การขับขี่ดี มีความระมัดระวังอยู่เสมอ นอกจากจะช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังมีผลดีต่อเนื่องถึงการต่อประกันภัยรถยนต์อีกด้วยนะคะ โดยหากผู้ขับขี่มีประวัติการขับขี่ที่ดี จะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ในปีถัดไป ช่วยให้สามารถประหยัดงบ เซฟเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย แต่จะได้ส่วนลดยังไง เท่าไหร่บ้างไปเช็กกัน
ประวัติขับขี่ดี คืออะไร
ประวัติขับขี่ดี คือ การขับขี่รถยนต์อย่างระมัดระวัง ไม่มีประวัติการเคลมประกันในปีที่ผ่านมา หรือมีเคลมแต่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด ทั้งนี้ การมีประวัติขับขี่ดี จะช่วยให้สามารถรับส่วนลดเบี้ยประกันรถยนต์ที่จะต่ออายุในปีถัดไป ช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าเบี้ยประกันรถยนต์ในระยะยาวได้ ซึ่งส่วนลดนี้เป็นข้อบังคับจาก คปภ. สามารถยื่นขอได้กับทุกบริษัทประกันภัย
ส่วนลดเบี้ยประกันประวัติดี
การจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันประวัติดี จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อในปีก่อนหน้าปีที่จะต่ออายุประกันรถยนต์ "ไม่มีการเคลมเลย” หรือ “มีการเคลมแต่เป็นฝ่ายถูก" โดยระดับส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัย แบ่งเป็น 4 ระดับตามเงื่อนไข ดังนี้
เงื่อนไขการได้ส่วนลดประวัติดี | อัตราค่าเบี้ยประกันภัยลดลง |
ไม่มีเคลมประกันในปีแรก | 🔻20% |
ไม่มีเคลมประกัน 2 ปีติดต่อกัน | 🔻30% |
ไม่มีเคลมประกัน 3 ปีติดต่อกัน | 🔻40% |
ไม่มีเคลมประกัน 4 ปีขึ้นไปติดต่อกัน หรือมากกว่า | 🔻50% |
ระวัง! ประวัติขับขี่ดีถูกลดระดับได้
ในระหว่างปีหากขับขี่เกิดอุบัติเหตุ จนถึงเหตุให้ต้องเคลมประกันภัย หรือมีการเรียกร้องค่าเสียหาย ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด หรือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ อาจถูกพิจารณาลดเบี้ยประวัติดี ดังนี้
- ลดเบี้ยประวัติดีลง 1 ขั้น ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วไม่สามารถแจ้งบริษัทประกันภัยได้ว่าคู่กรณีเป็นใคร ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายผิด หรือฝ่ายถูก ส่วนลดค่าเบี้ยประกันในปีต่อมาจะลดลงทีละ 1 ขั้น เช่น นาย A เคยมีประวัติขับขี่ดีได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกัน 50% แต่ในปีนี้ นาย A ขับรถเกิดอุบัติเหตุ โดยเป็นฝ่ายผิด 1 ครั้ง ดังนั้น ในการต่ออายุประกันภัยปีถัดไป นาย A จะได้รับส่วนลดอัตราค่าเบี้ยประกันภัยลดลงเหลือ 40% เป็นต้น
- ลดเบี้ยประวัติดีลง 2 ขั้น ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ 2 ครั้งขึ้นไป และไม่สามารถแจ้งบริษัทประกันภัยได้ว่าคู่กรณีเป็นใคร ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายผิด หรือฝ่ายถูก รวมถึงหากมีค่าซ่อมสูงกว่าเบี้ยประกันรวม 2 ครั้งที่จ่ายไปเกิน 200% ก็จะถูกลดส่วนลดเบี้ยประกันลง 2 ขั้น เช่น นาย B เคยได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยประวัติดี 40% ก็จะเหลือรับส่วนลดเบี้ยประกันประวัติดีในการต่ออายุประกันปีถัดไปเพียง 20% เท่านั้น
สรุปแล้ว การขับขี่ดี ขับขี่อย่างระมัดระวัง นอกจากจะช่วยให้เราปลอดภัยทั้งร่างกาย และทรัพย์สินแล้ว ประวัติการขับขี่ที่ดีนี้ ยังส่งผลให้เราสามารถประหยัดค่าเบี้ยประกัยภัยในการต่ออายุประกันภัยรถยนต์ในปีถัดไปได้อีกด้วย ซึ่งการขอส่วนลดประวัติดี บริษัทประกันภัยจะพิจารณาจากประวัติการขับขี่ปลอดภัย รวมถึงเรื่องการจ่ายค่าเบี้ยประกันตามกำหนด ไม่มีการเคลมในระยะเวลานาน ประกอบด้วยนะคะ