ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

10 รถยนต์ที่น่าขับไปทำงานมากที่สุดในสายตากูรูช้าง ประจำเดือนพฤศจิกายน 2567

icon 6 พ.ย. 67 icon 3,625
10 รถยนต์ที่น่าขับไปทำงานมากที่สุดในสายตากูรูช้าง ประจำเดือนพฤศจิกายน 2567
ใครกำลังเล็งรถยนต์ไว้ใช้งานสักคัน เอาที่แบบว่าขับไปทำงาน ในงบประมาณเบา ๆ หรือใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างชิว ๆ ประหยัด ๆ คุ้มค่า บทความนี้มีกูรูช้างขอเสนอรถที่เหมาะกับการขับไปทำงานได้ทุกวันแบบไร้กังวล โดยไม่สนเรื่องอื่นๆ มาฝากครับ
 

1.Toyota Yaris Ativ ราคา 549,000 - 699,000 บาท

Toyota Yaris Ativ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอันดับแรก จากประสบการณ์และการใช้งานมาในหลายยุคหลายสมัย จากรถยนต์โตโยต้าที่กล้าการันตีถึง ความทนทาน ไม่จุกจิก การบริการหลังการขายดีและไม่ว่าจะไปจอดเสียที่ไหน ก็มีศูนย์บริการเพียบทั่วประเทศ นอกจากนี้หากฉุกเฉินจริง ๆ ก็ยังสามารถเข้าซ่อมตามศูนย์บริการหรืออู่ต่าง ๆ ได้ง่ายและ Yaris Ativ เป็นรถที่เพิ่มเปิดตัวไม่นานักพร้อมกับมีขนาดกำลังเหมาะสมในการใช้งานทุกวัน เครื่อยนต์และระบบขับเคลื่อนต่าง ๆ ยังไม่มีระบบเยอะแยะมากมายนัก และให้ความประหยัดและทนทาน จากที่เคยนำมาขับตัวเลขมากสุดก็ได้ราว ๆ 15 กม./ลิตร (แล้วแต่การขับขี่) แต่กลับได้มีเทคโนโลยีด้านการขับขี่ที่มากมาย ถือว่าเป็นรถที่ขับขี่ทุกวันโดยแทบไม่มีเรื่องต้องกังวลใด ๆ เลย 
ดูรีวิวรุ่นนี้คลิกเลย

2. Suzuki Swift ราคา 567,000 - 637,000 บาท

 
Suzuki Swift ไซต์เล็กน่ารัก เหมาะกับการขับใช้งานทุกวัน ทั้งจอดรถบนตึกที่ทำงานหรือเข้าห้างฯ ต่าง แม้แต่จะจอดแวะซื้อของริมทางก็คล่องตัว สมรรถนะพอตัวแถมให้ความประหยัดโดยไม่ต้องตั้งใจขับประหยัดก็ได้ตัวเลขดี ๆ ไม่ต่ำกว่า 16 กม./ลิตร แบบสบาย ๆ เลย บวกกับความน่ารักจะตกแต่งแบบใดก็ดูดี แต่อาจจะมีออปชั่นอำนวยความสะดวกด้านการขับขี่ที่น้อยกว่า Yaris Ativ แต่ก็คนที่ต้องการขนาดตัวรถเล็กที่คล่องตัวแต่ก็ให้สมรรถนะดีไม่แพ้รถขนาด B-Segment และเป็นรถที่มีความงอแงน้อยมาก ๆ อีกรุ่นหนึ่งครับ
ดูรีวิวรุ่นนี้คลิกเลย

