BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid เปิดราคาเข้ามาท้าชิงเจ้าตลาดอย่าง Honda CR-V ด้วยราคาที่ถูกกว่าเกือบครึ่งหนึ่ง มาลองเทียบสเปคกันหน่อยว่าทั้งสองคันนี้จะต่างกันอย่างไรบ้าง โดยสามารถสัมผัสคันจริงของทั้งสองคันนี้ได้ที่งาน Motor Expo 2024 ได้เลย
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid เปิดตัวและประกาศราคาในไทย ด้วยราคาเริ่มต้นที่
939,900-1,039,000 บาท ซึ่งเรียกได้ว่าตลาดแตก เนื่องด้วยขนาดตัวรถแบบ C-SUV และออพชันที่มี ทำให้สามารถแข่งขันกับเจ้าตลาดที่มีราคาสูงกว่าเกือบ 2 เท่าได้อย่างสูสี
หากมองจากมิติตัวถังและระบบขับเคลื่อนแล้ว หลายคนคงอดไม่ได้ที่จะเทียบกับเจ้าตลาดอย่าง Honda CR-V e:HEV ES ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดและระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเหมือนกัน และมีราคาอยู่ที่ 1,589,000 บาท เรามาลองเทียบกันดูว่า มิติต่าง ๆ ของรถทั้งสองคันนั้นแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
เทียบราคา BYD Sealion 6 DM-i VS Honda CR-V e:HEV ES
เทียบมิติตัวถัง
มิติตัวถัง | BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid | Honda CR-V e:HEV ES |
ความยาว (มม.) | 4,775 | 4,691 |
ความกว้าง (มม.) | 1,890 | 1,866 |
ความสูง (มม.) | 1,670 | 1,691 |
ระยะฐานล้อ (มม.) | 2,765 | 2,700 |
Ground Clearance (มม.) | 155-180 | 198 |
เราจะเห็นได้ว่า Sealion 6 ใหญ่กว่า CR-V e:HEV เกือบทุกมิติ มีเพียงตัวรถโดยรวมที่จะเตี้ยกว่าเล็กน้อยเท่านั้น
เทียบภายนอก-ภายใน BYD Sealion 6 DM-i VS Honda CR-V e:HEV ES
ภายนอก BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid
BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid มาพร้อมดีไซน์ภายนอกแนวคิด Ocean X ซึ่งยังอยู่ใน Ocean Series เช่นเดียวกับรุ่นอื่น ๆ ที่จำหน่ายในไทย ดีไซน์ด้านหน้ามีกระจังหน้าไร้ขอบ ทรงกลมมนคล้ายหยดน้ำ ไฟหน้ามีโคมรูปตัว C พร้อมระบบปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ ในรุ่น Premium จะให้ไฟหน้าพร้อมฟังก์ชั่น Follow Me Home มาด้วย
เส้นสายด้านข้างมีความต่อเนื่องตั้งแต่ด้านหน้าตลอดจนความยาวทั้งหมดของตัวรถ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วเข้ากับเส้นสายโดยรวม ไฟท้ายแบบ LED เป็นแถบเต็มความกว้างของตัวรถ และตกแต่งรอบคันด้วยแถบอลูมิเนียม เสริมความพรีเมียมของรถบนท้องถนน
ออพชันที่น่าสนใจ เช่น กระจกคู่หน้า 2 ชั้น, หลังคา panoramic sunroof, ไฟเลี้ยวด้านท้ายแบบ Sequential, ฝาท้ายไฟฟ้า สำหรับสีตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว (Horizon White), สีดำ (Quantum Black) และสีเทา (Graphite Grey) เฉพาะในรุ่น Premium
ภายใน BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid
สำหรับภายในของ Sealion 6 ยังคงใช้แนวทางการออกแบบเดียวกับภายนอก ดูโฉบเฉี่ยวพร้อมกับหรูหราในเวลาเดียวกัน มาในโทนสีดำ/น้ำตาลทั้ง 2 รุ่นย่อย มีเบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง, เบาะแถวหลังปรับเอนได้, ระบบปรับอากาศแบบ 2 โซน ซ้าย-ขวา พร้อมกรองฝุ่น PM2.5
ออพชันภายในค่อนข้างครบครัน เช่น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มหนังสังเคราะห์, มาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว, หน้าจอกลางแบบหมุนได้ขนาด 12.8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมอัพเดทซอฟท์แวร์ได้แบบ OTA ส่วนรุ่น Premium จะได้หน้าจอ 15.6 นิ้วที่ใหญ่กว่า, พอร์ทชาร์จ USB Type C 2 จุด และ Type A 2 จุด, แท่นชาร์จไร้สาย 2 ตำแหน่ง รวมถึงระบบเสียงลำโพง 9 ตำแหน่ง
ภายนอก Honda CR-V e:HEV ES
สำหรับ Honda CR-V e:HEV ES มาพร้อมดีไซน์แบบสปอร์ต มีการตกแต่งชายล่างสีดำรอบคัน ให้ความเป็นครอสโอเวอร์ กระจังหน้าสีดำ Piano Black ไฟหน้า-ไฟท้าย LED พร้อมระบบปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ด้านข้างของรถมาพร้อมล้ออัลลอย 18 นิ้วสีดำ ให้ความสปอร์ต ด้านท้ายยังคงเอกลักษณ์ของ CR-V ด้วยไฟท้ายบริเวณเสา C ออพชันที่โดดเด่น ได้แก่ หลังคา Panoramic sunroof, ฝาท้ายไฟฟ้า
ภายใน Honda CR-V e:HEV ES
