เรียนซูบารุที่เคารพ......
Subaru Forester นับเป็นรถยนต์ครอบครัว SUV อเนกประสงค์ที่โดดเด่นเด่นในด้านสมรรถนะของระบบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลอดเวลา เน้นการขับขี่ที่ปลอดภัยมั่นใจในทุกสภาพถนน เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ (นอนยัน) จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำหมายถึงเสถียรภาพการทรงตัวที่ดีขึ้น และการสั่นสะเทือนที่น้อยลง การสั่นที่น้อยลงจะช่วยให้คุณควบคุมรถยนต์ได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร พร้อม
X-MODE กับมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 6 ดาว จากหลายสถาบันทั้ง JNCAP, EURO NCAP เป็นต้น
และยังมีระบบช่วงเหลือการขับขี่อีกเพียบ เช่น
Subaru Active Torque Vectoring ช่วยแปรผันแรงบิดล้อทั้ง 4 ตามการสภาพถนน และยังมีระบบ
EyeSight 4.0 ช่วยขับขี่ทั้ง ระบบไปและหยุดอัตโนมัติตามคันหน้า, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ, ระบบบังคับพวงมาลัยฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติ, ระบบป้องกันการออกนอกเลน เต็มระบบ และมีให้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น พร้อมกับราคาแนะนำ
Forester 2.0i-L EyeSight -1,185,000 บาท และ
Forester 2.0i-S Eyesight - 1,285,000 บาท แต่ ถ้าชอบแบบแต่งครบจบ เพิ่มเติมด้วยชุดแต่งแท้ ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง GTLite ราคา 70,000 บาท
- กล้อง360 องศา (AVM)
- ชุดสเกิร์ตรอบคัน
- สปอยเลอร์หลังคา
- ปลายท่อสแตนเลส
ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง GT จัดเต็มทุกจุดในราคา 110,000 บาท
- กล้อง360 องศา (AVM)
- ชุดสเกิร์ตรอบคัน
- สปอยเลอร์หลังคา
- ล้อ GT ขนาด 18 นิ้ว
- เบาะหนัง GT
- ปลายท่อสแตนเลส
ความจริงข้างต้นนั้นนับว่าเป็นรถที่ให้ความมั่นใจในการขับขี่สูงมาก และมีระบบความปลอดภัยที่แม่นยำ และยังให้ความรู้สึกสนุกสนานและท้าทายเวลาขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อดังที่กล่าวมาทั้งหมด แต่ว่า....ปัจจุบันมีคู่แข่งเกิดใหม่มากมาย ทั้งรถยนต์ C-SUV ที่เทียบเคียงกันโดยตรง ซึ่งใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบช่วงล่างเหมือนกันไม่แตกต่างแล้ว ในบางรุ่นก็มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ถึงแม้จะเป็นระบบที่แตกต่างจากเครื่องยนต์จุดศูนย์ถ่วงต่ำ BOXER ของ ซูบารุ และระบบ Symmetrical All-Wheel Drive แต่รถยนต์คู่แข่งหลาย ๆ รุ่น มีฟังก์ชั่นความสะดวกสบายแบบจัดเต็มมากขึ้น เพราะแค่การขับขี่มั่นใจอย่างเดียวอาจไม่พอแล้ว ต้องมีออปชั่นล้นคันในราคาจับต้องได้ง่ายอีกด้วย!
สมรรถนะดีอย่างเดียวอาจไม่พอ.......
