การจอดรถยนต์ตากแดดจนกระจกหน้ารถแตกเองนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้บ่อยนัก...แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้น เพราะกระจกอาจได้รับความร้อนจากแสงแดดจนเกิดความร้อนสะสมจนเกิดความเครียดในกระจก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน ๆ ก็อาจจะทำให้จกหน้ามีรอยร้าว หรือเกิดระเบิดขึ้นได้ในที่สุด แล้วเมื่อเกิดปัญหานี้กับกระจกรถแล้วจะทำการเคลมประกันรถยนต์ได้มั้ย? เพราะกระจกป็นชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ ถ้ามีรอยร้าวหรือระเบิดไปแล้วคงยากที่จะใช้รถยนต์ออกไปยังที่ต่างๆ
เพื่อคลายความกังวล ก็ต้องบอกว่าการที่กระจกรถยนต์แตก (ร้าว) สามารถเคลมประกันภัยรถยนต์ได้ในบางกรณี ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่คุณมีนั่นเอง ถ้าหากรถยนต์คันนั้นมีประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่ครอบคลุมความเสียหายต่อรถยนต์ (ไม่เฉพาะอุบัติเหตุ) ก็จะได้รับความคุ้มครอง โดยไม่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก ( Excess) แต่ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 หรือ 3 อาจไม่ครอบคลุมเหตุการณ์นี้ เพราะโดยทั่วไปจะครอบคลุมเฉพาะอุบัติเหตุจากการชนหรือความเสียหายจากการชนเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดีควรตรวจสอบเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยของคุณว่ามีระบุถึงการครอบคลุมกรณีกระจกแตกเนื่องจากอุณหภูมิหรือไม่ เพราะบางกรมธรรม์อาจมีการกำหนดเฉพาะว่าครอบคลุมกระจกแตกจากเหตุใดบ้าง
สำหรับการแจ้งเคลมหากกรมธรรม์ของคุณนั้นให้ความคุ้มครอง ควรติดต่อบริษัทประกันภัยโดยทันทีเพื่อแจ้งเคลม และทางบริษัทประกันอาจต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือหลักฐานภาพถ่ายเพื่อพิจารณาเคลมของคุณ (ดังนั้นควรถ่ายภาพ หรือ วิดีโอ ไว้เป็นหลักฐาน)
แต่ถ้ายังไม่สะดวกเคลมจะใช้งานต่อได้หรือไม่นั้น ในกรณีที่แตก ถ้าเป็นกระจกบังลมหน้า ก็พอใช้ได้ในระยะทางสั้น ๆ เนื่องจากไม่มีกระจกมาคอยบังลม, เศษฝุ่น ไม่ควรใช้เป็นระยะทางไกล ๆ แต่ถ้าเป็นกรณีที่กระจกร้าวอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของคุณและผู้โดยสารในรถยนต์คันนั้น ๆ ได้ แม้ว่ากระจกหน้ารถจะเป็นแบบ 2 ชั้น มีชั้นฟิล์มอยู่ตรงกลางทำหน้าที่คอยยึดเศษกระจกที่แตกก็ตาม และยังอาจผิดกฎหมายขึ้นอยู่กับความรุนแรงของความเสียหายอีกด้วยเพราะ
- เป็นการลดทัศนวิสัยในการขับขี่
การที่กระจกหน้าร้าวอาจทำให้ทัศนวิสัยของรถยนต์ของคุณนั้นลดลง (ขึ้นอยู่กับความเสียหาย) โดยเฉพาะถ้ารอยร้าวอยู่ในสายตาของผู้ขับ ก็จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการขับขี่ได้นั่นเอง - ความแข็งแรงของกระจกลดลง
กระจกรถยนต์ที่มีรอยร้าวสามารถลดความแข็งแรงโดยรวมของกระจก ทำให้มีโอกาสแตกหักเพิ่มขึ้นได้ง่าย ในกรณีของการชน หรือเกิดอุบัติเหตุ - มีความผิดตามกฎหมาย
การขับขี่ด้วยกระจกหน้าที่ร้าวถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้คุณได้รับคำเตือน หรือเสียค่าปรับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในกรณีร้าว หรือแตกก็จะมีความผิดข้อหาอุปกรณ์ส่วนควบชำรุด ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ. ขนส่ง - มีผลต่อประกันภัย
การใช้รถที่กระจกหน้าที่ร้าวอาจมีผลต่อการครอบคลุมประกันภัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากบริษัทประกันอาจพิจารณาว่าคุณขับขี่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย
ด้วยเหตุนี้ ถ้ากระจกหน้ารถของคุณร้าว ควรแก้ไขหรือเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัยของคุณและการปฏิบัติตามกฎหมาย ตรวจสอบกับบริษัทประกันภัยเกี่ยวกับการเคลมค่าเปลี่ยนกระจกหรือการซ่อมแซม ซึ่งอาจครอบคลุมตามกรมธรรม์ที่คุณมีอยู่
มาถึงคำถามที่มีต่อว่า กระจกรถร้าว, แตก เกิดจากอะไรได้บ้าง? ก็ต้องบอกตามตรงว่าเหตุการณ์แบบนี้นั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่หลัก ๆ ก็คือ
- มีหินหรือวัตถุกระเด็นใส่
นี่เป็น 1 ในสาเหตุที่ถือว่าทั่วไปที่สุด เพราะขณะขับรถ หินหรือชิ้นส่วนของวัตถุที่กระเด็นมาจากรถคันหน้า อาจชนเข้ากับกระจกและทำให้เกิดรอยร้าวหรือรอยแตกได้ - การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ
กระจกสามารถร้าว จนถึงระเบิดได้เอง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น เมื่อจอดรถยนต์ตากแดดเป็นเวลานาน แล้วมีการใช้รถพร้อมเปิดแอร์เย็น ๆ ทันที ก็อาจทำให้กระจกเกิดความเค้นจนเกิดรอยร้าว และระเบิดออกได้ในที่สุด - การติดตั้งไม่ถูกต้อง
หากกระจกถูกติดตั้งอย่างไม่ถูกต้อง อาจเป็นสาเหตุให้ตัวกระจกมีความเครียดที่ไม่สม่ำเสมอจนนำไปสู่การร้าวของกระจกได้ในที่สุด - ความเสียหายจากการชน
การที่รถยนต์คันนั้น ๆ ได้รับอุบัติเหตุจากการชน ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยร้าว (แตก) ขึ้นได้เพราะรถได้รับแรง แม้กระทั่งการชนที่ไม่รุนแรงก็ตามที - การสึกหรอของกระจก
กระจกรถยนต์อาจสึกหรอเนื่องจากการใช้งานเป็นเวลานาน รวมถึงการโดนสารเคมีหรือมลพิษต่าง ๆ ทำให้เกิดความเสียหายจนเกิดรอยร้าว - วัสดุหรือการผลิตที่มีปัญหา
ในบางกรณี กระจกที่มีข้อบกพร่องตั้งแต่การผลิตอาจมีโอกาสร้าว หรือแตกได้ง่ายกว่าปกติเมื่อได้รับแรงกระแทกหรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ
แล้วทีนี้จะมีวิธีป้องกันกระจกรถยนต์ของคุณได้อย่างไรบ้าง?
- ใช้ที่บังแดด
การใช้ที่บังแดดวางไว้ใต้กระจกหน้ารถเมื่อจอดกลางแดดจะช่วยลดการสะสมของความร้อนภายในรถ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสที่กระจกจะแตกจากความร้อน - จอดรถในที่ร่ม
หากเป็นไปได้ ควรจอดรถในที่ร่มหรือใต้หลังคาเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง - ตรวจสอบกระจกบ่อยๆ
หากอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงเป็นประจำ ควรตรวจสอบสภาพกระจกหน้ารถเป็นประจำ หากมีรอยร้าวเล็กน้อยควรดำเนินการแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันการแตกหักเพิ่มเติม - เปลี่ยนกระจกที่มีคุณภาพดี
ใช้กระจกที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพสูงซึ่งสามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ดี - ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนกระจกหน้ารถ
หากกระจกแตกจากความร้อน ควรดำเนินการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนกระจกใหม่โดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
เมื่อกระจกเกิดรอยร้าว หรือแตก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ควรรีบซ่อมแซม (ในบางกรณีสามารถซ่อมเองได้) หรือเปลี่ยนกระจกบานใหม่ เพื่อความปลอดภัยขณะขับรถจะดีที่สุด หรือถ้ายังไม่เกิดรอยร้าวก็ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลรักษารถยนต์ของคุณให้อยู่ในสภาพที่ดี และการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากระจกร้าว, กระจกระเบิด นั่นเอง