บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำการเป็นผู้บุกเบิกรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในตลาดลักชัวรี่ เดินหน้าเปิดตัวอีวี 2 รุ่นล่าสุด ได้แก่
EQE 300 รถซีดานไฟฟ้าที่เข้ามาเติมไลน์อัพของ EQE ให้ครบทั้งตัวถังแบบซีดานและเอสยูวี รวมถึงรุ่นสมรรถนะสูงจาก Mercedes-AMG พร้อมด้วย
EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic เอสยูวี Full-Size Luxury 7 ที่นั่ง ที่เข้ามาสานต่อแผนประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เป็นรุ่นที่ 2 ต่อจาก EQS 500 4MATIC AMG Premium ซึ่งผลิตจากแพลตฟอร์ม EVA2 (Electric Vehicle Architecture) ที่พัฒนาเพื่อรถอีวีโดยเฉพาะ พร้อมเผยวิสัยทัศน์ในระดับโลกและแผนการพัฒนายนตรกรรมแห่งอนาคต ประเดิมจัดงาน
StarFest Defining Electric ให้ลูกค้าชาวไทยได้เข้ามาสัมผัสพร้อม
ทดลองขับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด รวมกว่า 13 รุ่น ตั้งแต่วันที่ 24 – 25 สิงหาคม 2567 ณ อันฟอร์แมต สตูดิโอ (Unformat Studio)
มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในระดับโลก มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่ระดับ Entry Luxury จนไปถึง Top-End Luxury รวมไปถึงยนตรกรรมจากแบรนด์ Mercedes-AMG และ Mercedes-Maybach นอกจากนี้ยังมีแผนในการพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในเจเนเรชั่นถัดไป และลงทุนสร้าง “eCampus” ศูนย์พัฒนาเซลส์แบตเตอรี่สมรรถนะสูงที่เมืองสตุทท์การ์ดต ประเทศเยอรมนี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในด้านคุณภาพและเทคโนโลยีของแบตเตอรี่ และนำมาใช้ในกระบวนการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในอนาคต
สำหรับในประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ถือเป็นแบรนด์ลักชัวรี่แบรนด์แรกที่ประกอบแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% และเป็นประเทศแรกนอกเยอรมนีที่สามารถประกอบรถอีวีระดับแฟล็กชิพอย่าง EQS 500 4MATIC พร้อมเปิดตัวเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา โดยหลังจากนั้นได้มีการนำเข้าและเปิดตัวอีกหลายรุ่น อาทิ EQB 250, EQE 350 4MATIC SUV, Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+, EQS 450+ จนมาถึง 2 รุ่นล่าสุดอย่าง
EQE 300 และ EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic และในอนาคต เราได้เตรียมแผนเปิดตัวโมเดลอื่นๆ ทั้งรุ่นที่ประกอบในประเทศผ่านโรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์และรุ่นนำเข้าทั้งคัน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์และตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง”
EQE 300 ราคา 3,970,000 บาท
EQE 300 ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นล่าสุดในไลน์อัพของ EQE ที่มาพร้อมตัวถังแบบซีดาน ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว (Single Motor) บริเวณตำแหน่งล้อหลัง มอบกำลังแรงม้าสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 7.3 วินาที ติดตั้งแบตเตอรี่แรงดันสูงความจุ 89 kWh ช่วยให้สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลถึง 651 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP
รองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC Charge) สูงสุด 170 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 10 – 80% เพียง 32 นาที ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% ในระยะเวลา 9 ชั่วโมง 15 นาที
ดีไซน์ภายนอกของ EQE 300 มาพร้อมการตกแต่งรอบคันแบบ Electric Art Exterior Package เสริมด้วยชุดแต่ง Night Package และกระจังหน้าแบบ Mercedes-Benz pattern ติดตั้งไฟหน้าแบบ LED High Performance พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist
ในส่วนของช่วงล่างติดตั้งล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตแบบ 5 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว และยางรถยนต์พร้อมโฟมระบบช่วงล่างแบบ Comfort suspension ติดตั้งระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO Comfort Package และระบบเปิด-ปิด บานประตูท้ายแบบ HANDS-FREE ACCESS และกล้องถอยหลังที่มาพร้อมกับระบบจออัตโนมัติ ที่จะช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นในทุกเส้นทาง
