ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

New Isuzu MU-X 3.0 Ultimate ปรับโฉมรอบคันเพิ่มความปลอดภัยพวงมาลัยไฟฟ้าชีวิตดีขึ้นเยอะ!

icon 21 มิ.ย. 67 icon 277
New Isuzu MU-X 3.0 Ultimate ปรับโฉมรอบคันเพิ่มความปลอดภัยพวงมาลัยไฟฟ้าชีวิตดีขึ้นเยอะ!
ทดลองขับ New Isuzu MU-X 3.0 Ultimate 2WD มาพร้อมการปรับโฉมภายนอกที่ดูแล้วรู้สึกได้ว่าเปลี่ยนไปเยอะ หล่อและเข้มขึ้น ส่วนภายในเน้นโทนสีหรูหราและสบายตา พร้อมฟังก์ชั่นความสะดวกสบายเต็มคัน ปลอดภัยขึ้นอีกด้วยการเพิ่มระบบ ADAS ใหม่อีก 5 ระบบ แต่ขุมพลังยังคงเดิม เพิมเติมคือผ่าน EURO5 พร้อมปุ่ม "สลายไอเสีย" มาให้ด้วย  
 
 
MU-X 3.0 Ultimate นับเป็นรุ่นท็อปสุด แต่ปัจจุบันมีเพิ่มรุ่น "RS" ตกแต่งพิเศษที่มีทั้ง 2WD และ 4WD ให้เลือกแบบเต็มพิกัด ทำให้ Ultimate กลายเป็นรุ่นรองท็อปไปซะแล้ว แต่อย่างไรก็ตามระบบต่าง ๆ ฟังก์ชั่นความสะดวกสบายและขุมพลังก็มีให้เลือกทั้ง 1.9 Ddi BluePower และ 3.0 Ddi และมีเพียงระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลังเท่านั้น เพราะต้องการเน้นกลุ่มผู้ใช้งานในเมืองที่ให้ความหรูหราพรีเมี่ยม 
 
 

ภายนอกและภายในปรับใหม่....ไม่น้อยนะ!!

 
สำหรับภายนอกของ MU-X 3.0 Ultimate ปรับโฉมในหลายจุดแบบ THE NEXT PEAK เริ่มที่ความใหม่! ของกระจังหน้าดีไซน์ Dynamic Grille หรูหราด้วยวัสดุสีดำ Titanium Carbide ตรงส่วนนี้นับว่าคันจริงสวยกว่าในรูป และดูมีมิติทำให้จากเดิมทีดูภูฐานมีอายุอย่างเดียว แต่ตอนนี้ดูสปอร์ตและทันสมัยเอาใจวัยรุ่นมากขึ้น
 
เพิ่มความสปอร์ตขึ้นอีกนิดด้วยไฟหน้าและไฟท้าย Dynamic Blade ลวดลายสวยงามทีเดียวครับ โดยเฉพาะไฟท้าย หากมองด้านข้างจะมีรูปร่างเหมือน "ลูกศร" สะดุดแต่ไกล พร้อมชุดไฟท้ายยาวต่อกันด้วยเส้น Embrace Line ที่ยุคนี้ต้องมี แต่แอบเสียดายที่ในโคมด้านของไฟคาดท้ายนั้นในส่วนช่องด้านล่างเป็นทึบ ๆ ไม่มีไฟ จะมีเฉพาะไฟหรี่ส่วนบนเท่านั้น ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ Dynamic Turbine ขนาด 20 นิ้ว สี Magnetite II พร้อมดีเทลก้านแม็กแบบ 3D ใส่ยางใหญ่สมตัวขนาด 265/50R20
 
 
ภายในปรับโทนสีให้หรูหราและเข้มมากขึ้นด้วยสีน้ำตาลเข้ม หรือ เรียกว่า "TRUFFLE BROWN" และหุ้มหนังวัสดุ "COOLMAX" ลดความร้อนได้ดี ซึ่งสีน้ำตาบนี้จะตัดกับสีดำ ต้องบอกว่าด้วยโทนสีนี้ช่วยให้รักษาความสะอาดง่าย สีไม่อ่อนจนเกินไปอีกด้วยครับ ส่วนวัสดุหุ้มจุดต่าง ๆ ทั้งคอนโซลหน้า กลาง แผงประตูล้วนปราณีต เนียบเรียบหรู ผิวสัมผัสพวงมาลัยตึง ๆ มือ ไม่แข็งแต่ผิวละเอียดและเหนียวติดมือ ช่วยให้บังคับทิศทางได้แม่นยำขึ้น  
 
