เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) หนึ่งในบริษัทที่เป็นผู้นำด้านยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย และยังเป็นบริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก โดยภายในประเทศไทยก็ได้มีการเปิดตัวแบรนด์รถยนต์ภายในประเทศไทย ประกอบด้วย
HAVAL,
GWM TANK และ
ORA ซึ่งแบรนด์ ORA เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า โดยได้เปิดตัว
Good Cat,
Good Cat GT และมีการเปิดตัว
07 เป็นรุ่นล่าสุด โดย GWM ได้เร่งส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูงรุ่นเรือธงใหม่ล่าสุดให้กับลูกค้าทั่วประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
ORA 07 มีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น
LONG RANGE (ราคา 1,299,000 บาท) ที่ให้กำลัง 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 340 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งได้ระยะสูงสุด 640 กิโลเมตร (ตามาตรฐาน NEDC) และ รุ่น
PERFORMANCE (ราคา 1,499,000 บาท) ที่ให้กำลัง 300 กิโลวัตต์ หรือ 408 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 680 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งได้ระยะสูงสุด 550 กิโลเมตร (ตามาตรฐาน NEDC) โดยแบตเตอรี่ของทั้ง 2 รุ่นมีความจุ 83.499 kWh และจะมาพร้อมการรับประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือระยะทาง 180,000กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) รวมถึงอื่น ๆ อีกหลายรายการ ทั้งยังมากับการออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากความงามแห่งธรรมชาติผสมผสานกับความสปอร์ต
ซึ่งนอกจากการรับประกันคุณภาพจากทางแบรนด์ผู้ผลิตแล้วรถยนต์ไฟฟ้าไม่ว่าจะแบรนด์ไหน ๆ ก็ต้องมีการทำประกันภัยเพื่อรองรับความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ โดนประกันภัยภาคบังคับนั้นเป็นสิ่งที่รถยนต์ทุกคันจะต้องมีตามที่กฎหมายกำหนด แต่ประกันภาคสมัครใจนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้เป็นเจ้าของรถยนต์คันนั้น ๆ ที่จะเลือกทำได้ตามความพึงพอใจ แต่เพราด้วยความที่รถยนต์ไฟฟ้านั้นมีค่าซ่อมบำรุงที่สูง เนื่องจากเมื่อมีความเสียหายกับตัวแบตเตอรี่อาจต้องมีการเปลี่ยนแบบยกลูกเลยทีเดียว นั่นก็ทำให้ราคาค่าเบี้ยจึงมีราคาสูงกว่ารถยนต์ทั่วไปที่ใช้เครื่องยนต์นั่นเอง ในส่วนของประกันภัยภาคสมัครใจของ ORA 07 นั้นจะมีราคาเท่าไหร่บ้างไปดูกัน
โดยรถ ORA 07 ทุกคันเมื่อซื้อจะได้ประกันภัยชั้น 1 โดย บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งจะมีมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท (ข้อกำหนดและเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) หลังจากนั้นในปีที่ 2 ก็จะมีราคาคาดการณ์อยู่ที่ประมาณ 26,000-29,000 บาท แต่นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทฯ อื่น ๆ ให้ได้เลือกกัน (เป็นการค้นหาจากเว็บไซต์ของบริษัทประกันภัย)
เมืองไทยประกันภัย
เริ่มกันที่ เมืองไทยประกันภัย นั้นก็มี ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจุดเด่นของประกันจากบริษัทนี้คือ ความคุ้มครอง ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 7 ที่นั่ง โดยจะให้ความคุ้มครองดังนี้
- ความรับผิดต่อชีวิต/ร่างกายของบุคคลภายนอก สูงสุด 10,000,000 บาท
- ความรับผิดต่อรถเอาประกันภัยกรณีชนกับยานพาหนะ, สูญหาย, ไฟไหม้ ตามทุนประกัน
- คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล, ค่ารักษาพยาบาล 100,000 บาท ต่อคน
พร้อมความคุ้มครองหลักทรัพย์ประกันตัวผู้ขับขี่ 300,000 บาท ต่อครั้ง คุ้มครองครอบคลุมไปถึงภัยก่อการร้าย รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่ง ถึงแม้จะไม่มีราคาบอกไว้ในเว็บไซต์ แต่ก็สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเต้มได้ที่ Call Center 1484
ประกันภัยไทยวิวัฒน์
เป็นอีกหนึ่งบริษัทประกันภัยที่มีบริการสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมโปรโมชั่น โดยมีเงื่อนไขดังนี้
- สำหรับลูกค้าที่ขับรถยนต์ EV ทำรายการซื้อประกันรถเปิดปิด EVแบบ Package 4 เดือนขึ้นไป หรือ แบบ Top-up แผน 1 ปี (365วัน) หรือ แบบ Home Plus เป็นครั้งแรก ผ่านช่องทาง Call Center 02-200-7000 หรือ เว็บไซต์ www.thaivivat.co.th ที่ผ่านการพิจารณารับประกันภัย และชำระค่าเบี้ยประกันภัยครบจำนวน ตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. 66 – 31 มี.ค. 67 เท่านั้น
