Honda e:N1 ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกจากค่ายนี้ผลิตในไทยและถูกพัฒนาโครงสร้างจากพื้นฐานของ
HR-V ใหม่เกือบทั้งคัน ที่เหมือนกันมีแค่ตัวถังบางส่วนเท่านั้น แรงขับสนุกฟิวลิ่งดีความปลอดภัยครบด้วย
HondaSENSING ยกมาจาก HR-V อีกนั่นเอง พลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด
204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด
310 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุแบตฯ 68.8 kWh ติดใต้ท้องรถ วิ่งได้ 500 กม./ชาร์จ NEDC และล็อคความเร็วไว้ที่
160 กม./ชม.
รองรับหัวชาร์จ DC CCS 2 และ AC Type 2
ระยะเวลาชาร์จ
- AC 7 kWh 1 เฟส 7-8 ชม.
- DC 78 kWh 40 - 50 นาที
แต่น่าเสียดายไม่ขายให้เช่าขับเท่านั้น!!
โครงสร้าง e:Architecture F ใหม่รับ EV ในกระดองแบบ HR-V
Honda e:N1 มองยังไงก็เหมือน
HR-V เกือบทั้งคัน แต่ความจริงถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม
e:Architecture F หรือเป็นการต่อยอดจาก HR-V มาปรับให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนทั้งคัน ส่วนแบตเตอรี่ถูกติดตรงกลางใต้ท้องรถแต่ว่าเมื่อมีฝาครอบทำให้ “ห้อย” ต่ำลงมาพอสมควรมีความสูง 135 มม. สรุปคือเหมือนแค่กระดองนั่นเองครับ
ภายนอกดีไซน์พรีเมี่ยมกระจังหน้าแบบเปิดทึบบ่งบอกความเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% และมีฝาปิดเปิดช่องชาร์จไฟที่กระจังหน้า โดยมีไฟ LED แสดงสถานะขณะกำลังชาร์จ มาพร้อมโลโก้ "H" แบบใหม่ด้านท้ายมีฟอนต์ HONDA ใหม่ ไฟท้ายแบบสี Smoke เชื่อมยาวทั้งสองฝั่ง สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต เสาอากาศครีบฉลาม กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าและด้าซ้ายปรับลงอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ยาง Continetal Ultracontect UC6 แต่ไม่มีหลังคาแก้วมาให้นะครับ
ภายในแตกต่างจาก HR-V พอสมควร มาตรวัด 4 เหลื่อมยาวขนาด 10.25 นิ้ว จอกลางขนาด 15.1 นิ้ว แนวตั้งที่แบ่งจอเป็น 3 ส่วนใช้งานง่าย ส่วนบนเป็นการเชื่อมต่อต่าง ๆ ส่วนกลาง ระบบข่วยเหลือการขับขี่ปรับตั้งค่าต่าง ๆ ของรถและส่วนล่างโซนระบบปรับอากาศ ซึ่งถือว่าดีใช้งานง่ายไม่ต้องคอยเลื่อนหาหรือกดเข้าเมนูลึกกว่าจะหาเจอ
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นมาพร้อมสวิตช์สั่งการรับ-วางสายโทรศัพท์ ตั้งค่าระบบครุซคอนโทรลแปรผัน ACC บนมารตวัดสดงรายละเอียดเลขระยะทางและแบ่งเป็นทริป A / B รวงถึงระดับแบตเตอรี่ บอกระยะทางคงเหลือที่วิ่งได้ และตำแหน่งเกียร์ นอกจากนี้ยังมีแพดเดิ้ลชิฟใช้ในการเพิ่ม/ลด ความหน่วงของความเร็วรถที่ตั้งค่าได้ 3 ระดับ
คอนโซลกลางมีสวิตช์เลือกตำแหน่งเกียร์แบบไฟฟ้า ดูคล้ายของ CR-V i-DTEC รุ่นก่อนหน้านี้ ใช้งานง่ายและปุ่มสำหรับเข้าเกียร์ถอยมีการเซฟตี้เพิ่มเติมด้วยการต้องกดสลักลงก่อนจึงจะเข้าเกียร์ได้ ถัดมาข้าง ๆ มีสวิตช์เบรกมือไฟฟ้าและ Auto hold ช่องวางแก้วน้ำและที่วางแขนพร้อมกล่องใส่ของ เบาคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ตัววัสดุที่เป็นงานหนังใช้ด้ายสีขวาและฟ้าคู่กัน ส่วนเบาะคนนั่งปรับมือ เบาะตอนหลังปรับระดับและพับแบนราบได้
จอกลาง 15.1 นิ้ว ใช้ง่ายไม่ซับซ้อน
จอกลางนับเป็นจุดที่ดูล้ำและทำให้
e:N1 ดูกลายเป็นรถยุคอนาคตด้วยขนาดใหญ่โตถึง 15.1 วางแนวตั้งมองชัดเจนและยังออกแบบอินเตอร์เฟสให้ใช้งานง่ายมากๆ ด้วย โดยจะแบ่งจอออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนล่างเกี่ยวกับระบบปรับอากาศแยกปรับอุณหภูมิซ้ายขวา ระบบกรอง PM2.5 และมีช่องแอร์ด้านหลังให้ด้วย