 
เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าคนขับ 8 ทิศทาง คนนั่งข้าง 4 ทิศทาง เบาะแถวที่สองยังกว้างขวางใหญ่นับเป็นตำแหน่งที่นั่งได้สบายที่สุดในรถ ส่วนเบาะแถวที่สามก็ยังคงนั่งได้จริง ๆ มีที่ว่างเหลือพอประมาณและการเข้าออกก็ง่ายเพียงระบบดึงคันโยกแบบบ "One Step" พับที่เดียวปีนขึ้นได้เลย นอกจากนี้ตัวถังของ MU-X ในโฉมก่อนและปัจจุบันก็ถูกขยายช่วงประตูด้านหลังให้ยาวขึ้นทำให้เข้า-ออกง่ายขึ้นไปอีกครับ
 
รถครอบครัวอเนกประสงค์อย่างมิว-เอ็กซ์ นี้ยังสามารถพับเบาะแถวที่สองและสามได้แบนราบ จะวางที่นอน ใช้เป็นรถออกแคมป์สบายเลยครับ หรือจะบรรทุกสัมภาระต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้บริหารที่ชื่นชอบการ "ออกรอบ" ตีกอล์ฟ เชื่อว่าไปกันได้เป็นก้วนเลยครับ
 
 
 
ส่วนของผู้ขับขี่มาตรวัดแบบจอสี ตรงกลางเป็นจอแสดงผลที่ปรับเปลี่ยนและเลือกดูได้หลายฟังก์ชั่น เช่น ระบบความปลอดภัย ADAS, ทริป A/B, ตั้งค่าใช้งานรถยนต์, ดูอัตราสิ้นเปลือง เป็นต้น แต่สิ่งที่สะดุดตาก็คือ เมื่อลองใช้ระบบ Full Speed Range Adaptive Cruise Control หน้าจอจะเปลี่ยนรูปแบบแสดงผลให้ใหญ่ขึ้นมองง่ายมากยิ่งขึ้น 
 
 
จอกลางใหม่! (ทำเสียงเข้ม ๆ) Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว แบบสัมผัส รองรับ Wireless Android Auto & Wireless Apple CarPlay พร้อม Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับ Integrated MID สามารถเลือกดูการแสดงผลของรถยนต์ได้ เช่น ระบบช่วยเหลือการขับขี่, ดูมุมเอียงของรถแบบ Off-Road, ตั้งระบบไฟฟ้าต่างในรถ และแสดงผลการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็วอีกด้วยครับ แล้วยังให้ไฟสร้างบรรยากาศภายในหรูหราด้วย White Ambient Light สีขาวสว่างแบบสลั่ว ๆ สบายตารอบคัน
 
 
ระบบปรับอากาศเย็นทั้งคันแน่นอนแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวาได้ และมีแอร์บนเพดานอีก พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB-C แบบใหม่ด้านหน้า 1 จุด ด้านหลัง 2 จุด และช่องจ่ายไฟ DC12V อีกด้วย ต่อด้วยออปชั่นที่มีอยู่เดิมแล้วใช้งานได้ค่อนข้างดีเนียนและง่ายคือ ระบบเปิดฝาท้ายอัตโนมัติ เมื่อยืนใกล้ โดนไม่ต้องกวาดเท้าหรือ "Step Sensor" เพียงต้องมีกุญแจติดตัวไว้เมื่อยืนใกล้ฝาท้ายจะมีเสียง "ปี๊ป" 1 ครั้ง และให้ถอยมา 1 ก้าวจากนั้นจะมีเสียง "ป๊บปี๊บ" 2 ครั้ง และรอสักครู่ ไฟฉุกเฉินและประตูก็จะเปิดให้ นอกจากนี้เมื่อทำธุระเสร็จแล้ว แค่เดินออกมาประตูก็จะปิดให้เองด้วย แต่อย่าลืมล็อครถนะครับ
 
