งาน Bangkok International Motor Show 2024 ครั้งนี้มีรถยนต์ไฟฟ้ากำลังมาแรงมีหลายรุ่นที่น่าสนใจโดยในงานนี้มีเปิดทั้งก่อนและในงานอีกหลายรุ่น มาดูว่ามีรุ่นไหนโดนใจและน่าสนใจกันบ้าง
New GWM ORA Good Cat ราคา 799,000 - 1,099,000 บาท
New GWM ORA GOODCAT รุ่นผลิตในไทยเปืดราคามาสุดว้าว คุ้มค่า มี 3 รุ่นย่อย PRO, ULTRA โดยจะมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) มีระยะทางวิ่ง สูงสุด 480 กิโลเมตร (NEDC Standard) ส่วนรุ่น GT แบตเตอรี่เหมือนกันแตกต่างที่มีระยะทางวิ่ง 460 กิโลเมตร (NEDC Standard) ขยับความสูงสุดไปที่ 160 กม./ชม. และมาพร้อมระบบสำรองจ่ายไฟภายนอกรถได้ (V2L) ถือว่าเป้นรถที่คงความน่ารักไม่เปลี่ยนแปลง(เยอะ) แต่ราคาคุ้มค่าสำหรับกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าระดับนี้
ORA 07 ราคา 1,299,000 - 1,499,000 บาท
ORA แมวใหญ่เปลี่ยนชื่อเป็น 07 คงเอกลักษณืความรถของ GMW ที่มีความคล้ายในหลาย ๆ รุ่นมากองกัน รวม ๆ แล้วก็มีสเนห์เหลือเกิน ภายในเบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า ระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ และเบาะหนังพร้อมผิวสัมผัสแบบปุ่มเหมือนคีย์เปียโนที่ช่วยโอบอุ้มร่างกายของทั้งผู้ขับและผู้โดยสารให้ได้รับสะดวกสบายและความอบอุ่นอย่างเต็มที่ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง มีระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat เพิ่มความสะดวกในการขึ้น-ลงรถ เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับแบบไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 มีที่พักแขนตอนกลาง และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมช่องเสียบ USB A และ USB C บริเวณแผงคอนโซลกลางที่สามารถใส่ของใช้ส่วนตัว พร้อมกับที่วางแก้วน้ำ
มาพร้อม 2 รุ่นให้เลือกคือ รุ่น
LONG RANGE อยู่ที่ 1,299,000 บาท ที่แตกต่างกันไม่กี่จุด เช่น กำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว 204 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ระยะวิ่ง 640 กม. ภายนอกต่างเพียงไม่มีสปอยเลอร์หลังและล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาดเล็กกว่าเป็น 18 นิ้ว ยาง Kumho ส่วนภายในพวงมาลัยไม่มีปุ่มโหมด "Sport" ลำโพงธรรมดาของ GWM และลดระบบความปลอดภัยบางอย่างออกไป
Volvo EX30 ราคา 1,590,000 - 1,890,000 บาท
Volvo EX30 รถยนต์ไฟฟ้ายุโรปที่มีค่าตัวไม่แรงและยังให้สมรรถนะและเทคโนโลยีที่ดีเกินราคา ยังเป็นรถรุ่นแรกที่มีระบบช่วยจอด Park Pilot Assist เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดที่ช่วยให้ผู้ขับเข้าจอดได้อย่างไร้กังวลไม่ว่าจะเป็นการจอดแบบขนาน จอดในลานจอดแบบโค้ง ถอยเข้าซอง หรือจอดในลานจอดแบบสลับฟันปลาในรุ่น Single Motor Extended Range ให้กำลัง 272 แรงม้า และแรงบิด 343 นิวตันเมตร โดยมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 5.3 วินาที และรุ่น Twin Motor Performance พลังการขับเคลื่อนสูงสุด 428 แรงม้า (315 kW) แรงบิด 543 นิวตันเมตร จึงให้อัตราเร่งจาก 0 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.6 วินาที ทุกรุ่นทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 180 กม./ชม. พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion Nickel rich NMC ระยะทางวิ่งได้ 480 กิโลเมตร WLTP นอกจากนี้ยังรองรับกำลังการชาร์จได้ที่ 153kW จึงใช้เวลาการชาร์จจาก 10 - 80% ในเวลาราว 25 นาที
มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย 2 พลัง คือ
AION Y Plus ราคา 899,900 - 995,900 บาท
Aion Y Plus รถยนต์ SUV ที่มีตัวถังใหญ่โต มีความยาว 4,535 มม. กว้าง 1,870 มม. และสูง 1,650 มม. กับระยะฐานล้อ 2,750 มม. เหมาะกับการเดินทางที่สะดวกสบาย เทคโนโลยีก็ถือว่ามีให้เต้มคัน ระบบที่โดดเด่นคือ เบาะพับแบนราบตลอดทั้งคันสไตล์สายแคมป์ปิ้ง พลังมอเตอร์ไฟฟ้า 204 แรงม้า แรงบิด 225 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบด้วยเทคโนโลยี Magazine Battery มาพร้อม 2 รุ่นคือ
BYD-Dolphin 699,900 - 859,999 บาท
BYD Dolphin นับเป็นรถยนต์ขนาดกลาง (แต่คันไม่เล็กนะ) ที่ได้เรื่องเทคโนโลยีคุ้มมาก มาแบบครบ ๆ ทั้ง 2 รุ่นย่อย โดดเด่นด้วยจอสัมผัสแบบหมุนได้ด้วยไฟฟ้า และกาตกตแ่งสีสันของตัวรถกับภายในที่น่ารัก มาพร้อม 2 ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า
BYD-Dolphin Standard Range กำลัง 94 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า วิ่งได้ระยะทาง 410 กม. แบตเตอรี่ขนาด 60kw ล้ออัลลอย 16 นิ้ว ระบบความปลอดภัย ADAS ครบถ้วนตั้งแต่รุ่นนี้ จอกลางหมุนได้ กล้อง 360 องศา ระบบ Adeptive cruise control จากจุดหยุดนิ้ง
BYD-Dolphin Extended Range ตัวแรงกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 150 kWh หรือ 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 80kw วิ่งได้ 490 กม. (NEDC) รองรับ DC,CCS 2 และ AC Type 2 ช่วงล่างมาในแบบอิสระ 4 ล้อ โดยด้านหลังเป็น "Multi-link" ระบบความปลอดภัย ADAS พร้อม Wireless changer เบาะปรับไฟฟ้าคู่หน้ากระจกขึ้นลงอัตโนมัติทั้ง 4 บาน หลังคาพาโนรามิกรูฟและล้ออัลลอย 17 นิ้ว
Changan Deepal-L 07 ราคา 1,329,000 - 1,399,000บาท
DEEPAL L07/S07 รถยนต์ไฟฟ้ามาแรงและราคาไม่แรง คันใหญ่สมรรถนะดี แถมเทคโนโลยีคุ้มค่าตัวอีกรุ่น ที่ยังหาจุดด้อยได้ยากหน่อย ยกเว้น การใช้งานในระยะยาว แต่ด้วยรูปทรงที่ดูทันสมัย สปอร์ตแบบมองแว๊บแรก "อุ๊ย-ซูเปอร์คาร์หรอนั่น" แต่ความจริงก็ยังเน้นการขับขี่ใช้ครอบครัวไป ด้านพละกำลังมอเตอรืไฟฟ้าดูดีเหมือนหน้าตา กำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์หรือ 258 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง
และยังเพิ่มรุ่น
DEEPAL L07 S (Standard Range) รถ Sporty Fastback กำลังลดลง 218 แรงม้า /แรงบิด 320 นิวตัน-เมตร
วิ่งระยะได้สูงสุดถึง
475 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NDEC และรุ่น
S07 L (Long Range) รถ Smart lifestyle SUV กำลัง 258 แรงม้า /แรงบิด 320 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งระยะได้ไกลถึง 560 กิโลเมตร
จุดเด่นคือ ระบบสั่งงานด้วยมือ! ภายในนอกจากจะมือสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแล้ว มีระบบที่โดดใจมากคือ การสั่งงานด้วย "มือ" เพียงแค่ทำสัญลักษณ์ เช่น กำมือ - ปิดเสียงเพลง / มือรูป OK - เปิดเสียงเพลง / ชู 2 นิ้ว - ถ่ายรูป / ทำนิ้วชี้ที่ปาก - Mute / ทำมือแบบสัญลักษณ์วง "คาราบาว" - รับสาย เป็นต้น
Hyundai IONIQ 5 Premium ราคา 1,699,000 บาท
IONIQ 5 รถยนต์ไฟฟ้าอีวี 100% ดีไซน์หรูหราและดูพรีเมี่ยมทันสมัย มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet พลังงานจากแบตเตอรี่ Lithium-Ion ติดตั้งระบบชาร์จเร็ว 350 kW Ultra-fast Charging สามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ได้ภายใน 17 นาที
- แบตเตอรี่แรงดันสูงสุด 58 กิโลวัตต์-ชั่วโมง กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 8.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. ระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด 384 กม. ตามมาตรฐาน WLTP
- แบตเตอรี่แรงดันสูงสุด 72.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง กำลังสูงสุด 217 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 7.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. ระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด 481 กม. ตามมาตรฐาน WLTP
มี 3 รุ่นย่อยให้เลือกคือ
IONIQ 6 รถยนต์ซีดานไฟฟ้าพร้อมดีไซน์สวยแปลกตา พร้อมไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Parametric Pixel อัตลักษณ์ของ IONIQ ห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ระบบไฟ Dual Ambient Mood Lighting พร้อมระบบ infotainment ล่าสุด ทั้งหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว และเครื่องเสียง BOSE premium sound system มาพร้อมด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง Hyundai SmartSense เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ด้านสมรรถนะโดดเด่นด้วยการขับเคลื่อนของ มอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลัง 229 แรงม้า 350 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่แบบ Lithium-Ion ขนาด 77.4 kWh ขับได้ไกลสุด 545 กม. ตามมาตรฐาน WLTP เปิดตัวราคาพิเศษเริ่มต้น 1,899,000 บาท (และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติภายใต้โครงการ EV 3.5)
BYD Seal Premium ราคา 1,449,000 - 1,599,000 บาท
BYD SEAL รถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัว 3 รุ่นย่อย พร้อมกับให้ออปชั่นครบถ้วนเทียบเท่าทุกรุ่น จุดเด่นคือ เป็นรถยนต์ซีดานไฟฟ้าแบบบ้าน ๆ ที่ดันมีคาแร็คเตอร์ "ท้ารบ" ตลอดเวลา แม้จะตั้งใจให้เป้นรถยนต์ครบครัวใช้งานทั่วไป แต่ด้วยณูปทรงออกไปทางสปอร์ตคล้ายซูเปอร์คาร์และยังมีพลังของรุ่นย่อยบางรุ่นมีตัวเลขแรงม้าเยอะ ทำให้ถูก "ท้าชิง" เกือบตลอด ทั้งที่จริง "SEAL" อาจไม่ได้ตั้งใจจะออกมาเป็นรถสปอร์ตขนาดนี้ แค่เน้นใช้งานการขับขี่ที่สนุกสนานเท่านั้น มาถึงพลังมอเตอร์ที่มี 3 แบบให้เลือกตามรุ่นย่อย
AWD PERFORMANCE Dual Motor 530 HP Range 580
Dual mortor 214+308 พลังรวมทั้งระบบ 530 แรงม้า แรงบิด 670 นิวตันเมตร 0-100กม./ชม. ใน 3.8 วินาที แบตเตอรี่ 82.56 kWh วิ่งได้ 580 ต่อชาร์จ DC รองรับ 150 Kw ช่วงล่างแปรผันตามความเร็ว น้ำหนัก 2,185 กก. ล้ออัลลอย 19 นิ้ว ยางจาก Continential
Premium RWD 313 HP Range 650
ขับเคลื่อนล้อหลัง 313 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที แบตเตอรี่ 82.56 kWh วิ่งได้ 650 กม. ต่อชาร์จ DC รองรับ 150 Kw น้ำหนัก 2,055 กก. ล้ออัลลอย 19 นิ้ว ยางจาก Continential
Dynamic RWD 204 HP Range 510
ขับเคลื่อนล้อหลัง 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร 0-100 กม./ชม. ใน 7.5 วินาที แบตเตอรี่ 61.44 kWh วิ่งได้ 510 กม. ต่อชาร์จ DC รองรับ 110 Kw น้ำหนัก 1,922 กก. ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ยาง GITI
Changan Lumin
LUMIN ที่เป็นดาวเด่นของงานนี้ ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ ด้วยขนาดที่กะทัดรัดและเทคโนโลยีล้ำสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มอบประสบการณ์การขับขี่ที่คล่องตัว มาพร้อมกับแบตเตอรี่ CATL วิ่งได้สูงสุด 301 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จแบบกระแสตรง DC เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้งาน และด้วยรูปทรงที่น่ารักมาพร้อมสีสันสดใส ทำให้ LUMIN เป็น EV City Car ที่โดดเด่นและน่าจับตามอง
BMW iX2 xDrive30 M Sport ราคา 3,399,000 บาท
BMW iX2 xDrive30 M Sport ใหม่ รถยนต์อเนกประสงค์แบบคูเป้
(Sports Activity Coupé – SAC) โดยช่วงหน้ารถโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ ‘Iconic Glow’ ที่มาพร้อมไฟส่องสว่าง
"จมูกโต" ไฟหน้าคู่แบบใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับไฟส่องสว่างในเวลากลางวันในดีไซน์แบบ 4 ดวง พร้อมระบบ Adaptive LED ชุดแต่ง M Sport ล้ออัลลอย M ขนาด 20 นิ้ว ลาย V-spoke 873 แบบสลับสี
ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว ตัวหนึ่งที่เพลาหน้าและอีกตัวหนึ่งที่ด้านหลัง กำลังรวมของระบบที่ 230 กิโลวัตต์/313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 494 นิวตันเมตร รถรุ่นนี้สามารถเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 5.6 วินาที สู่ความเร็วสูงสุดที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยพลังจากชุดแบตเตอรี่แรงดันไฟฟ้าสูงที่ติดตั้งอยู่ใต้ตัวถังรถ ความจุพลังงานสุทธิ 66.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งทำให้บีเอ็มดับเบิลยู iX2 xDrive30 M Sport มีระยะการขับขี่ถึง 417- 449 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จแบบกระแสตรง (DC) สูงสุด 130 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จจาก 0-80% ได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 29 นาที ในขณะที่รองรับการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC) สูงสุด 22 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% ในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง 45 นาที
NETA V II
NETA V II รถยนต์ไฟฟ้าที่หลายคนรอคอยรุ่นประกอบในประเทศไทย มีคันจริงให้ชมแล้วโดยมีการปรับปรุงไม่มากนัก แต่ก็นับว่าเป็นไมเนอร์เชนจ์เล็ก ๆ เริ่มด้วยกระจังหน้าใหม่ลายตาข่ายดูหรูหราขึ้นกว่าเดิม ไฟท้ายลายใหม่พร้อมเส้นไฟยาวพาดเชื่อมถึงกัน และติดตั้งที่ปัดน้ำฝนกระจกหลังเพื่อประชาชนคนไทยโดยเฉพาะ มาพร้อม 3 สี สำ-ภายในดำ, สีฟ้า-ภายในฟ้าสลับขาว และสีครีม-ภายในครีมสลับดำ พร้อมติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่อีกชุด "ADAS" และ Adaptive Cruise Control แบต 36.1 kW วิ่งไกล 382 km. ชาร์จ DC ราคาคาดการณ์จำหน่าย 569,000 บาท และอีกรุ่นเริ่มต้นที่ไม่มีระบบ ADAS ราคาเพียง 549,000 บาท
The Kia EV5
The Kia EV5 วางจำหน่ายในประเทศไทยถึง 4 รุ่น คือ
The Kia EV5 Light และ
The Kia EV5 Air แบตเตอรี่ขนาด 64.2 กิโลวัตต์/ชั่วโมง มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้าขนาด 160 กิโลวัตต์ โดยทั้งรุ่น Light และรุ่น Air ใช้มอเตอร์ 217 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ระยะทางตามมาตรฐาน NEDC สูงสุดถึง 490 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ในเวลา 8.5 วินาที ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ความปลอดภัยมากมาย ได้แก่
- ระบบเบรก ABS+EBD พร้อมระบบ Multi-Collision Brake (MCB)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC)
- เซ็นเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (LFA และ LKA)
- ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (FCAA) พร้อม Junction Assist
- ระบบควบคุมความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติ Smart Cruise Control with Stop & Go
โดยในรุ่น The Kia EV5 Air ยังมีระบบฟีเจอร์เพิ่มเติมอื่นๆ อาทิ ซันรูฟแบบ Panoramic, ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Electric Tailgate), ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger) และระบบแสดงภาพรอบทิศทาง Surround View Monitor (SVM)
The Kia EV5 รุ่น
Earth Long Range มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 88.1 กิโลวัตต์/ชั่วโมง และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 160 กิโลวัตต์เช่นเดียวกับ 2 รุ่นแรก วิ่งได้ 665 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC) และสำหรับ
The Kia EV5 Earth Exclusive AWD ซึ่งเป็นรุ่นท็อป ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 88.1 กิโลวัตต์/ชั่วโมง มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ให้กําลังรวมถึง 308 แรงม้า หรือ 230 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุดถึง 480 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. เพียง 6.1 วินาที สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 620 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตาม (NEDC) รองรับการชาร์จไฟฟ้าแบบรวดเร็ว 141 kW (ผ่าน DC Fast Charge) โดยมีระยะเวลาในการชาร์จจาก 10 - 80% เวลาเพียง 38 นาที
โดยทั้งคู่มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว เพิ่มระบบความปลอดภัยอีกเพียบ
- ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ซึ่งทำงานร่วมกับระบบป้องกันการชนขณะถอยหลัง (RCCA)
- ระบบป้องกันการชนจากมุมอับสายตาขณะแซง (BCAA)
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ (BVM)
- ระบบ Smart Cruise Control (SCC) พร้อม Stop & Go รวมไปจนถึงระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (LFA และ LKA) ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาระยะห่างกับรถยนต์คันหน้าอย่างเหมาะสม ช่วยให้รถยนต์วิ่งอยู่ตรงกลางของช่องจราจร และช่วยเหลือผู้ขับขี่ขณะเปลี่ยนช่องจราจร ยิ่งไปกว่านี้ยังมีระบบช่วยเหลือเพื่อความปลอดภัยขณะลงจากรถ (Safe Exit Assist) อีกด้วย
นี่คือส่วนหนึ่งของรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (ที่เยอะขึ้นเรื่อย ๆ) น่าสนใจในงาน Motor Show 2024 ครั้งนี้ หลังจากนี้อาจยังมีอีกหลายรุ่นเปิดตัว ใครกำลังเล็งอยู่ ค่อย ๆ คิด ศึกษากันไป ส่วนใครเปิดใจกับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าแล้วนั้น ก็เลือกที่ชอบและตรงกับความต้องการใช้งานและงบประมาณที่มีแบบไม่เดือดร้อน จะได้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างสบายใจ