3.Honda City ราคา 599,000 - 799,000 บาท

Honda City รถยอดนิยมอีกรุ่นที่น่าสนใจ และเป้นรถที่มีสมรรถนะเหนือกว่า 2 อันดับแรก และก็มีรุ่น "ไฮบริด-eHEV" ให้เลือกเพียงขยับงบอีกหน่อยก็ได้ความประหยัดแบบ "อลังการกว่า 23 กม./ลิตร" แบบสบาย ๆ เลย ความน่าสนใจคือเจ้ารุ่น 1.0 ลิตร เทอร์โบขับสนุกและพร้อมซิ่งได้ตลอดเวลา อัตราสิ้นเปลืองที่ใช้งานในเมืองจริงก็ราว ๆ 12 - 14 กม./ลิตร กลาง ๆ ไม่ประหยัดมากแต่ไม่กินจุเช่นกัน แต่ยังมีข้อควรระวังบางประการ (ไม่ใช่ทุกคัน) นั่นคือ เรื่องความทนทานของระบบ เทอร์โบและเกียร์ CVT ที่ใครชอบ "ขยี้คันเร่ง" แบบสุด ๆ ตลอดหรือบ่อย ๆ มาก ๆ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่อาจจะทำให้อายุการใช้งานลดลงเร็วกว่ารถที่ไม่มีระบบเบอร์โบ เพราะยิ่งเยียบยิ่งมันนั่นเอง แต่ถ้าใครขับแบบทั่ว ๆ ได้ไม่เร่งรีบบ่อย ๆ นัก รับรองใช้งานได้อย่างคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีทางเลือกประหยัดยิ่งขึ้นไปในตัว eHEV ที่ทั้งประหยัดและให้สมรรถนะดีไม่แพ้รุ่นเทอร์โบ นับเป็นรถยนต์ฟลู-ไฮบริดที่ราคาต่ำกว่า 8 แสนบาทหนึ่งเดียวในปัจจุบันเลยครับ 

4.Honda HR-V ราคา 89X,XXX-1,1XX,XXX บาท 

 
Honda HR-V ไมเนอร์เชนจ์ ยกระดับความคุ้มค่าอีกขั้น พร้อมอัปลุคความสปอร์ตพรีเมียมทั้งภายนอกโดดเด่นด้วยการออกแบบด้านหน้าดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ ที่สะท้อนความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น และภายในสะดวกสบายทุกที่นั่ง พร้อมเพิ่มเติมฟังก์ชันการใช้งานใหม่ในทุกรุ่นย่อย และเพิ่มเติมหลากหลายฟังก์ชันเพื่อตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่หลากหลายได้อย่างลงตัว ทุกรุ่นย่อย มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่มอบสมรรถนะทรงพลังจากการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ในระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองทันใจ มั่นใจในทุกการออกตัวกับแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร ให้คุณก้าวสู่ทุกจุดหมายได้อย่างอิสระ พาคุณไปได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง ด้วยราคาประมาณการ ทั้ง 3 รุ่นย่อย เริ่มต้นที่
  • รุ่น e:HEV E ขยายฐานลูกค้าไปหลากหลายกลุ่ม เพื่อให้เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น คุ้มค่า ด้วยราคาแนะนำช่วงเปิดตัว เพียง 89X,XXX บาท จำนวนจำกัด เมื่อจองและรับรถตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567
  • รุ่น e:HEV EL เพิ่มฟังก์ชันที่เติมเต็มทุกการใช้งาน ด้วยราคาประมาณการ 1,0XX,XXX บาท
  • รุ่น e:HEV RS ดีไซน์เอกซ์คลูซิฟ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ด้วยราคาประมาณการ 1,1XX,XXX บาท 
เตรียมพบกับการประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ในวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ผ่านทาง LIVE ถ่ายทอดสดออนไลน์ทางออฟฟิเชียลแอ็กเคานต์ ‘Honda Thailand’ ในช่องทาง Facebook, YouTube Channel, TikTok และ Instagram ตั้งแต่เวลา 12:45 น. เป็นต้นไป พร้อมให้ลูกค้าได้สัมผัสทั้งที่บูทฮอนด้า ในงาน Motor Expo 2024 และที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

5.Toyota Corolla Cross ราคา 999,000 - 1,254,000 บาท 

 
Toyota Corolla Cross เป็นรถยอดนิยมที่สุดในกลุ่มผู้ที่มีงบประมาณสบาย ๆ ด้วยความเป็นรถขนาดใหญ่ ใช้ได้ทั้งครอบครัวในคันเดียว ขับไปทำงานก็สะดวกสบาย ตัวรถยกสูงลุยน้ำหรือขับผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ง่าย การเข้า-ออกในรถก็ง่าย ระบบการทำงานและเทคโนโลยีการขับขี่ต่าง ๆ ก็มีให้เต็มคัน ถือว่าเป็นรถที่น่าซื้อใช้งานอีกคันในระดับนี้ โดยเแพาะรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดก็นับว่าให้ความประหยัดได้แบบน้อยระดับ 18 กม./ลิตร ขึ้นไปได้สบาย ๆ และการริการหลังการขายที่อุ่นใจอีกด้วยครับ 