- เมื่อชำระค่าเบี้ยประกันภัยครบจำนวนแล้ว สามารถตรวจสอบสิทธิ์หรือยืนยันการรับสิทธิ์ รับรหัส e-Voucher EA Anywhere ได้ที่ แอปพลิเคชัน Thaivivat สำหรับลูกค้าที่ซื้อวันที่ 13 ธ.ค. 66 – 31 มี.ค. 67 ตรวจสอบสิทธิ์หรือยืนยันการ รับรหัส e-Voucher EA Anywhere ได้ถึงวันที่ 30 เม.ย. 67
- สำหรับประเภทความคุ้มครองชั้น 1 ตรวจสอบสิทธิ์หรือยืนยันการรับสิทธิ์ ได้ตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. 66
- สำหรับประเภทความคุ้มครองชั้น 2+, 3+ ตรวจสอบสิทธิ์หรือยืนยันการรับสิทธิ์ ได้ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 66
- เงื่อนไขเป็นไปตามกรมธรรม์ประกันภัยผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขกรมธรรม์ก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
- ช่องทางการขาย Call Center 02-200-7000, E-commerce: www.thaivivat.co.th
แอกซ่าประกันภัย
สำหรับประกันภัยชั้น1 สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทนี้ มีจุดเด่นอยู่ที่ ให้ความคุ้มครองเต็มที่, ซื้อผ่านออนไลน์ง่าย ๆ ภายใน 3 นาที รับกรมธรรม์ทันทีผ่านอีเมล, คุ้มครองทุกภัยทั้งรถ-ผู้ขับขี่-ผู้โดยสาร และคู่กรณี, คุ้มครองทั้งรถสูญหาย-รถไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ, พิเศษ ความคุ้มครองความเสียหาย หรือสูญหายต่อเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน / สายชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า, พิเศษ ความรับผิดต่อบุคคลภายนอกจากอุบัติเหตุเนื่องจากการใช้งานเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน และสถานีชาร์จสาธารณะ, เลือกซ่อมศูนย์ (ซ่อมห้าง) สำหรับรถยนต์อายุไม่เกิน 5 ปี, ประหยัดกว่ากับส่วนลดเบี้ยประกัน เมื่อเลือกแบบระบุผู้ขับขี่, คุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมมาตรฐานจากโรงงาน สูงสุดถึง 20,000 บาท/ครั้ง, ฟรี! บริการตรวจสภาพรถ, ฟรี! แอกซ่า โรดไซด์ เซอร์วิส บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทุกที่ทุกเวลา ตลอด 24 ชม. และ สิทธิพิเศษ AXA 4 U ไม่หักค่าเสื่อมราคา 4 รายการหลัก ในกรณีอุบัติเหตุที่เกิดความเสียหายต่อยาง แบตเตอรี่ (ยกเว้นระบบไฟฟ้า/ไฮบริด) น้ำมันเครื่อง สารหล่อลื่น สารหล่อเย็นของระบบแอร์ วิทยุ และเครื่องเสียงที่ติดตั้งมาจากโรงงานผลิตรถยนต์ และยังมีโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 1 ออนไลน์ รับส่วนลด 15% ทันที ใส่โค้ด AXAEV (มีกล้องติดรถยนต์ลดเพิ่มอีก 5%)
เทเวศประกันภัย
ความคุ้มครอง ประกันชั้น 1 รถไฟฟ้า EV ของเทเวศประกันภัย นั้นมีจุดเด่นอยู่ที่
- ความคุ้มครองหลากหลายรุ่น ซึ่งความครอบคลุมรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขายอยู่ในตลาดตอนนี้แบบ 100% ไม่ว่าจะเป็น GWM, VOLVO, MG, BYD, Nissan, Fomm, HYUNDAI, KIA และในอนาคตหากมีรุ่นอื่น ๆ ออกมาก็จะนำมาเสริมในกรมธรรม์
- ในส่วนเบี้ยประกันก็ไม่ได้สูงกว่าราคากลางในท้องตลาด ใครที่กำลังมองหาประกันที่จ่ายเบี้ยไม่แพง นี่จะเป็นการเลือกประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มค่า เหมาะสมกับราคารถยนต์แต่ละรุ่น
- นอกจากจะให้ความคุ้มครองตัวรถ ยังให้ความคุ้มครอง wall box ฟรี 1 ปี ในกรณีที่เกิดสูญหาย หรือไฟไหม้ คุ้มครองสูงสุดมากถึง 50,000 บาท เมื่อคุณได้ทำการซื้อประกันออนไลน์กับทาง SCB Protect เป็นความคุ้มครองพิเศษที่ต่างจากประกัน EV ปกติ
- มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน, รถยก หากแบตเตอรี่หมด หรือรถเสียขัดข้อง สำหรับ ระยะทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร หรือไม่เกิน 1,500 บาท/ครั้ง ฟรี (ระยะทางส่วนเกินมีค่าบริการ 30 บาท/กิโลเมตร)
- รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม อาทิ บริการจัดส่งช่างเทคนิคซ่อมฉุกเฉิน กรณีพ่วงเตออรี่ และเปลี่ยนยางกรณีมียางอะไหล่ ตามค่าใช้จ่ายจริงหรือไม่เกิน 1,500 บาท (ส่วนเกินผู้ใช้รถเป็นผู้รับผิดชอบ)
- มีบริการให้คำปรึกษาด้านเทคนิคและบริการประสานงานช่วยเหลือรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนตลอด 24 ชม. ทั่วประเทศ
และนี่ก็เป็นแค่ตัวอย่างความคุ้มครองประกันภัยของ บริษัทประกันภัยต่าง ๆ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ORA 07 ซึ่งยังมีอีกหลายบริษัทที่รับทำประกันภัยของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ แต่ก็มีบางส่วนที่ยังไม่รับทำประกัน ฉะนั้นควรติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ของบริษัทนั้น ๆ เพื่อใช้ประกอบการเลือกประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าดีที่สุดสำหรับคุณ ดังนั้น ควรศึกษาให้ชัดเจนในแต่ละกรมธรรม์ ของแต่ละบริษัท เพื่อที่จะได้รับการประกันภัยที่ดีที่สุด, คุ้มครองครอบคลุมที่สุด อย่าเอาแต่ราคาถูกนะครับ