 

สมรรถนะ 3.0 ลิตร มาเต็ม ๆ เร่งทันใจประหยัดใช้ได้

 
ขุมพลังของ MU-X 3.0 Ultimate พื้นฐานเดิมคือ ดีเซล 3.0 Ddi Blue Power ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง แต่มีการปรับปรุงเรื่องไอเสียให้ได้มาตรฐาน EURO 5 ที่มาพร้อมปุ่ม "สลายเขม่า" ตรงสวิตช์มุมขวาใกล้เข่าคนขับ ได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังเปลี่ยนระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ใหม่เป็นระบบไฟฟ้า EPS อีกด้วยนับว่า "ชีวิตดีขึ้นเยอะ" รถตัวใหญ่โตขนาดนี้ กลับให้ความคล่องตัวแบบรถเก๋งได้ง่ายด้วยการที่น้ำหนักพวงมาลัยเบาลงเยอะมาก ในการเลี้ยวเข้าซอย จะจอดในที่แคบหรือจะถอยหลัง สะดวกสบายขึ้น ควรจะมีตั้งนานแล้ว!!! 
 
 
เมื่อพวงมาลัยเบาลงส่งผลให้การขับขี่ง่ายขึ้น และลดแรงฉุดปั้มไฮดรอลิคเดิมที่เป็นภาระเครื่องยนต์ได้อีกเล็กน้อย ทำให้อัตราเร่งไหลลื่นขึ้นและมีส่วนช่วยเพิ่มอัตราสิ้นเปลืองได้อีกเล็กน้อย  แม้จะขับที่ความเร็วสูง ๆ น้ำหนักพวงมาลัยก็จะเพิ่มความหนืดขึ้นตาม ทำให้ควบคุมง่ายไม่เบาหวิวเกินไปนักและมั่นใจอีกด้วย 
 
ถึงแม้จะเป็นพวงมาลัยไฟฟ้าก็ตาม แต่สิ่งที่อาจจะต้องทำใจคือ ความคมกระชับของการบังคับพวงมาลัย เพราะด้วยความเป็นรถยกสูง ล้อโต ตัวหนักย่อมมีอาการโยน ๆ หรือเลี้ยวแล้วไม่ตามมือบ้าง โดยส่วนตัวคิดว่า การได้พวงมาลัยไฟฟ้ามานั้น ตอบโจทย์เรื่องการขับขี่ในเมืองหรือความเร็วต่ำที่คล่องตัวมากกว่าความคมกระชับของพวงมาลัย ซึ่งในส่วนอื่น ๆ เช่น กลไลในชุดกระปุกพวงมาลัยที่ไปบังคับล้อนั้นไม่ได้มีการปรับเพิ่มมากนัก แค่เปลี่ยนมาใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าผ่อนแรงเท่านั้นเองครับ  
 
สมรรถนะของเครื่อง 3.0 ลิตร ไว้ใจได้ การออกตัวนับว่าดีแรงสะใจ รอรอบและใช้เวลาจาก 0-100 กม./ชม. จากการใช้แอปฯ วัดคร่าว ๆ กว่า 3 รอบเวลาเฉลี่ยที่ 10 วินาที ความจริงอาจจะบวกหรือลบอีกหน่อย แต่อัตราเร่งที่ใช้งานจริง ๆน่าจะเป็นเร่งแซงมากกว่า โดยเร่งแซงที่ความเร็ว 80 กม./ชม. ขึ้น จะตอบสนองดีไม่รอเปลี่ยนเกียร์นาน แต่ถ้าขับในช่วงความเร็วแบบ "ก่ำกึ่ง" หรือว่ารอบจังหวะที่ ความเร็วกลาง ๆ รอบเครื่องยนต์ต่ำหรือสูงและตำแหน่งเกียร์สูง หากต้องคิกส์ดาวน์หรือกดคันเร่งเต็มที่ อาจจะมีช่วงจังหวะ "รอรอบและเปลี่ยนเกียร์บ้าง" ซึ่งเท่าที่ลองขับดูมักจะเป็นย่านความเร็วที่ไม่ได้ใช้บ่อย ๆ อย่างเช่น ขับชิว ๆ 60 กม./ชม. แล้วกดคันเร่งต้องรอบเปลี่ยนเกียร์หลายตำแหน่ง หรือว่า เกิน 110 กม./ชม. ขึ้นไปอาจจะต้องรอคำนวนดูว่าจะต้องใช้เกียร์ไหนให้สัมพันธ์กับความเร็วรถและรอบเครื่องยนต์ ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานมากนักนะครับ ถือว่าระบบเกียร์มีความฉลาดรวดเร็วน่าพอใจครับ 
 

