ไม่ว่าจะ มือใหม่ หรือ มือเก๋า เรื่องของอุบัติเหตุรถยนต์นั้นย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะ..ไม่เราชนเค้า ก็เค้าชนเรา หรือแม้แต่บางทีเราอาจจะชนกับสิ่งที่เคลื่อนไหวไม่ได้ ฉะนั้น ทุกครั้งที่ขับขี่ควรจะมีสติอยู่ตลอดเวลาและที่สำคัญที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ ประกันภัยรถยนต์ แต่จากการที่รถยนต์ของเรานั้นเกิดเหตุชนบ่อย จะส่งผลอะไรตามมาบ้างหรือไม่นั้น วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกัน
ถึงแม้ว่าเราคันเก่งของคุณจะมีประกันภัยรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นชั้นความคุ้มครองระดับไหน (ชั้น 1, 2+, 3+, 2 และ 3) เมื่อมีการเคลมบ่อยครั้ง ก็จะมีผลเสียในหลายเรื่องที่คุณควรพิจารณา
1. เบี้ยประกันถูกปรับสูงขึ้นในปีถัดไป
เมื่อรถของคุณมีการเคลมบ่อยครั้ง ก็จะทำให้คุณมีประวัติว่าเป็นผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงสูง อาจถูกพิจารณาเพิ่มเบี้ยประกันในการต่ออายุ ในอดีตก็อาจจะย้ายบริษัทประกันหนีค่าเบี้ยที่อาจจะเพิ่มขึ้น แต่อย่าลืมว่าเดี๋ยวนี้ข้อมูลนั้นค้นหาได้ง่าย ทางบริษัทประกันภัยก็จะนำประวัติในการขับขี่ที่ผ่านมาพิจารณาด้วยเช่นกัน ซึ่งเมื่อทุนประกันภัยสูงขึ้นแน่นอนว่าค่าเบี้ยประกันภัยก็จะสูงขึ้นตามกันมา เพื่อรองรับการเคลมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
2. เคลมบ่อยๆ ไม่มีส่วนลดประวัติดี
สำหรับท่านที่เป็นเจ้าของรถแล้วไม่ได้ทำการเคลมในปีที่ผ่านมา หรือมีการเคลมน้อยมากในระยะเวลานึง เมื่อต่อประกันภัยก็จะได้รับส่วนลดประวัติดี โดยส่วนลดประวัติดีสามารถมีผลในหลายรูปแบบ เช่น
- ลดเบี้ยประกัน : ส่วนลดนี้จะถูกนำไปใช้กับการต่ออายุกรมธรรม์ หรือเมื่อซื้อกรมธรรม์ใหม่ โดยมูลค่าส่วนลดอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท
- เพิ่มวงเงินคุ้มครอง : บางบริษัทประกันอาจเสนอความคุ้มครองที่ดีขึ้น หรือเงื่อนไขที่ดีขึ้นโดยไม่เพิ่มเบี้ยประกัน เพื่อเป็นของขวัญเพื่อเชิญชวนให้เลือกทำประกันกับบริษัทนั้นๆ
- ไม่คิดค่าเสียหายส่วนแรก : บางกรมธรรม์อาจยกเว้นค่าเสียหายส่วนแรกในกรณีที่เคลม หากคุณมีประวัติการขับขี่ที่ดีและไม่เคยเคลมหรือเคลมน้อยมาก
ดังนั้นการที่คุณมีประวัติที่ดี ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์เหล่านี้ ช่วยให้คุณประหยัดเงินได้ไม่มากก็น้อย
3. ถ้าเคลมถี่ อาจถูกยกเลิกกรมธรรม์ และโดนติด Black List
การเคลมบ่อยครั้ง บริษัทประกันภัยมีสิทธิ์ที่จะแจ้งยกเลิกการต่อประกันภัยในปีถัดไป รวมถึงมีสิทธิ์ขอยกเลิกกรมธรรม์ก่อนหมดเวลาคุ้มครอง เนื่องจากมีการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย รวมถึงมีความประมาทจนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง ไม่เพียงเท่านี้อาจโดน Black List เพราะข้อมูลประวัติการขับขี่ไม่ว่าจะเป็นบริษัทประกันรายไหนก็สามารถตรวจสอบได้
4. มีการเพิ่มเงื่อนไขในกรมธรรม์
ในบางกรณี หากคุณมีการเคลมที่ถี่เกินไป บริษัทประกันอาจเพิ่มเงื่อนไขพิเศษในกรมธรรม์ของคุณ เช่น การเพิ่มเงื่อนไขที่จำกัดการเคลมในบางสถานการณ์ หรือเพิ่มค่าเสียหายส่วนแรกที่คุณต้องจ่ายเองในกรณีของการเคลม
นอกจากนี้อายุและประสบการณ์ของผู้ขับขี่ก็มีผล อาทิ ในกลุ่มที่มีอายุน้อย หรือมีประสบการณ์ขับขี่ที่น้อยมักจะมีเบี้ยประกันสูง เพราะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากกว่าผู้ที่มีประสบการณ์ขับขี่มาก แต่ในอีกทางผู้ที่มีอายุมากเกินไปก็อาจจะมีเบี้ยประกันที่สูง ไม่ใช่ว่าไม่มีประสบการณ์แต่มีความเสี่ยงจากอายุ และโรคประจำตัวด้วยนั่นเอง รวมถึง รุ่นรถ และ อายุของรถยนต์ที่ใช้ก็มีผลต่อการกำหนดเบี้ยประกัน เช่น รถที่มีราคาแพงมักมีเบี้ยประกันที่สูง หรือรถเก่าที่หาอะไหล่ได้ยากก็เช่นกัน
การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณเตรียมตัวและวางแผนในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายด้านประกันรถยนต์ของคุณได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น การขับขี่อย่างปลอดภัยและระมัดระวังจะช่วยให้คุณมีประวัติการขับขี่ที่ดี ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องตัวคุณและแต่ยังช่วยปกป้องผู้อื่นบนท้องถนน