ในส่วนตรงกลางเป็นระบบการทำงานต่าง ๆ ของตัวรถ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ และส่วนบนสุดคือ แผนที่ การเชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์โฟน รองรับ AppleCarPlay แบบไร้าย และ Android Auto ที่ต้องใช้เสียบสายอยู่ และแสดงภาพจากกล้องถอยหลัง ที่ยังคงไม่ค่อยชัดเจนมากนัก ส่วนตัวคิดว่าตัวจอกลางใช้งานได้สะดวกง่ายขึ้นกว่าที่ต้องเข้าไปเมนูลึกหรือต้องกดสลับหน้าจอไปมา ส่วนระบบเสียงให้ลำโพง 8 ตำแหน่งอีกด้วย
ความสะดวกสบายและปลอดภัย HondaSENSING
ภายในให้ความสะดวาสบายไม่แตกต่าจากรุ่น HR-V เช่น ระบบชาร์โทรศัพท์ไร้สาย กระจอหลังปรับลดแสงอัตโมัติ ที่วางแขน ช่องว่างแก้วน้ำ กระจกไฟฟ้าขึ้นลงอัตโนมัติทั้ง 4 บาน ไฟสร้างบรรยากาศในรถ ช่องเสียบ USC-A 1 ตำแหน่งและ USB-C หน้า 1 หลัง 2 ตำแหน่ง แต่ว่ารุ่นนี้ไม่มีหลังคาพาโนรามิคมาซึ่งก็ไม่ติดใจอะไร เพราะคาดว่ามีโอกาสจะเปิดรับลม (ร้อน-PM2.5) ไม่บ่อยครั้ง
ระบบความปลอดภัย Honda SENSING มาครบ ๆ ใหม่!!! ระบบเตือนมุมอับสายตา BSI และเอากล้องส่องมุมอับฝั่งซ้ายออกไปเรียบร้อย, ระบบเตือนและดึงกลับเมื่อออกนอกเลน, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบเตือนเมื่อมีรถขณะถอยหลัง กล้องถอยหลังปรับ 3 ระดับ ระบบควบคุมความเร็วแปรผันจนถึงจุดหยุดนิ่ง ระบบเตือนเมื่อรถด้านหน้าเคลื่อนที่ ระบบเปิดไฟสูงอัตโนมัติ ระบบ Honda CONNECT เป็นต้น
สมรรถนะการขับขี่
อัตราเร่งแรงตามเท้าแต่ว่าไม่ถึงกับกระชาก จากการปรับคันเร่งให้สมู้ทนุ่มนวล ไม่ต้องปรับตัวมาก สามารถกระโดดจากรถสันดาปมาขับ eN1 ได้โดยไม่ปรับตัวใดใดเลย แม้จะปรับคันเร่งให้การใช้งานนุ่มนวล แต่เมื่อต้องอัตราเร่งแบบจัดเต็ม กลับเร่งได้แบบตามเท้าทันใจ ไม่มีการรอรอบตามสไตล์รถยนต์ไฟฟ้า ช่วงล่างนุ่มนวลเป็นหลัก และให้ความกระชับพอมั่นใจได้ในทุกสภาพถนน แม้ว่าแบตฯ ใต้ท้องห่างจากพื้น 135 มม. และจะดูต่ำลงมากว่า HR-V แต่ว่าได้ลองขับผ่านเส้นทางกึ่งออฟโร้ด ก็สามารถขับไปได้สบาย
อัตราการใช้ไฟนั้นจากการขับขี่แบบทดสอบอัตราเร่ง เข้าโค้งลองเร่งแซง ไม่เน้นขับประหยัด ตัวเลขใช้ไฟที่ 6.1 Km/kWh กับระยะทางรวมทั้งหมด 231 กม. เมื่อถึงจุดสิ้นสุดการทดสอบที่ฮอนด้าบางชัน จากระดับแบตฯ 98 % บางชันระดับแบตฯ คงเหลือ 38% สบาย ๆ เลยครับ และถือว่าเป็นรถมอเตอร์ไฟฟ้า 200 แรงม้า ที่กินไฟแบบ "จิ๊บ ๆ"
สรุปการทดสอบขับขี่ เช่าขับคุ้มไหม?
Honda e:N1 ออกแบบฟังก์ชันการใช้งานภายในห้องโดยสารได้ดี การสั่งงานบนจอที่แยกส่วนใช้ง่าย สมรรถนะดีอัตราเร่งทันใจและนุ่มนวลไม่กระชากไม่ต้องปรับตัวเยอะ ปรับไลฟ์สไตล์ในเรื่องวางแผนการเดินทางก็พอ ส่วนแบตฯ ใช้ไฟประหยัดพอสมควร ระบบความปลอดภัยยกมาจาก
HR-V แต่จอความคมชัดเทียบเท่า
Accord ยกเว้นภาพจากกล้องถอยหลังยังไม่คมชัดเท่าไหร่
ทำไมให้เช่าอย่างเดียว?
เป็นเจ้าของไม่ได้ต้องเช่าเท่านั้น เบื้องต้นทางฮฮนด้า ประเทศไทย ให้ทดลองเ่าขับขี่เพื่อให้ผู้สนใจได้ทดลองปรับพฤติกรรมในการใชhรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมกับศึกษาการว่างจำหน่ายในอนาคตว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร และความเห็นส่วนตัวมองว่าอาจจะยังไม่เสี่ยงกับ "สงครามราคารถไฟฟ้า" ในปัจจุบันนี้ที่ลดราคากับเป็นว่าเล่น......
ใครสนใจต้องเช่าขับกับบริษัทเช่ารถ 12 แห่งเท่านั้นไม่มีจำหน่าย ค่าเช่า
เริ่มต้น 29,000 บาท/เดือน สัญญาเริ่มต้น
48 เดือน สามารถติดต่อการเช่ารถได้
เว็บไซต์ฮอนด้าครับ
ตัวอย่างราคาเช่าใช้รถ Honda eN1