การซื้อรถยนต์มือสอง นอกจากจะช่วยให้เราสามารถประหยัดเงินค่ารถได้หลักแสนบาทแล้ว ยังอาจได้ประกันภัยรถยนต์ที่เจ้าของเดิมซื้อไว้เป็นของแถมติดมาด้วยนะคะ แต่… ประกันรถยนต์ที่ติดมาด้วยนั้น เราจะสามารถใช้ต่อได้เลยมั๊ย หรือต้องทำอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันค่ะ
หลังจากที่เราโอนรถมาเป็นกรรมสิทธิ์ของเราแล้ว ประกันภัยที่เจ้าของเดิมซื้อไว้ หากยังไม่หมดอายุก็จะคุ้มครองรถคันนี้ต่อไปตามระยะเวลาที่ระบุในกรมธรรม์ค่ะ แต่จะมีจุดที่ควรสังเกต 3 ประการ คือ
1. กรมธรรม์ต้องไม่ถูกยกเลิก โดยผู้เอาประกันเดิม ผู้ซื้อรถต่อก็จะสามารถรับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ฉบับนั้นๆ
2. หากประกันภัยที่ติดรถมาเป็นแบบระบุชื่อผู้ขับขี่ เราต้องแจ้งบริษัทประกันเพื่อเปลี่ยนเงื่อนไข และอาจจะมีการปรับปรุงอัตราค่าเบี้ยประกันภัย เพราะเบี้ยประกันภัยแบบระบุชื่อผู้ขับขี่ จะผันแปรกับข้อมูลของผู้ขับขี่ที่ระบุชื่อไว้ เช่น เพศ, อายุ, สถานภาพ เป็นต้น
3. กรณีที่ความคุ้มครองที่เราได้รับจากกรมธรรม์ฉบับเดิม ไม่เพียงพอกับความต้องการ อาจขอยกเลิกกรมธรรม์ฉบับเดิม เพื่อเลือกซื้อประกันภัยใหม่ได้ เช่น หากเรายังอยู่ในโหมด มือใหม่หัดขับ ถึงจะเป็นรถยนต์มือสอง แต่การซื้อประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมก็จะช่วยให้อุ่นใจได้มากกว่าค่ะ ดังนั้น หากประกันรถยนต์ที่ติดรถมา เป็นแบบประกันชั้น 2 หรือชั้น 3 ก็ไม่น่าจะตอบโจทย์นัก เราควรพิจารณาเป็นแผนประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือ 2+ ที่ให้ความคุ้มครองมากกว่าก็จะตรงกับความต้องการมากขึ้น เป็นต้น
4. ยกเลิกกรมธรรม์ประกันรถยนต์ สามารถรับเงินส่วนต่างคืนได้ โดยส่วนต่างที่ได้รับคืนจะคำนวณจากจำนวนวันที่เหลือ ซึ่งจะมีอัตราส่วนในการคืนเบี้ยประกันที่ คปภ.กำหนดไว้ ดังนี้
ตารางอัตราคืนเบี้ยประกันภัยรถยนต์
จำนวนวันประกันภัย | % ที่ได้คืน | จำนวนวันประกันภัย | % ที่ได้คืน | จำนวนวันประกันภัย | % ที่ได้คืน |
1 - 9 | 72 | 120 - 129 | 44 | 240 - 249 | 20 |
10 - 19 | 68 | 130 - 139 | 41 | 250 - 259 | 18 |
20 - 19 | 65 | 140 - 149 | 39 | 260 - 269 | 16 |
30 - 39 | 63 | 150 -159 | 37 | 270 - 279 | 15 |
40 - 49 | 61 | 160 - 169 | 35 | 280 - 289 | 13 |
50 - 59 | 59 | 170 - 179 | 32 | 290 - 299 | 12 |
60 - 69 | 56 | 180 - 189 | 30 | 300 - 309 | 10 |
70 - 79 | 54 | 190 - 199 | 29 | 310 - 319 | 8 |
80 - 89 | 52 | 200 - 209 | 27 | 320 - 329 | 6 |
90 - 99 | 50 | 210 - 219 | 25 | 330 - 339 | 4 |
100 - 109 | 48 | 220 - 229 | 23 | 340 - 349 | 3 |
110 - 119 | 46 | 230 - 239 | 22 | 350 - 359 | 1 |
| | | | 360 - 366 | 0 |
ตัวอย่างการคำนวณกรณีขอยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย
นายเอก ทำประกันภัยรถยนต์จ่ายค่าเบี้ยประกันรายปี กับบริษัทประกัน ก. จ่ายค่าเบี้ย 21,000 บาท ระหว่างปีได้ตัดสินใจขายรถคันนี้ให้เพื่อน แต่เพื่อนต้องการเปลี่ยนไปซื้อประกันภัยรถยนต์กับบริาัทใหม่ นายเอกจึงทำการยกเลิกกรมธรรม์ที่ถืออยู่ ซึ่งจะได้รับเงินส่วนต่างคืนบางส่วน ดังนี้
- กรมธรรม์ที่นายเอกถืออยู่คุ้มครองไปแล้วเป็นเวลา 6 เดือน คงเหลือความคุ้มครองอีก 180 วันจนถึงวันที่ยกเลิกประกันรถยนต์
- ดังนั้น นายเอก จะได้รับเงินคืนคิดเป็น 30%
- เพราะฉะนั้นนายเอกจะได้รับเงินคืนเท่ากับ 21,000 x 30% = 6,300 บาท
*เงื่อนไข และมูลค่าเวนคืนเงินสดของแต่ละบริษัทประกันอาจแตกต่างกัน ควรสอบถามข้อมูลกับทางบริษัทฯ อีกครั้งก่อนยกเลิกกรมธรรม์
สรุปแล้ว หากเราซื้อรถยนต์มือสองมาแต่ประกันยังไม่หมด เราสามารถใช้ต่อได้ แต่ต้องเช็กรายละเอียดกรมธรรม์ให้ดี ว่าต้องมีการแจ้งเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลใดๆ หรือไม่ หรือหากเราต้องการความคุ้มครองที่มากขึ้น ก็สามารถยกเลิกกรมธรรม์ฉบับเดิม และเปลี่ยนไปซื้อกรมธรรม์ฉบับใหม่ได้ โดยกรมธรรม์ฉบับเดิมก็สามารถรับเงินค่าเบี้ยประกันส่วนต่างคืนได้ ตามสัดส่วนที่ คปภ.กำหนดนะคะ