6. Nissan Almera ราคา 549,000 - 699,000 บาท

 
Almera เป็นรถที่มีชื่อเสียงมาจากรุ่นก่อนหน้าขายดีไม่แพ้ค่ายโตโยต้า โดยยิ่งรุ่นปัจจุบันเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบมีความทันสมัยมากขึ้นขับสนุกและประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิมทำตัวเลขได้ 20 กม./ลิตร แบบสบาย ๆ เทคโนโลยีความสะดวกสบายมีให้มาพอดี ๆ อาจไม่จัดเต็มมากนักแต่ก็เพียงพอต่อการขับไปทำงานได้ในทุกวัน เรื่องระบบช่วงล่างที่ขับแล้วให้มั่นใจไม่น้อย ระบบช่วยเหลือขับขี่เพียงพอ แต่ก็ยังมีขาด ๆ ไปบ้างเมื่อเทียบกับเพื่อน ๆ ในระดับเดียวกัน 

7.Mazda 3 ราคา 979,000 - 1,210,000 บาท 

 
Mazda 3 เป็นรถที่มีสเปคและสมรรถนะดีมากอีกคัน ได้ทั้งฟิวลิ่งการขับขี่ที่ดี สนุกสนานและมั่นใจ อัตราเร่งเร้าใจในแบบ NA หนึ่งเดียวที่ยังเหลือความเป็นรถสันดาปเพียว ๆ ในกลุ่มรถระดับนี้ ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีทั้งการขับขี่และฟังก์ชั่นใช้งานถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาให้มาเกือบครบตั้งต่รุ่นเริ่มต้นแล้ว ขับดี ฟรูหรา พรีเมี่ยมต้องยกให้กับมาสด้า 3 อย่างเต็มใจครับ แต่ยังติดใจเรื่องของการบริการที่ผู้ใช้หลายคนแอบ "บ่นว่ายังมีค่าใช้จ่ายที่สูง" ซึ่งแน่นอนครับว่ามาสด้า 3 ให้เทคโนโลยีหลาย ๆ ด้านมาเยอะก็เป็นไปได้ที่การดูแลบำรุงรักษาจะสูงตามพร้อมกับสมรรถนะที่ให้มาด้วยครับ 

8. Nissan Kicks ราคา 779,000 - 979,000 บาท

 
Nissan Kicks เป็นรถที่เด่นเรื่องเทคโนโลยีการขับเคลื่อนแบบมอเตอร์ไฟฟ้าล้วน ePOWER เร่งดี ไม่รอบรอบ ตอบสนองทันใจ และใช้เทคโนโลยีไฮบริดแบบ Parallel นั่นคือ เครื่องยนต์ใช้ปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่และเป้นหลักและจ่ายไฟตรงสู่มอเตอร์ไฟฟ้าเมื่อต้องการเรี่ยวแรงเยอะ ๆ สรุปคือจะได้สมรรถนะจากมอเตอร์ไฟฟ้า 136  แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร โดยไม่ต้องชาร์จไฟฟ้าใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟแทนนั่นเอง และยิ่งขับขี่ในเมืองก็ให้ทั้งความแรงและประหยัดที่พอตัวราว ๆ 20 - 22 กม./ลิตร สบาย ๆ ครับ แต่ขาดตรงที่ระบบช่วยเหลือต่าง ๆ อาจจะยังไม่มีมากเท่ากับรถบางรุ่นในเซกเมนต์เดียวกัน ดังนั้น ใครชอบฟิวลิ่งรถยนต์ไฟฟ้า แต่ขี้เกียจชาร์จไฟมาทางนี้ได้เลยครับ 

