ขับรถ ฝนตก ถนนลื่น อันตราย เป็นสิ่งที่คนขับรถยนต์ทราบกันดีอยู่แล้ว แต่ก็อาจยังนึกไม่ออกว่า "การขับรถหน้าฝนให้ปลอดภัย" นั้นจะต้องทำอย่างไรมีอะไรต้องระวังบ้าง ในบทความและคลิปนี้จะเป็นการเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการปฎิบัติเมื่อต้องขับรถฝ่าฝนตกถนนที่เปียกลื่น ให้ปลอดภัย มาฝากครับ
สิ่งแรกที่ต้องใส่ใจคือ คิดไว้ว่าถนนที่เปียกย่อมลื่นกว่าถนนแห้งหลายเท่า ขึ้นกับสภาพสิ่งที่ปกคลุมถนนก่อนฝนตกอีกด้วย เช่น เคยมีฝุ่น ทราย ดิน เลน เมื่อเจอน้ำก็ยิ่งลื่นขึ้นเป็นพอเศษ และผิวถนนที่เป็นมันหรือลาดยางก็จะมีความมันเงาและลื่นกว่าถนนที่ไม่มันเงา หรือถนนคอนกรีต เป็นต้น จึงต้องคิดเวมอว่าฝนตก ซึ่งเป็นพื้นฐานในความระมัดระวังอยู่แล้ว แต่จะดีกว่าถ้าเพิ่มความระวังและสังเกตุเรื่องรอบตัวเพิ่มขึ้นอีก!
1.ยางรถยนต์ของคุณ....ไหวไหม?
สังเกตุและต้องรู้ถึงสภาพของ ยางรถยนต์ที่ใช้งานอยู่ว่า ดอกยางยังดี ยังไม่หมดอายุ เช็คลมยางล่าสุดเมื่อไหร่ หรือ มีสิ่งใดผิดปกติบ้าง สิ่งเหล่านี้เป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตคุณเลยครับ!!!!! ยางรับหน้าที่สุดท้ายในการยึดเกาะถนนไม่ว่าจะเร่ง เบรก เลี้ยว หักหลบ ฯลฯ มีเพียงยางเป็นที่สิ่งยึดติดกับถนน ต่อให้ปรับแต่งช่วงล่างมาดีเพียงใด ถ้าสภาพยางไม่ไหวก็จบครับ!
2.เว้นระยะห่าง....ใครแทรกช่าง...xx@#$@!
ขับรถให้เว้นระยะห่างระหว่างรถคันหน้าอย่างน้อย 1 หรือ 2 หรือว่าให้ผู้ขับเองประเมินตามความเร็วและเบรกได้ทันเมื่อเกิดเหตุ รวมถึงการเว้นระยะห่างรอบตัวรถทั้งด้านข้างซ้าย-ขวา และด้านหลังด้วย เผื่อระยะห่างเอาไว้ เพื่อ "เผื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน" จะได้เอาตัวรอดหรือเบรกได้ทันท่วงที การเว้นระยะห่างช่วยให้หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น ส่วนใครที่จะเข้ามาปาด เบียดแทรก ก็ปล่อยเค้า เราระวังตัวเองดีกว่า เพราะเราควบคุมคนอื่นไม่ได้ แต่ระวังตัวเองได้
3.มองรอบ ๆ คัน = ระวังรอบตัว
การขับรถไม่เพียงแค่มองไปข้างหน้าเท่านั้น ควรจะเหลือบมองกระจกข้าง ซ้าย-ขวาบ้างเป็นครั้งคร่าว และมองกระจกมองหลังไว้ ให้เรารู้ถึงสิ่งรอบ ๆ ตัว และเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ เพื่อที่จะสามารถหลบหลีกจากอันตารยรอบ ๆ ตัวได้ เพราะอันตรายอาจมาจากด้านอื่น ๆ ไม่ใช่แค่หน้าด้านเท่านั้น และการมองกระจกมองข้างในเวลาฝนตกยิ่งยากขึ้น จึงควรใจเย็นและมองให้ขาดว่ารถที่อยู่ด้านข้างใช้ความเร็วระดับไหน "มากกว่า-เท่ากัน-เร็วกว่ารถเรา" มองใหเปลอดภัย เพื่อระยะทั้งหน้าและหลังเอาไว้ด้วย เพราะถ้าเปลี่ยนเลนไปแล้วคันที่มาเลนนั้นต้องเบรกก็อาจจะเกิดอันตรายได้
4.มองให้ไกลกว่าคันหน้า
ควรมองเลยผ่านรถคันด้านหน้าไปอย่างน้อย 2-3 คัน มองให้ไกล ๆ เข้าไว้ เพื่อดูสถานการณ์ล่วงหน้า เพื่อพร้อมจะเบรก เร่ง หรือลดความเร็ว ก่อนที่รถคันหน้าจะเบรก นับเป็นการช่วยให้ปลอดภัยขึ้น วิธีการง่าย ๆ เมื่อถนนเปียกมักจะมีเงาของรถหรือไฟท้าย สะท้อนที่พื้น หรือเว้นระยะห่างมากขึ้น เราก็จะได้มุมมองกว้างขึ้น หรือว่าจะเบนรถมาทางขวาเล็กน้อยเพื่อมองผ่านคันหน้าก็ได้ เลือกใช้วิธีไหนก็ได้ตามสถานการณ์จริงครับ
การขับรถหน้าฝนหรือว่าฝนตก ทัศนวิสัยการมองยิ่งลดลง ไม่ควรขับเร็วเกินไป หรือขับช้าในช่องทางไม่เหมาะสม และถ้าฝนตกหนักมาก ๆ ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉิน ให้เปิดไฟหน้า-ไฟท้ายก็เพียงพอแล้ว เพราะการเปิดไฟฉุกเฉินแม้จะสว่างขึ้นจริง แต่ยิ่งอาจทำให้รถคันหลังที่ตามมาสับสนได้ ไม่รู้ว่าจะไปซ้าย-ขวาหรือเป็นรถชะลอความเร็วหรือจอดเสียกันแน่!
สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าประมาท อย่าขับเร็วเกินไป ให้สัญญาณไฟเลี้ยวทุกครั้งที่จะเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยว และย้อนกลับไปเสริมข้อ 1 อีกนิดคือ ระบบไฟส่องสว่างติดครบหรือไม่