ส่วนภายในของรถคันนี้มีความกว้างขวาง ในแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง มาในโทนสีดำ ตกแต่งด้วยลายไม้สีเข้มและสีดำ Piano Black, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง, เบาะนั่งหุ้มหนังแท้และหนังสังเคราะห์ โดยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง ส่วนคนนั่งด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง, ระบบปรับอากาศแบบ 2 โซน ซ้าย-ขวา, เบาะหลังสามารถเลื่อนและปรับเอนได้ และพับแบบ 60:40
สำหรับระบบความบันเทิงภายใน ไฮไลท์คือ มาตรวัดดิจิทัล 10.2 นิ้ว, ระบบเครื่องเสียงรองรับระบบสัมผัส Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto, รองรับการเชื่อมต่อ Honda CONNECT, ระบบเครื่องเสียงลำโพง 8 ตำแหน่ง, แท่นชาร์จไร้สาย, ช่องชาร์จ USB 4 ตำแหน่ง
ถือได้ว่า รถทั้งสองรุ่นมีความน่าใช้พอ ๆ กัน แต่ดูเหมือนว่า BYD จะมีความหวือหวามากกว่าเล็กน้อย ส่วน Honda จะเน้นที่ความคุ้นเคยในการใช้งานมากกว่า
ขุมพลัง PHEV ของ BYD Sealion 6
เทียบขุมพลัง BYD Sealion 6 DM-i VS Honda CR-V e:HEV ES
สำหรับขุมพลังของทั้งสองนั้นมีความสูสีเพราะมีลักษณะเป็นไฮบริดเหมือนกัน แต่ BYD Sealion 6 จะเป็น PHEV ซึ่งมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า ส่วนของ Honda CR-V e:HEV แม้จะไม่ได้มีแบตเตอรี่สำหรับการวิ่งโหมด EV ได้ไกลนัก แต่มาพร้อมสมรรถนะและความประหยัดที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
เครื่องยนต์ BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid
Sealion 6 สเปคไทย มาพร้อมขุมพลัง DM-i Super Hybrid ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน "Xiao Yun" 1.5 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 96.5 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 122 นิวตันเมตร ผสานมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 194.4 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ขับเคลื่อนขนาด 18.3 kWh
เมื่อรวมทั้ง 2 ระบบ จะให้กำลังสูงสุด 214.5 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร รองรับการชาร์จแบบ AC Type 2 (กําลังสูงสุด 6.6 kW) รองรับหัวชาร์จแบบ DC CCS 2 (กําลังสูงสุด 18 kW) ระบบ VtoL (Vehicle to Load) ความจุถังนํ้ามัน 45 ลิตร พร้อมโหมดการขับขี่ ECO/Normal/Sport
นอกจากนี้ รถคันนี้สามารถขับขี่โหมด EV หรือไฟฟ้าล้วนได้ประมาณ 95 กม./ชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC
เครื่องยนต์ Honda CR-V e:HEV ES
CR-V e:HEV ES มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร Direct-injection Atkinson Cycle ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (มอเตอร์ขับเคลื่อน และ มอเตอร์สร้างกระแสไฟฟ้า) ให้กำลังรวมสูงสุด 207 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุดของมอเตอร์ขับเคลื่อน 335 นิวตันเมตร ที่ 0 – 2,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า
เครื่องยนต์นี้ให้อัตราประหยัดเชื้อเพลิงที่ 20.8 กม./ลิตร และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 113 กรัม/กม. มาพร้อมโหมดการขับขี่ ECON/NORMAL/SPORT และมีระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่แป้นหลังพวงมาลัยเช่นเดียวกับฮอนด้ารุ่นอื่น ๆ
Honda ได้เปรียบ BYD เล็กน้อย
เมื่อมองจากสเปคแล้วจะพบว่า CR-V ขุมพลัง e:HEV จะได้เปรียบกว่าเล็กน้อย และเมื่อรวมกับน้ำหนักตัว 1,743 กก. เทียบกับ Sealion 6 DM-i ที่กำลังเครื่องยนต์น้อยกว่า แถมมีน้ำหนักนํ้าหนักรถเปล่าที่ 1,850 กก. ก็ยิ่งทำให้ Honda ได้เปรียบ BYD ในเรื่องนี้
เทียบความปลอดภัย BYD Sealion 6 DM-i VS Honda CR-V e:HEV ES
ระบบความปลอดภัยของ BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid มีดังนี้
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและถุงลมนิรภัยด้านข้าง – ฝั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
- ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ด้านหน้าและด้านหลัง
- กล้องมองรอบคัน 360 องศา
- เซนเซอร์ด้านหน้าและด้านหลังรวม 6 จุด
- ระบบช่วยควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ (AVH)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (CC)
- ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัจฉริยะ (HBB)
- ระบบช่วยกระจายแรงเบรกอัจฉริยะ (HBA)
น่าเสียดายที่ยังไม่มี ADAS มาให้ในรุ่น Dynamic แต่ในรุ่น Premium จะมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS) มาให้แล้ว ดังนี้
- ระบบเบรกอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบแจ้งเตือนคาดการณ์การชนล่วงหน้า (PCW)
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านท้าย (RCW)
- ระบบจดจำป้ายจราจร (TSR)
- ระบบเตือนเปลี่ยนเลน (LDW)
- ระบบป้องกันรถออกนอกเลน (LDP)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร (LKA)
- ระบบแจ้งเตือนจำกัดความเร็วอัจฉริยะ (ISLC)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
- ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSD
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเปิดประตูรถ (DOW)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control with Stop & Go)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (HMA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้า (DAW)
ระบบความปลอดภัยของ Honda CR-V e:HEV ES มีดังนี้
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (MVCS)
- ระบบ Honda LaneWatch
- เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด
- เสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (AVAS)
- ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
- ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
- ถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่ง: ด้านหน้า ด้านข้างคู่หน้า มุ่านถุงลมด้านข้าง ถุงลมหัวเข่าคู่หน้า
- ระบบ ABS/EBD/VSA
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
- ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (AHA)
- ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย
- ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (TPMS)
- ชุดซ่อมยางชั่วคราว (TPRK)
นอกจากนี้ ยังมีระบบความปลอดภัย Honda Sensing มาให้ทุกรุ่นย่อย ได้แก่
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
- ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
- ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
สำหรับด้านความปลอดภัย ทั้ง Honda CR-V และ BYD Sealion 6 มีความสูสีกันมาก เพราะมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่หรือ ADAS แต่ CR-V จะเสียเปรียบเพราะมีค่าตัวสูงกว่าอย่างชัดเจน
สรุป : BYD น่าใช้ แต่ถ้าไม่มั่นใจ ก็เพิ่มเงินมา Honda
BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid เปิดตัวในไทยด้วยราคาระดับ B-SUV ที่ 939,900-1,039,000 บาท แต่มาพร้อมขนาด C-SUV ทำให้หลายคนคงอดไม่ได้ที่จะนำรถคันนี้มาเทียบกับ Honda CR-V e:HEV ES เจ้าตลาดที่มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด ขับเคลื่อนล้อหน้าเหมือนกัน ด้วยราคา 1,589,000 บาท ซึ่งแพงกว่าถึง 5.5-6.5 แสนบาท
แต่ราคาที่ถูกกว่าของ BYD ก็ย่อมมีสิ่งที่ต้องแลกมา เช่น กำลังเครื่องยนต์, ออพชั่นบางอย่าง ไปจนถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่ยังต้องรอการพิสูจน์
อย่างไรก็ตาม หากคิดตามที่มีในปัจจุบัน BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าหากยังไม่พร้อมกับ SUV ไฟฟ้า 100% โดยถือว่าเป็นรถ PHEV ที่ถูกที่สุดในตลาดบ้านเราแล้ว และเหมือนเป็นการซ้อมใช้รถยนต์ไฟฟ้าโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จมากนัก
แต่หากต้องการรถที่ยังให้ความมั่นใจ ให้สมรรถนะที่ดี แถมยังประหยัด พร้อมด้วยความเป็นเจ้าตลาดที่ไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง ก็อาจตัดสินใจเลือก Honda CR-V e:HEV ES แต่ต้องจ่ายมากกว่า
สำหรับ BYD Sealion 6 DM-i Super Hybrid ถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากทีเดียวสำหรับตลาด C-SUV มาคอยดูกันว่า ยอดจอง ยอดขายของ Sealion 6 จะตลาดแตกอย่างที่หลายคนคิดไว้หรือไม่
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถไปสัมผัสคันจริงของรถทั้ง 2 รุ่นได้ที่งาน Motor Expo 2024 ปลายปีนี้ได้เลยครับ