บีเอ็มดับเบิลยู จัดกิจกรรม
BMW M Drive Festival สุดเร้าใจให้สื่อมวลชนรวมทั้งแอดจากเพจ CarguruThailand และลูกค้าได้สัมผัสดีเอ็นเอความแรงของตระกูล M ยนตรกรรมขุมพลังสปอร์ตสมรรถนะสูงกันแบบเข้มข้นใน สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี ด้วยรถ M 3 รุ่นระดับเทพ บีเอ็มดับเบิลยู
M2 เน้นคอมแพคร้อนแรงเอาใจสายสปอร์ตกับราคาถูกสุดใน M ที่ 6,529,000 บาท และทำเวลา ทำเวลา 4.1 วินาที ต่อด้วย
M3 Competition M xDrive Touring ที่ผสมผสานฟิลลิ่งมอเตอร์สปอร์ต กับการเป็นรถใช้งานในชีวิตประจำวัน และขับทางไกล ทำเวลา 3.6 วินาที ที่ราคา 10,429,000 บาท และที่สุดของ M เสมือนซูเปอร์คาร์ในร่างซีดานกับ
M3 CS ที่โดดเด่นด้วยพาร์ตคาร์บอนไฟเบอร์ และความแรงระดับ 551 แรงม้า พร้อมทำเวลา 0-100 ภายใน 3.4 วินาที ซึ่งราคาก็สุดเช่นกันที่ 14,999,000 บาท
ผู้เขียนได้ลองขับใน
สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ครบทั้ง 3 รุ่น บอกเลยว่าทึ่งกับสมารรถนะสุดๆ ขุมพลัง M ทั้ง 2 บล็อค 3 บอดี้ ตอบสนองในแทร็คได้อย่างโดดเด่นและแตกต่างจริงๆ ทั้งอัตราเร่ง โหมดการขับ การแฮนเดิลลิ่ง เบรค และคาแรคเตอร์ แม้เป็นสนามระยะสั้นแต่ก็นับว่าได้เห็นความโดดเด่นด้านเบรกและแฮนเดอลิ่งที่ชัดเจนมากๆ เริ่มจาก บีเอ็มดับเบิลยู
M2 ทีมผู้จัดให้ขับ 3 รอบ ออกสตาร์ทจากในพิต โดยมีรถนำไลน์ที่ขับโดยทีมอินสตรัคเตอร์ของ xPAN โดยรอบแรกเป็นการตามไลน์ที่เหมาะสมเพื่อทำความคุ้นชินกับความแรงและคาแรคเตอร์ของตัวรถ โดยใช้โหมด m1 ที่ปุ่มข้างพวงมาลัยก่อน ซึ่ง m1/m2 ได้มีการปรับตั้งพรีเซ็ตไว้แล้ว เน้นเรื่อ'ไดร์ฟวิ่ง ไดนามิค ไม่เหมือโหมด M เพื่อตอบสนองการขับที่แตกต่างทั้งการทำงานของเครื่องยนต์ ช่วงล่าง พวงมาลัย เบรก และแทร็คชัน พอเข้าสู่รอบที่ 2 ก็ปรับเป็นโหมด m2 เพื่อให้รถตอบสนองการขับแบบสปอร์ตมากขึ้น ความรู้สึกแรกี่ปรับเห็นถึงความต่างอย่างขัดเจนในการถ่ายถอดกำลัง รอบการทำงานของเครื่องยนต์ เสมือนปรับเป็นโหมด Track ให้อัตราเร่งที่ฉับไวและรุนแรงกว่า จังหวะการควบคุมและชะลอเบเบรกต้องปรับและเน้นมากขึ้นตามไปด้วย โดยรวมขับสนุกและพลุ่งพล่านจนอยากได้แทร็คที่ใหญ่และยาวกว่านี้ น่าเสียดายมี่มีโอกาสขับจริงจัง 2 รอบเท่านั้น
ถัดมาในรุ่น
M3 Competition M xDrive Touring รถตระกูลเอ็มที่ดูเป็นมิตรมากที่สุดในเทสนี้ ด้วยการผสมผสานการเป็นรถซีดานทัวร์ริ่ง หรือ เอสเตท หรือ แวน ก็แล้วแต่เรียกผนวกเข้ากับขุมพลัง M ชูจุดเด่นขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 6 สูบ 560 แรงม้า เกียร์ 8 สปีดสเตปทรอนิค พร้อมระบบขับเคลือน 4 ล้ออัจฉริยะ xDrive และเฟืองท้าย M สามารถทำเวลา 0-100 กม./ชม. ได้ที่ 3.6 วินาที การเข้าไปนั่งภายในห้องโดยสารให้อารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกับ
M2 ชัดเจนในทุกรายละเอียด การขับในสนามได้ 3 รอบสนามเหมือนกัน รอบแรกตามรถนำเพื่อจับอาการรถที่ต่างรุ่นทั้งจุดยกและเบรก การขับเปลี่ยนปรับโหมดเหมือนเดิมคือจากธรรมดา แล้วค่อยสปอร์ต ตัวรถมีอาการพอให้รู้สึกถึงการเหวี่ยงที่ด้านท้ายขณะเข้าโค้งความเร็ว แต่ไม่ใช่การเสียอาการแค่รู้สึกได้ว่ามีแรงเหวี่ยงที่ท้ายออกด้านข้าง ครบ 3 รอบ
ต่อกับรุ่นแฟลกชิปของการขับครั้งนี้กับรุ่น
M3 CS ที่ราคาแพงสุด 14,999,000 บาท อย่างที่หลายคนและผู้เขียนได้เห็นรุ่นนี้มาก่อนหน้าหลังเปิดตัวมา ความดุดันทั้งภายนอกและภายใน น้ำหนักตัวรถที่ถูกเซ็ตติ้งให้เบาด้วยพาร์ตคาร์บอนพรีเมียม นั่นทำให้อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักอยู่ในระดับสูงเสมือนซูเปอร์คาร์ การขับ 3 รอบ ในรุ่นนี้ยอมรับว่าความแรงของขุมพลังและการทำงานของตัวรถต้องใช้สมาธิมากที่สุดเพราะแต่ละเสี้ยววินาทีพลาดไม่ได้ทั้งจุดยกคันเร่ง เบรก และเทิร์นโค้ง การทดสอบ จบการทดสอบแบบใช้เวลากับแทร็คจริงๆ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง พอได้แค่สัมผัสการทำงานของขุมพลัง M ในไลน์อัพที่แตกต่างกัน 3 รุ่น ซึ่งชัดเจนทั้งด้านราคา รูปลักษณ์ และกลุ่มผู้ใช้ รถบีเอ็มดับเบิลยูในตระกูล M ไม่ใช่รถที่ผลิตขึ้นมาสำหรับทุกคนที่อยากขับแบรนด์นี้ แต่ต้องเฉพาะคนที่ชื่นชอบและรู้จักความเป็น M เน้นความเป็นที่สุดด้านสมรรถนะแบบมอเตอร์สปอร์ต และพร้อมจ่ายเพื่อครอบครอง
อย่างไรก็ตาม ในไทยคงไม่มีถนนเส้นไหนรองรับความแรงแของ M พาวเวอร์ได้ดีไปกว่าในแทร็ค ถ้าอยากเอาม้าแข่งออกไปแสดงฝีเท้าอย่างที่ควรจะเป็น คงต้องเป็นงานแทร็คเดย์ของสมาชิกเฉพาะกลุ่มเท่านั้น