" ที่ตอบสนองการใช้งานได้หลากหลาย ถัดมาก็ซื้อ "ความประหยัดและสมรรถนะดีเยี่ยม" และสุดท้ายซื้อประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่าทั้งภายนอกภายในรวมถึงระบบต่างช่วยเหลือการขับขี่ต่าง ๆ ที่มีให้เต็มคัน และต้องเป็นผู้ที่ "เปิดใจ" อยากลองขับรถยนต์ไฟฟ้าและเป็นรถคันที่ 2 หรือ 3 ของบ้าน มาดูกันครับที่ผมบอกว่า "เป็นรถที่สมราคา" ที่สุดมันเป็นอย่างไร
ภายนอกและภายใน ยานยนอวกาศชัด ๆ
BMW iX xDrive 50 Sport มีความเป็นรถรูปทรงผสมผสานระหว่างความเป็น SAV/SUV ตัวรถทรงหลังคาสูงโปร่ง และมีส่วนท้ายยาวทำให้ตัวรถมีทั้งกว้างและยาวมาก นับเป็นแฮตช์แบ็ก 5 ประตูไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง ไฟหน้าระบบ BMW Laser แบบปรับระดับอัตโนมัติที่เลือกได้ทั้งปรับตลอดการขับขี่หรือล็อคระดับได้ ภายในโคมไฟหน้ายังมีระบบส่องสว่างสำหรับเลี้ยวเมื่อเปิดไฟเลี้ยวหรือหมุนพวงมาลัย
กระจังหน้าลวดลายแบบอนาคตพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับบนถนน และโลโก้ "BMW" ที่เปิดออกสำหรับเติมน้ำฉีดกระจก กันชนหน้าเรียบหรูดูสปอร์ต ฝากระโปรงหน้าออกแบบให้มีเส้นสายดุดันคล้ายรุ่นตระ "M sport" ในค่าย ซุ้มล้อขนาดใหญ่ พร้อมกับล้ออัลลอย 22 นิ้ว ยางหน้ากว้าง 275 แก้มขนาด 40 แต่กลับได้ความนุ่มนวลไม่แข็งกระด่างแต่อย่างใด
ด้านตัวรถใหญ่โตสมฐานะหลังคาพาโนรามิคในสไตล์ "Sky Sounge" เปิดไม่ได้นะ แต่ว่าความดฟี้ยวคือ ตัวแผ่นกระจกสามารถปรับลดแสงได้ด้วยปุ่มเดียว ระบบกระจกแบบแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทำให้ตัวกระจกขุ่นหรือใส่ได้ ด้วยระบบ PDLC (Polymer Dispersed Liquid Crystal) ซึ่งลดความร้อนได้จริงจังมาก!
อีกความจึ้งหนึ่งของ iX คันนี้คือ โครงสร้างตัวถังรถแบบ Aluminum Spaceframe ผสานกับ Carbon Cage ทำให้มีน้ำหนักเบาแข้งแรงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิต น้ำหนักของตัวรถรวมเพียง 2,585 กก. เท่านั้น สำหรับรถไซน์ผมถือว่าเบามากแล้วครับ
ระบบเปิด-ปิดประตูไฟฟ้าของ iX เป็นอีกจุดเด่นที่ไม่ควรมองข้าม! นั่นคือ สามารถเปิดประตูหรือปลดล็อครถได้ทุกประตู ไม่จำเป็นต้องไปสัมผัสหรือแตะเฉพาะที่มือจับคู่หน้าอย่างเดียว สามารถกดเปิดปุ่มที่อยู่ในมือเปิดได้ทันที่ทุกประตู! นับว่าสะดวกสบายมาก ๆ และเมื่อปิดประตูไม่จำเป็นต้องปิดแรง เพราะด้วยระบบตัวล็อคประตูนั้นเป็นไฟฟ้า ปิดเพียงเบา ๆ ระบบจะเกี่ยวและล็อคให้เองแบบเงียบ ๆ ไม่มีเสียง และสวิตช์ด้านในก้เป็นแบบปุ่มระบบไฟฟ้า แต่ซ่อนสลักเปิด "ฉุกเฉิน" เอาไว้กันเหนียวเวลาจำเป็นอีกด้วย BMW IX เค้าคิดมาอย่างดีเลยครับ อ๋อแล้วไม่ต้องกลัวเด็ก ๆ ตกรถถ้าแอบเปิดเอง เพราะที่ชุดควบคุมสวิตช์ด้านคนขับมีปุ่มล็อคกันเปิดมาให้ด้วย แต่จะล็อคทั้งประตูและกระจกพร้อมกัน