เมื่อเข้ามายังภายในห้องโดยสารจะพบกับดีไซน์การตกแต่งแบบ Electric Art Interior ตามหลักแนวคิด Progressive Luxury ที่แฝงอยู่ในทุกมิติของห้องโดยสาร โดยตกแต่งคอนโซลด้วยวัสดุ Laser-cut backlit trim ผสานเข้ากับดีไซน์ Mercedes-Benz pattern และวัสดุแบบ High-gloss black
ติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตหุ้มหนัง โดยใช้เบาะนั่งแบบ Comfort Seats พร้อมระบบดันหลัง 4 ทิศทาง Lumbar support และฟังก์ชั่นปรับระดับเบาะนั่งด้วยระบบไฟฟ้าพร้อม memory seat สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า รวมถึงฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกที่ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม อาทิ ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบแยก 2 โซน ระบบชาร์จแบบไร้สาย (Wireless charging) และไฟเรืองแสง Ambient Light รอบห้องโดยสารที่สามารถปรับได้ถึง 64 เฉดสี โดยจะครอบคลุมในส่วนของโลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ บริเวณแดชบอร์ดที่จะเปลี่ยนสีตาม Ambient Light ในตอนกลางคืน
สำหรับระบบการเชื่อมต่อและ Infotainment ภายในรถ โดดเด่นด้วยระบบปฏิบัติการ MBUX7 รุ่นล่าสุด ผสานการทำงานของเทคโนโลยี AI พร้อมติดตั้งระบบจดจำโปรไฟล์ผู้ขับขี่ ด้วยการสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint scanner) และระบบจะปรับการตั้งค่าต่าง ๆ ในรถ ให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ขับขี่ โดยติดตั้งหน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางแบบ OLED ขนาด 12.8 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS และ Android (Apple Carplay™ & Android Auto™) ติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารด้วยสัญญาณ 5G สำหรับบริการ Mercedes me connect ระบบแผนที่นำทางแบบ Hard-disc navigation พร้อมแผนที่แบบ 3 มิติ ระบบมัลติมีเดีย MBUX Entertainment Plus และระบบตรวจสอบสภาพการจราจรแบบ Live Traffic Information ในทุกเส้นทาง
สำหรับเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยของ EQE 300 มีการติดตั้งระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมด้วย Assistance Package ที่ทำงานแบบ Active Safety อาทิ ระบบรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (Active Lane Keeping Assist) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) และ Active Distance Assist DISTRONIC ที่มาพร้อมเรดาห์รักษาระยะห่างจากตัวรถคันข้างหน้า พร้อมติดตั้งระบบ Parking Package กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยจอด รวมถึงระบบป้องกันก่อนเหตุ (PRE-SAFE® system) และระบบเตือนแรงดันลมยาง ฯลฯ
EQE 300 มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว (Polar White) สีดำ (Obsidian Black) สีเทา (Selenite Grey) สีเงิน (High-tech Silver) และสีน้ำเงิน (Sodalite Blue)
EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic ราคา 5,990,000 บาท
EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic เอสยูวีไฟฟ้าระดับ Top-End Luxury รองรับการโดยสารสูงสุด 7 ที่นั่ง ติดตั้งขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ All-wheel drive ให้กำลังสูงสุด 360 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 6.1 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งด้วยความจุของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 118 kWh ทำให้รถยนต์คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 658 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง โดยรองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง (DC charge) สูงถึง 200 kWh ใช้เวลาชาร์จเพียง 31 นาทีจาก 10-80% ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% ในระยะเวลา 12 ชั่วโมง 15 นาที
ผสานความเป็นที่สุดทั้งในเรื่องเทคโนโลยี ฟังก์ชันการใช้งาน และการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอย่างลงตัวในทุกรายละเอียด เริ่มตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกที่มีการตกแต่งด้วยชุดแต่ง AMG Bodystyling พร้อมชุดกระจังหน้าแบบ Mercedes-Benz pattern และตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ติดตั้งไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT พร้อมเทคโนโลยีปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist ที่สามารถส่องสว่างไกลถึง 650 เมตร ขับเคลื่อนอย่างสะดวกสบายด้วยล้ออัลลอย AMG multi-spoke lightalloy wheels aerodynamically ขนาด 22 นิ้ว ผสานการทำงานด้วยระบบกันสะเทือนแบบถุงลม (AIRMATIC) และโฟมช่วยลดเสียงรบกวน พร้อมยกระดับการขับขี่ให้เป็นไปอย่างนุ่มนวลและน่าประทับใจในทุกเส้นทาง