9.MG 4 ราคา 709,900 - 889,900 บาท

 
MG 4 รถยนต์ไฟฟ้าที่ให้ราคากับสมรรถนะและความคุ้มค่าที่เหมาะสม และยิ่งขับไปทำงานทุกวัน ๆ ยิ่งคุ้มค่าประหยัดค่าเดินทางได้เยอะขึ้น แม้ว่าจะมีความกังวลเรื่อง ความจุกจิก, ระยะทางวิ่งได้จริง, แบตเตอรี่ หรือ ราคาขายต่อร่วง แต่หากเน้นการใช้งานแบบคุ้ม ๆ และช่วยลดต้นทุนเฉพาะหน้าได้ดีที่สุด รถยนต์ไฟฟ้าจึงน่าจะเป็นอีก 1 ทางเลือกของการใช้ขับไปทำงานทุกวัน ส่วน MG 4 Xpower นั้นมองว่าไม่เหมาะสมกับการขับทุกวันเพราะมีกำลังแรงเกินไป อาจจะขับขี่แล้วควบคุมยาก และกินไฟมากกว่ารุ่นปกติทำให้ระยะวิ่งน้อยลงเยอะ ซึ่งใครใช้งาน 70 - 100 กม.ต่อวันอาจจะต้องชาร์จบ่อยกว่า ส่วนใครที่รับได้และมีความชำนาญแล้วก็ย่อมใช้งานได้เช่นกันครับ 

10.BYD Dolphin ราคา 699,999 - 859,999 บาท 

 
BYD Dolphin เป็นรถยนตไฟฟ้าอีกรุ่นน่าใช้งาน โดยเฉพาะรุ่นเริ่มต้น Standard Range ที่มีราคาต่ำแต่ได้ระบบพร้อมเทคโนโลยีต่าง ๆ เทียบเท่ารุ่นสูง ๆ ตัวรถขนาดเล็กกึ่งกลางไซต์เดียวกับใน ฮอนด้า แจ๊สหรือ นิสสัน คิกส์ ทำให้ได้ความอเนกประสงค์ในตัว สมรรถนะทั้งสองรุ่นแตกต่างกันขึ้นกับความต้องการ เลือกตามความชอบได้เลย แต่ถ้าให้แนะนำในการขับไปทำงานเป็นหลักนั้น รุ่น Standard Range ก็นับว่าให้ความคุ้มค่ามากกว่า ทั้งราคา สมรรถนะ อรรถประโยชน์ในห้องโดยสารและฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของรถที่ให้เต็มระบบเลยครับ
รถแนะนำเพิ่มเติม 
NETA V II ราคา 549,000 - 569,000 บาท
NETA V II รถยนต์ไฟฟ้าอีกรุ่นที่น่าสนใจขับไปทำงานทุกวัน ด้วยราคาที่ไม่สูงนัก และยังเลือกรุ่นที่มีระบบความปลอดภัยครบ ๆ ในงบไม่สูง สมรรถนะเพียงพอใช้งาน ให้อัตราเร่งใกล้เคียงกับเครื่องยนต์สันดาป 1.5 ลิตร ได้พื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารกว้างและมีความอเนกประสงค์ในแบบรถแฮตช์แบ็ก 5 ประตู อีกด้วย มาพร้อมระยะวิ่ง 382 กม. (NEDC) ขนาดตัวรถกลาง ๆ ให้ความคล่องตัวถือว่าได้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อีกด้วยครับ
 

 
yes ในบทความนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น (กูรูช้าง) สาวกรถปิคอัพหรือรถยุโรปไม่ต้องน้อยใจนะครับ เป็นแค่การเลือกรถที่เหมาะกับการขับมาทำงาน โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองที่ต้องเจอสภาพถนน ตรอกซอกซอย และที่จอดรถตามตึกต่าง ๆ ในเมือง ดังนั้น รถเก๋งจึงน่าจะเหมาะสมกับการขับไปทำงานมากที่สุด ส่วนใครที่ชอบการขับรถปิคอัพและจำเป็นต้องใช้งานนอกเหนือจากขับไปทำงาน ก็ขึ้นกับความจำเป็นของแต่ละคนไปนะครับ 
แท็กที่เกี่ยวข้อง รถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า
CAR GURU
เขียนโดย สินธนุ จำปีศรี CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)