มาตรวัดแบบ 2 จอขนาดใหญ่ ตรงคนขับ 12.3 นิ้ว แสดงผลครบถ้วนเลือกรูปแบบหน้าจอได้หลากหลาย จอความบันเทิงกลางแบบสัมผัสขนาด 14.9 นิ้ว ที่มีระบบคำสั่งเสียงและท่าทางมือได้ พร้อมระบบเสียงรอบทิศทางจาก Bower & Wilkins กับลำโพง 30 ตำแหน่ง เสียงเพราะมาก นุ่มลึก เบสไม่หนักเกินไป ฟังกำลังสบายหู
สวยมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมได้ทั้งระบบความบันเทิง ระบบการขับขี่ เลือกรูปแบบแสดผลจอและปรับไฟฟ้า 4 ทิส?ษง พร้อมกับจดจำตำแหน่งตามการปรับเบาะคนขับอีกด้วย และมีระบบปรับเลื่อนเก็บให้ง่ายต่อการเข้า-ออก ตรงคอนโซลกลางเป็นชุดควบคุมระบบเกียร์แบบจอยสติ๊กเลื่อนขึ้นลงปกติใช้ง่ายง่ายคุ้นเคย ปุ่ม Start/Stop และแผงควบคุมจอกลางที่ทำเป็นลายไม้เรียบหรูดูดี และปุ่มหมุนแบบคริสตัลที่ดูแพรวพราวมาก ๆ
ฝากระโปรงท้ายแบบ Hand-Free ระบบใช้ง่ายตรวจจับเท้าได้ทันใจมาก และ BMW คำนึกถึงความปลอดภัยในขณะเปิดฝาท้าย ไฟท้ายที่จะถูกเปิดขึ้นไป ทำให้อาจเกิดอันตราย จึงได้ติดตั้งระบบไฟส่องสว่างที่ด้านข้างของตัวรถ เอาไว้ให้สัญญาณเมื่อจอดที่มือและยังไว้เตือนในขณะเปิด-ปิดประตูอีกด้วย
นอกจากนี้เบาะหน้าและหลังยังออกแบบให้นั่งสบาย คู่หน้าปรับได้หลายทิศทางโดยเฉพาะปรับปีกพนักพิงให้กระชับหรือหลวมไว้ผ่อนคลายในขณะขับขี่ได้ เนื้อสัมผัสหรือวัสดุหุ้มเบาะนุ่มระบายอากาศได้ดี เข้ารูปนั่งแล้วไม่ดันไม่ตึงจนเจ็บตัว ทำให้ขับแล้วไม่เมื่อยล้าอีกด้วยครับ ส่วนเบาะหลังขนาดใหญ่นั่งสบายเช่นกัน มีพื้นที่ใช้สอยแบบเหลือ ๆ กว้าโปร่งโล่งสบายไม่อึดอัด สะดวกในการเข้าออก พร้อมที่วางแขนและพับเบาะแบนราบได้ แต่ที่วางแก้วน้ำตรงส่วนปลายของที่วางแขนนั้นดูจะไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่
ระบบปรับอากาศเป็นอีกจุดที่อยากจะเล่าคือ เมื่อเปิดรถระบบแอร์จะทำงานไว้ก่อน พอเริ่มกดปุ่มสตาร์ตก็จะสามารถขับไปได้ทันทีและแอร์ก็เย็นฉ่ำ ๆ ได้เร็วทันใจ สามารถปรับอุณภูมิ แนกได้ 6 โซน คือ หน้า-หลัง, หน้าแยกซ้าย-ขวา, หลังแยกซ้ายขวา ปรับแรงลมแยกได้แบบหน้า-หลัง พร้อมช่องแอร์ทั่วรถด้านหลังมีช่องแอร์บริเวณเสากลางและตอนท้ายคอนโซลกลาง และพื้นที่ด้านหลังเก็บของใหญ่โตและสามารถพับเบาะได้ด้วยสวิตช์ไฟฟ้า แต่ตอนพับขึ้นต้องได้มือดึงนะครับ
สมรรถนะแรงจัด เกาะหนึบไม่ย้วย ประหยัดไฟพอตัว
สมรรถนะอัตราเร่งจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่กำลัง 523 แรงม้า แรงบิด 765 นิวตันเมตร พร้อมระบบ xDrive ขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้ทั้งแรง ตอบสนองทันใจ เกาะแน่นหนึบด้วยช่วงล่างหลังแบบ 5-Link กับความแน่นหนึบและนุ่มนวลจากระบบโช้คอับที่เซตอย่างลงตัว ในความมั่นใจมาก ๆทั้งทางตรงทางโค้งหรือเปลี่ยนช่องทาง
การตอบสนองคันเร่งนุ่มนวลไม่กระชากทำให้ขับขี่ง่ายเหมือนรถน้ำมันทั่วไป ไม่ต้องปรับตัวเยอะ และใช้แรงกดแป้นคันเร่งกับเบรกน้อยมาก เรียกว่าเทียบจะเหมือนขับขี่รถยนต์สันดาป ทำให้ผู้ที่พึ่งได้ลองขับใหม่ ๆ ก็สามารถขับได้อย่างนุ่มนวล ปลอดภัย ไม่อันตราย ไม่พุ่งเร็วเกินไป ถือว่าควบคุมง่าย แต่เมื่อไหร่ที่เพิ่มน้ำหนักคันเร่งลงไปพลังมอเตอร์ไฟฟ้าจะพุ่งเร่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็วและทันใจ และยังควบคุมทิศทางได้เนียบและมั่นใจอีกด้วย
น้ำหนักพวงมาลัยกลาง ๆ ไม่หนักเกินไป ในความเร็วต่ำก็ให้ควาเบาสบาย ส่วนความเร็วสูงก็มีความหนืด ๆ ช่วยให้นิ่งและมั่นคงไม่เบาหวิว ยิ่งรถขนาดใหญ่ทรง SUV แบบนี้หากระบบบังคับทิศทางไม่นิ่งจริง จะรับรู้ได้ทันทีและคนนั่งจะมีอาการ "มึด" หรือ "เมา" รถได้งา่ย ๆ อีกด้วยครับ
ทัศนวิสัยมีด้วยตัวรถเป็นทรงสูงโปร่งแบบ SUV/SAV ทำให้กระจกหน้ามีมุมมองกว้าง กระจกด้านข้างและด้านหลังเห็นภายนอกได้ชัดเจน จุดอับสายตาน้อยมาก ๆ กว่ารถยนต์แบบซีดาน แม้ตัวจะใหญ่เอาเรื่องแต่ก็ขับง่ายไม่ต่างกับรถขนาดเล็ก
ท่านั่งขับขี่สบายด้วยเบาะขนาดใหญ่สัมผัสนุ่มและปรับได้หลายระดับ พร้อมกับพวงมาลัยที่สามารถ "ยืด-หด" ได้ระยะที่มาก ตำแหน่งวางเท้าบนคันเร่งและเบรก ไม่เอียงหรือเยื้องไปทางขวาขวานัก นอกจากนี้ยังชอบส่วนใต้คอนโซลหน้าที่มีพื้นที่ว่างโล่ง ๆ เว้นช่องระหว่างคอนโซลกลางเอาไว้ ให้มีพื้นที่ใช้ประโยชน์ได้บ้าง จุดนี้ทำให้รถยิ่งดูโปร่งโล่งสบายตาอีกด้วยครับ
ความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ดีเกินคาด!
ระบบความปลอดภัยอาจะดูแล้วมีครบถ้วนไม่แตกต่างกับรถระดับเดียวกันมากนัก เช่น ระบบเตือนพร้อมดึงกลับเมื่อออกนอกเลน, ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรก ระบบควบคุมความเร็วแปรผันตามคันหน้าพร้อมตั้งระยะห่างได้ ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลนและรักษให้รถอยู่กลางเลน เป็นต้น
แต่ระบบที่ชื่นชอบมากและโดดเด่นจากที่ได้ใช้งานมากหลายวันคือ ระบบเตือนพร้อมดึงกลับเมื่อเปิดมีรถอยู่ด้านข้างมุมอับสายแม้จะเปิดไฟเลี้ยวก็ตาม ระบบนี้ถือว่าดีมาก เพราะว่าแม้เราจะเปิดไฟเลี้ยวแล้วแต่ก้อาจมีมุมที่มองไม่เห้นรถด้านข้าง ๆ หรือกรณีที่รถด้านหลังฝั่งที่จะเบี่ยงเลนไปหานั้น ขับมาอย่างรวดเร็ว ระบบนี้ช่วยเตือนและดึงกลับเข้าเลนเดินให้ทันทีและให้ความนุ่มนวลไม่กระชากจนตกใจอีกด้วย (รถที่มีระบบเตือนมุมอับทั่วไปเปิดไฟเลี้ยวอาจจะตัดการเตือนไปเลย) ยอมรับว่าเหตุการณ์แบบนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ ระบบนี้จึงช่วยให้ปลอดภัยได้มากขึ้นอีกระดับเลยครับ
อีกสิ่งที่ชอบมาก ๆ ใน iX คันนี้คือ การเลือกโหมดขับขี่ที่เปลี่ยนได้ตามต้องการ โหมดขับขี่นี้จะรวมถึง Sport เอาไว้ด้วย แต่โหมดที่ชอบสุดคือ RELEX ที่จะเปิดระบบนวดให้เอง ทำให้ขับสบายผ่อนคล้ายยามรถติด ๆได้ดีมาก ๆ ส่วนถ้าระดับแบตเตอรี่เหลือน้อยหรือจำเป็นต้องประหยัดไฟฟ้าให้เลือก EFFICIENT ระบบจะคำนวนพลังงานทั้งระบบในรถยนต์ให้ใช้อย่างประหยัดและทำให้เพิ่มระยะทางคงเหลือที่วิ่งได้อีกประมาณ 20 กม. เลยครับ
ระบบการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนใช้ง่ายรวดเร็วต่อเพียบครั้งเดียวก็ใช้ได้ตลอด สามารถดูได้ทั้ง Google Map, Apple Map หรือจะเป้นแผนที่นำทางของรถยนต์เองก็นับว่าใช้ชัดเจนแสดงรายละเอียดครบถ้วน แต่อาจจะใช้งานยากกว่า Google ที่คุ้นเคยเพียงแค่ "กดไมค์แล้วพูดสถานที่ได้แม่นยำกว่า" และอีกฟังก์ชั่นที่ชอบคือ หน้าจอแสดงภาพจากล้องหน้ารถได้อีกด้วย
อัตราการกินไฟฟ้าสำหรับรถขนาดนี้ถือว่าไม่เกินเกินไปครับ จากตัวเลขบนมาตรวัดราว ๆ 20 kWh กับพลังระดับนี้นับว่าเหมาะสมไม่กินเกินไป และระยะที่วิ่งได้จริงจากวันที่รับรถมาทดสอบแบตเตอรี่ 99% ระะทางวิ่งได้ 533 กม. ขับไปกว่า 290 กม. ระดับแบตฯ ลดลงเหลือ 36% ระยะทางคงเหลือ 255 กม. นั่นคือสามารถวิ่งจริงประมาณ 500 - 540 กม. จากสเปคที่ระบุไว้ 549- 630 กม. (WLTP) sinv 620 กม. (NEDC) และเมื่อชาร์จไฟฟ้ากลับโดยตู้ชาร์จ PTT จาก 36 - 75% ระยะเวลา 50 นาที แวะกินข้าวสบาย ๆ พลังงานที่ใช้ 47.1 kWh (ตู้ชาร์จที่ใช้) จ่ายไป 362.67 บาทเท่านั้น อาจจะดูแพงเพราะสถานีชาร์จจะคิดอัตรา 7.70 บาท/kWh ตกกก.ละ 1 บาทกว่า ๆ ครับ สำหรับรถคันใหญ่สเปคดุดันอย่าง IX xDrive50 Sport คันนี้
สรุปความคุ้มค่ากับราคา
BMW iX xDrive 50 Sport เหมาะกับผู้ต้องการซื้อเทคโนโลยี ใช้งานความคุ้มค่าของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า 100% ใช้ขับขี่ระยะทางมาก ๆ ต่อวัน ต้องการพื้นที่อเนกประสงค์แบบ SAV เดินทางได้ขึ้น-ลงเข้า-ออกรถได้อย่างสะดวกสบายทั้งครอบครัว ผู้ต้องการใช้งานระบบต่าง ๆ ที่ทันสมัย และต้องการรถขนาดใหญ่ ๆ ในการเดินทางหรือใช้ในชีวิตประจำวันและวิ่งได้ระยะทางที่มากต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง หรือใช้งานเป็น Daly Use แทนรถน้ำมันหรือคันเดิมที่ใช้งานอยู่ และต้องเป็นคนที่เปิดกว้างเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าและสะดวกสบายในการติดตั้งแท่นชาร์จที่บ้านและเป็นรถคันที่ 2 หรือ 3 ของบ้านจะยิ่งดีเลยครับ
สำหรับผม BMW iX คันนี้นับเป็นรถที่มีเทคโนโลยีทันสมัย มีความอเนกประสงค์และคุ้มสมราคาค่าตัวระดับ 6 ล้านมากที่สุดอีกรุ่นหนึ่งเลยครับ กับราคา 6,649,000 บาท รวม BSI 4 ปี ไม่จำกัดระยะทางแล้ว คุ้มครับ...