ห้องโดยสารมาพร้อมดีไซน์ระดับไฮเอนด์ที่ให้ความหรูหราตามแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ผสานสีสันในสไตล์สปอร์ตด้วยการตกแต่งแบบ AMG Line Interior มอบความเพลิดเพลินให้กับผู้โดยสารในทุกที่นั่งด้วยระบบ MBUX7 รุ่นล่าสุด ติดตั้งหน้าจอ MBUX Hyperscreen แบบ zero-layer ยาวต่อเนื่องกันกว่า 141 เซนติเมตร
โดยซ่อนไว้ด้วยหน้าจอ OLED จำนวน 3 หน้าจอ กินพื้นที่จากเสา A-pillar ฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่ง ทั้งยังมอบความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นด้วยเบาะนั่งแบบ 7 ที่นั่ง 3 ตอน ติดตั้งหน้าจอเพื่อความบันเทิงที่สามารถควบคุมได้ด้วยระบบสัมผัสแบบ MBUX High-End Rear Seat จำนวน 2 จอขนาด 11.6 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง มาพร้อมเบาะนั่งไฟฟ้าที่สามารถปรับตำแหน่งที่นั่งได้ ระบบฟอกอากาศแบบENERGIZING AIR CONTROL Plus แอร์อัตโนมัติ THERMOTRONIC 4 โซน และเทคโนโลยีอื่น ๆ อย่างครบครัน
ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามความต้องการกว่า 5 โหมด ด้วยการสัมผัสบริเวณจอกลางผ่านฟังก์ชั่น DYNAMIC SELECT โดยรถยนต์จะเปลี่ยนรอบเครื่องยนต์ พวงมาลัย ช่วงล่าง คันเร่ง และการทำงานของแอร์ ให้เหมาะสมกับการทำงานในแต่ละโหมด ไม่ว่าจะเป็นแบบ ECO, COMFORT, SPORT, INDIVIDUAL และ OFFROAD ซึ่งเป็นโหมดสำหรับการขับขี่ในรูปแบบ Off-Road โดยเฉพาะ ทั้งยังมาพร้อมกล้องรอบคัน 360° ที่ให้การแสดงผลแบบ Transparent bonnet ที่จะแสดงภาพใต้ท้องรถแบบ real-time ทำให้สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างสะดวกสบายเมื่อขับขี่ในโหมด Off-Road
ในส่วนของระบบความบันเทิง รถยนต์คันนี้ยังครบครันด้วยระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Burmester® 3D surround sound system ทรงพลังด้วยลำโพงคุณภาพสูงจำนวน 15 ตัว และรอบห้องโดยสารที่มีกำลังขับขนาด 710 วัตต์ จะช่วยมอบเสียงเพลงที่คมชัดสมจริงราวกับอยู่ในสตูดิโอ มาพร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos® ถ่ายทอดเสียงได้รอบทิศทางแบบ 360 องศา ที่จะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารได้อย่างรื่นรมย์
สำหรับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยภายใน EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic นั้นจัดมาให้อย่างเต็มพิกัด ทั้งระบบเลี้ยว 4 ล้อแบบ rear axle steering ทำให้ทุกการขับขี่ง่ายดายยิ่งขึ้นด้วยล้อหลังที่สามารถเลี้ยวได้มากถึง 4.5 องศา รวมถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบ Driving assistance package ที่รวบรวมระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ไว้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Active Brake Assist) ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (Active Lane Keeping Assist) ระบบช่วยจำกัดความเร็วแบบแอ็คทีฟ (Speed Limit Assist) ฯลฯ
EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีเทา (MANUFAKTUR Alpine Grey Solid) สีเทา (Selenite Grey Metallic) สีขาว (MANUFAKTUR Diamond White Bright) และสีดำ (Obsidian Black Metallic)
EQE 300 และ
EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic จะมาพร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ที่ครอบคลุมการใช้งานตลอดระยะเวลา 10 ปี หรือไม่เกิน 250,000 กิโลเมตร* รวมถึงแพ็คเกจ
Worry Freeกับข้อเสนอที่มอบให้กับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ดาวน์ทุกรุ่น 990,000 บาท และสำหรับรุ่น EQE 300 ผ่อนเริ่มต้น 39,000 บาท*
- ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง (Mercedes-Benz Protection) ตลอด 3 ปี*
- ฟรี ค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง และระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ (MBSP Easy Care & Extra Guarantee ) ตลอด 5 ปี*
- ฟรี ค่าบริการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบ DC ไม่จำกัดจำนวนครั้ง (Unlimited DC Charging) เป็นระยะเวลา 1 ปี ผ่านสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่กำหนดไว้ของผู้ให้บริการ “SHARGE”*
*เงื่อนไขให้เป็นไปตามที่บริษัทฯ และตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการกำหนด