AVATR 11 เอสยูวีคูเป้ไฟฟ้า 100% จาก Changan เตรียมเปิดตัวในไทยภายในเดือน กันยายน นี้ พร้อมให้ไปสัมผัสตัวจริงกันใน งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 ที่กำลังจะเกิดขึ้นปลายปีนี้
เมื่อไม่นานมานี้ Changan กางแผนธุรกิจในไทยสำหรับปี 2024 โดยเตรียมเปิดตัวแบรนด์ Avatr ภายในเดือน กันยายน นี้ รวมถึงรถรุ่นอื่น ๆ พร้อมขุมพลังที่หลากหลาย ทั้งไฟฟ้าล้วน BEV ไปจนถึง REEV
Avatr ถือเป็นแบรนด์ที่น่าจับตามอง เพราะนอกจากหน้าตาที่โฉบเฉี่ยวล้ำยุคแล้ว ยังมาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัยที่ได้รับการสนับสนุนโดย Huawei นอกจากนี้ Avatr ยังถูกวางตำแหน่งให้เป็นพรีเมียมแบรนด์ ซึ่งหากรวมกับราคาที่รถจีนมักจะทำให้เข้าถึงได้ง่ายแล้ว คงส่งผลต่อตลาดรถญี่ปุ่นระดับบนจนถึงรถยุโรประดับเริ่มต้นอย่างแน่นอน
คาดว่า รถรุ่นแรกจากแบรนด์ที่นำมาจำหน่ายในไทยคงหนีไม่พ้น Avatr 11 ซึ่งเป็นเอสยูวีไฟฟ้า 100% มาดูกันว่าสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับรถคันนี้จะมีอะไรบ้าง
- Avatr คือแบรนด์ของใคร
- Avatr 11 มีมิติตัวถังเท่าไหร่ คันประมาณไหน?
- ภายนอก-ใน มีอะไรน่าสนใจบ้าง
- ขุมกำลังมีแบบไหน ชาร์จเร็วได้เท่าไหร่?
- ราคาน่าจะเกิน 2 ล้านแน่นอน
Avatr คือแบรนด์ของใคร
Avatr ตั้งชื่อมาจากคำว่า Avatar ซึ่งแปลว่า กลับชาติมาเกิด เป็นแบรนด์ย่อยภายใต้ค่ายรถจากจีนอย่าง Changan โดยถือว่าเป็นแบรนด์หรู ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 จากความร่วมมือกันระหว่าง Changan New Energy และ NIO แต่แล้ว NIO ก็ถอนความร่วมมือไปเนื่องด้วยปัญหาการเงิน ต่อมา CATL บริษัทแบตเตอรี่จึงเข้าร่วมทุนแทนด้วยหุ้น 17% ส่วน Changan ถือหุ้นที่ 40% ส่วนที่เหลือจะเป็นกองทุนต่าง ๆ
นอกจากนี้ยังมี Huawei เป็นซัพพลายเออร์หลัก ปัจจุบัน กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Avatr จะมีเอสยูวี Avatr 11 และซีดานท้ายลาด Avatr 12
Avatr 11 มีมิติตัวถังเท่าไหร่ คันประมาณไหน?
มิติตัวถัง Avatr 11
- ความยาว 4,880 มม.
- ความกว้าง 1,970 มม.
- ความสูง 1,601 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,975 มม.
รถคันนี้อยู่ภายใต้แพลตฟอร์มอีวี EP1 Platform โดย Avatr 11 ต้องการตีตลาด SUV ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ หากพิจารณาจากขนาดของรถแล้วจะใกล้เคียงกับ HYPTEC HT และถือว่าใหญ่กว่า Xpeng G6 ที่เพิ่งเปิดตัวไปพอสมควร รวมถึงใหญ่กว่า Honda CR-V และ BYD Sealion 6 DM-i อีกระดับหนึ่งเลยทีเดียว
ภายนอก-ภายใน มีอะไรน่าสนใจบ้าง
สำหรับภายนอกของ Avatr 11 มาพร้อมดีไซน์มินิมอลที่ดูสะอาดตา ในโมเดลปี 2024 จะมาพร้อมสีทองใหม่ที่เหลือบตามแสงที่ตกกระทบ ให้ความสวยงามที่ต่างกันไปในแต่ละมุม
ภายในของ Avatr 11 โมเดลปี 2024 มาพร้อมโทนสีขาว-ม่วง ตกแต่งด้วยขอบสีทอง เพื่อให้เข้ากับตัวถังสีทองใหม่ ให้ความหรูหรา ฝั่งคนขับมาพร้อมมาตรวัดดิจิทัลจอ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว มีหน้าจออินโฟเทนเมนต์ตรงกลางขนาด 15.6 นิ้ว สามารถใช้ฟังก์ชันแบ่งหน้าจอ เพื่อแสดงระบบนำทาง เล่นเกม และรับชมวิดีโอ อีกทั้งยังแบ่งฟังก์ชั่นไปยังจอฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า และรองรับการสั่งงานด้วยเสียงอีกด้วย
ภายในห้องโดยสารยังมาพร้อมระบบเสียง Meridian ลำโพง 25 ตำแหน่งทุกรุ่นย่อย พร้อมระบบเสียงแบบเซอร์ราวด์ 7.1.4 และเป็นรถที่มีแพลตฟอร์มขยายเสียง PA3 DSP ซึ่งมีกำลังขับ 2016W เป็นครั้งแรกของจีนด้วย
สำหรับเบาะนั่งของ Avatr 11 ใหม่ ปรับมาใช้หนัง full-grain semi-aniline ให้ความนุ่มกว่าเดิมและระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงทุกรุ่นยังมาพร้อมเบาะนั่งด้านหน้าแบบ Zero-Gravity และเบาะด้านหลังมีระบบระบายอากาศและฟังก์ชันอุ่นเบาะอีกด้วย
ส่วนด้านเทคโนโลยีการขับขี่ Avatr 11 โมเดลล่าสุด มีระบบป้องกันการชนรอบด้าน ผ่านเซนเซอร์ทั้งหมด 34 จุด ประกอบด้วย ระบบ AEB/GAEB ด้านหน้า, ระบบ ELKA/LOCP ด้านข้าง และ ระบบ RAEB ด้านหลัง
รวมถึงมีการป้องกันการชนกันของสิ่งกีดขวางด้านข้าง (LOCP) ใหม่ที่ทำงานโดย เครือข่าย GOD 2.0 Neutral Network เพื่อเพิ่มความครอบคลุมของระบบและความสามารถในการป้องกันได้มากขึ้น ส่งผลให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
ขุมกำลังมีแบบไหน ชาร์จเร็วได้เท่าไหร่?
สำหรับขุมพลังของ Avatr 11 หากอ้างอิงสเปคจีนจะมาพร้อมระบบขับเคลื่อน DriveONE จาก Huawei ประกอบด้วย 4 รุ่นย่อย
- 630 RWD มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 90 kWh วิ่งไกล 630 กม. (CLTC) 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.6 วินาที
- 580 AWD มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงสุด 578 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 90 kWh วิ่งไกล 580 กม. (CLTC) 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.98 วินาที
- 730 RWD มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 116 kWh วิ่งไกล 730 กม. (CLTC) 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.9 วินาที
- 700 AWD มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงสุด 578 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 116 kWh วิ่งไกล 700 กม. (CLTC) 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.5 วินาที
ทุกรุ่นย่อยสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 200 กม./ชม.
สำหรับการชาร์จ มาพร้อมระบบชาร์จเร็ว 750V รองรับหัวชาร์จ CCS Combo Type 2 สามารถชาร์จ AC ความเร็วสูงสุด 11 kW และ DC รองรับสูงสุด 240 kW จากแบตเตอรี่ 0-80% เร็วสุดภายใน 25 นาที พร้อมรองรับระบบ V2L จ่ายไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก สูงสุด 3.3 kW
ราคาเกิน 2 ล้านแน่นอน
Avatr 11 โมเดลปี 2024 จำหน่ายในจีนด้วยราคาตั้งแต่ 300,800 – 390,800 หยวน หรือตั้งแต่ 1.4 – 1.8 ล้านบาท ซึ่งหากจำหน่ายในไทยจะต้องมีต้นทุนเพิ่มเติม ราคาจึงน่าจะพุ่งไปแตะ 2 ล้านบาทแน่นอน แต่อย่าลืมว่ารถคันนี้คือ SUV ซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และเป็นรถระดับพรีเมียมตาม position ของแบรนด์
ดังนั้น ด้วยขนาด เทคโนโลยี และความพรีเมียมที่ให้มาก็นับว่าคุ้มค่าอยู่พอสมควร เรามารอดูกันว่าในเดือน กันยายน นี้ Avatr 11 สเปคไทยจะเป็นอย่างไร หรือไม่ก็รอไปสัมผัสตัวจริงพร้อมโปรโมชันกันที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024