***เป็นการจับเวลาด้วยแอปฯ ในสมาร์ทโฟนไม่เป็นทางการห้ามใช้อ้างอิงที่อื่น
 
มาถึงช่วงล่างที่ยังคงเดิมให้ความเฟิร์มแน่น ๆ วิ่งความเร็วต่ำ ๆ ก็จะมีอาการเต้น ๆ เบา ๆ ที่ความเร็วสูงให้ความมั่นใจ การเข้าโค้งยาว ๆ ทำได้ดี แม้ว่าพวงมาลัยเบาแต่ความเร็วสูงก็ให้น้ำหนักหนืด ๆ ขึ้น ไม่แกว่งไม่ต้องเกร็งมือมากนัก นับว่าเป็นรถยกสูงที่ช่วงล่างมั่นใจมาก ๆ รองรับกำลังระดับ 190 แรงม้าแบบสบาย ๆ เลยครับ ส่วนความเร็วสูงสุดคาดว่าทำได้ราว ๆ 180 นิด ๆ ก็ตันแล้ว แต่รถแบบนี้ไม่ควรใช้ความเร็วสูงมากเกินไปนะครับ อย่างไรก็เป็นรถครอบครัวยกสูงมีความโยนตัวเป็นธรรมดา 
 
 

ADAS เพิ่มอีก 5 ระบบ

 
เดิมทีระบบความปลอดภัยใน MU-X ใหม่ ก็มีให้เยอะมากมายตั้งแต่รุ่น 1.9 Ultimate ขึ้นไปแล้ว แต่ในรุ่นใหม่ก็เพิ่มระบบ ADAS อีก 5 ระบบให้มันเต็ม ๆจบ ๆ ไป ให้สมกับรถยอดนินมไปแล้วครับ และยังเป็น ADAS Generation ล่าสุด!  กับระบบกล้องหน้าคู่ พร้อมเรดาร์ 2 จุด และ เซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน 
 
 
  • ใหม่! ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System) ระบบนี้จะช่วยประคองพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน ป้องกันเวลาคนขับเผลอ เหมอลอยหรือกำลังหยิบจับของในรถรบกวนสมาธิในการขับขี่ มีตัวช่วยนี้เอาไว้อุ่นในกว่า 
 
  • ใหม่! ระบบช่วยควบคุมทิศทางของรถตามรถคันหน้า TJA (Traffic Jam Assist) ระบบนี้จะทำงานควบคู้กับการใช้ Adaptive Cruise Control และต้องเปิดสวิตช์รูป "พวงมาลัย" เอาไว้ด้วยครับ ซึ่งสามารถตรวจจับรถคันหน้าแทนในกรณีเส้นถนน "หาย" หรือไม่ชัดเจน เมื่อมีทางโค้งก็จะตรวจจับรถด้านหน้าที่กำลังเลี้ยวโค้งอยู่ แต่ถ้าไม่มีทั้งรถนำหน้าและเส้นถนนก็ต้องขับเองนะครับ 
 
  • ใหม่! ELK ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในสถานการณ์ฉุกเฉิน (Emergency Lane Keeping) อันนี้คือการต่อยอดจากระบบควบคุมรถ โดยใช้ระบบช่วยดึงกลับและระบบเตือนมุมอับสายตาที่ตรวจจับรถด้านหลัง หากเปิดไฟเลี้ยวและจะเปลี่ยนเลนในขณะที่มีรถหรือมอเตอร์ไซค์หรือจะเป็นวัตถุที่พุ่งเข้ามาจากทางด้านหลังในระยะที่ไม่ปลอดภัย ระบบนี้จะดึงรถกลับเข้าเลนเดิมก่อน ซึ่งในการใช้งานจริงนั้นบางครั้งก็ดีเพราะอาจมองรถด้านหลังไม่เห็น แต่บางครั้งผู้ขับตั้งใจจะเปลี่ยนในระยะห่างที่กะเอาไว้แล้ว แต่ระบบก็จะเตือนพร้อมดึงกลับเข้าเลน อาจจะต้องขืนแรงบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมนับว่ามีระบบนี้ช่วยเป็นหูเป็นตาในมุมอับได้ดียิ่งขึ้นไปอีกครับ
  • ใหม่! ระบบช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน พร้อม LDW (Lane Departure Warning) ก็คือ การเตือนและช่วยดึงรถกลับถ้าผู้ขับยังไม่มีสติหรือไม่ตอบสนองระบบก็จะดึงรถเข้าสู่เลนคล้ายการไม่ตั้งใจ หรือไม่เปิดไฟเลี้ยว แต่ถ้ามีการเปิดไฟเลี้ยวระบบก็จะไม่ทำงานเพราะเข้าใจว่าจะเปลี่ยนเลน แต่....ถ้าบังเอิญมีรถแซงขึ้นมาฝั่งนั้น ๆ ก็กลับไปสู่ระบบ (Emergency Lane Keeping) ที่จะดึงกลับมาเลนเดิมนั่นเองครับ
 
 
  • ใหม่! ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake) พร้อม ระบบช่วยเตือนขณะถอย RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบนี้จะคอยเตือนเมื่อมีรถหรือคนหรือวัตถุผ่านขณะกำลังถอยหลัง และถ้าผู้ขับยังเฉย ๆ ก็จะเบรกให้ด้วย บอกเลยระบบนี้งามมากครับ 
 
 
ส่วนระบบที่มีอยู่แล้วได้แก่
  • ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and GO ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) 
  • ระบบช่วยแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning) พร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Breaking)
  • ระบบช่วยแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSM (Blind Spot Monitoring) 
  • ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ Parking Aid System 
  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา TA-AEB (Turn Assist with Autonomous Emergency Braking) 
  • ระบบช่วยควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam) ในที่มืดจะเปิดไฟสูงให้และเมื่อมีแสงสว่างจากรถด้านหน้าหรือส่วนทางจะปรับเป็นต่ำตามเดิม
  • ระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation) 
  • ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ MCB (Multi-Collision Brake) 
  • ระบบช่วยตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter)
ส่วนตัวชอบ Full Speed Range Adaptive Cruise Control รถติด ๆ เปิดใช้ระบบนี้สบายเลยครับ การควบคุมความเร็วและเบรกก็ไม่กระชากมากนักและรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าได้ดี ยิ่งตั้งใกล้สุดยิ่งดี เหลือที่น้อยหมดกังวลเรื่องรถแทรกได้เยอะครับ
 
 

สรุปความคุ้มค่ากับราคา

 
“THE NEXT PEAK” ใน New Isuzu MU-X 3.0 Ultimate กับราคาที่ปรับเพิ่มจากรุ่นก่อนหน้าik; 3 หมื่นบาท เทียบรุ่น MU-X 3.0 Ddi Ultimate เดิม ราคา 1,559,000 บาท  เป็นราคา 1,589,000 บาท ได้การปรับโฉมตกแต่งใหม่รอบคัน ภายในเบาะสีใหม่ จดกลางใหม่ ระบบ ADAS ใหม่อีก 5 ฟังก์ชั่น แค่นี้ก็เกิน 30,000 บาทไปแล้ว นอกจากนี้ MU-X ก็เป็นรถที่หลายคนไว้วางใจและมั่นใจในคุณภาพ ความทนทาน ประหยัด บำรุงรักษาง่าย ศูนย์บริการดี ใครสนใจก็ต้องไปลองขับลองใช้งานที่โชว์รูมได้เลยครับ   
แท็กที่เกี่ยวข้อง all new isuzu mu-x
CAR GURU
เขียนโดย สินธนุ จำปีศรี CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)