สำหรับสมรรถนะที่โดดเด่นในเรื่องการทรงตัว ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมลุยไม่ได้แพ้รถประเภท PPV แต่ด้วยปัจจุบัน มีรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัวมากขึ้น ทั้ง SUV ระบบไฮบริดหรือไฟฟ้าล้วน 100% ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้
Forester ดูดร็อปลงไปก็คือ ออปชั่นใช้งานในชีวิตประจำวันที่ลูกค้ามีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ใน Subaru Forester ใหม่นั้น มีการปรับโฉมภายนอกเล็กน้อยให้หน้าตาทันสมัยขึ้น แม้รูปลักษณ์ยังคงความอมตะในสไตล์ยุค 90' แต่ความสะดวดสบายกลับถูกมองข้ามไป สิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่มีอยู่ในโฉมปัจจุบันนั้น แทบจะมีอยู่ในรุ่นก่อนหน้าเกือบหมด ยกเว้นระบบ EyeSight 4.0 ที่ติดตั้งเพิ่มมาให้เทียบเท่ารุ่นที่จำหน่ายทั่วโลก
ส่วนอื่นๆ แม้จะเป็นระบบที่ล้ำสมัยในช่วง 2 - 3 ปีก่อนหน้านี้และมีให้เพียงพอต่อการใช้งานได้แล้ว แต่อาจจะกลายเป็นรถที่มีออปชั่นธรรมดาพื้นฐานในยุคปัจจุบันที่มีรถยนต์จากจีนเข้ามาจำหน่ายและอัดแน่นของเล่นเต็มคัน จนทำให้ค่ายญี่ปุ่นและยุโรปเริ่มระคายเคือง จนรถหลายรุ่นก็เริ่มปรับออปชั่นยัดใส่เข้าไปให้เหนือกว่าหรือเทียบเท่า
เพิ่มออปชั่น-เพิ่มแรงจูงใจ
ปัจจุบันออปชั่นใน
Forester ก็ไม่ได้น้อยหน้าใคร มีให้ใช้งานได้อย่างลงตัวเหมาะสมอย่างเช่น ระบบรีโมทอัจฉริยะ เพียงแตะมือจับประตูเพื่อเปิดล็อคหรือสัมผัสเบา ๆ ที่มือจับด้านนอกเพื่อล็อคประตู อันนี้ยังคงทัยสมัยให้มาตั้งแต่รุ่นก่อนหน้านี้แล้ว ระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ ประตูท้ายแบบไฟฟ้าพร้อมปุ่มล็อคหลังจากใช้งานเสร็จ อันนี้ก็นับว่ายังได้อยู่
ภายในดีไซน์แบบรถสปอร์ตมองปุ๊บรู้ทันที่ว่านี่คือ "ซูบารุ" พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นที่มีปุ่มควบคุมเยอะมาก ทั้งเปิด-ปิดระบบควบคุมความเร็วแปรผัน ตั้งระยะห่าง ตั้งค่าความเร็วที่ล็อคไว้ ปุ่มเครื่องเสียงรับ-วายลาย และยังมีปุ่มเลือกการแสดงหน้าจออันบนตรงคอนโซลหน้า ใช้ควบคุม เปิด-ปิดระบบต่างของรถยนต์ รวมถึงตั้งค่าต่าง ๆ ที่ต้องการ แม้จะใช้งานไม่ค่อยถนัด แต่ก็นับว่าเป็นลูกเล่นที่มีให้ในรถยนต์สไตล์ Off-Road
แพดเดิ้ลชิพหลังพวงมาลัยปรับเปลี่ยนจังหวะเกียร์ CVT ได้ตามต้องการ ถัดมาคอนโซลกลางจะเจอปุ่มต่าง ๆ ที่เพิ่มความสะดวกสบายด้วยเบรกมือไฟฟ้าและ Auto hold ที่มีให้ก่อนรถยนต์หลายรุ่นที่ราคาใกล้เคียงกันด้วยซ้ำ และด้วยความเป็นรถเกิดมาพร้อมลุยจึงมีสวิตช์เลือกโหมดการขับขี่แบบ Off-Road หรือ X-MODE เพื่อให้ขับผ่านอุปสรรคที่โหด ๆ ได้ด้วยระบบดริฟล็อคเฟืองท้ายหน้า-หลังและกระจายกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ให้สมดุล เพื่อให้ผู้ขับขับผ่านไปโดยแทบไม่ต้องใช้ทักษะมากนักในการลุยเส้นทางสุดโหด
ทัศนวิสัยโปร่งโล่งสบายขับง่ายแม้คนตัวเล็ก ๆ กระจกบานหน้า ด้านข้าง และด้านหลังมีความใหญ่กว้าง ทำให้ไม่ว่าจะนั่งในตำแหน่งหรือระดับใด ก็สามารถมองรอบ ๆ คันได้อย่างชัดเจนลดจุดอับสายตา โดยกระจกเล็ก ๆ ตรงประตูคู่หน้าที่เรียกกันว่า "หูช้าง" เป็นอีกจุดที่ทางซูบารุให้ความสำคัญในการมองเห็นมุมที่กำลังจะเลี้ยวได้เพิ่มขึ้น ผ่านช่องระหว่างกระจกมองข้างกับตัวรถ
จอบันเทิงตรงกลาง 8 นิ้วมีขนาดไม่ใหญ่มากนักเมื่อเทียบกับขนาดห้องโดยสารถือว่า "เล็กไปหน่อย" และเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วยการใช้สาย USB-A อยู่ หากภายในยกชุดมาจากใน outback จอตั้งใหญ่เต็มตาจะยิ่งเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น ปรับปรุงระบบกล้องแสดงภาพให้คมชัดขึ้น แต่ก็ยังมีระบบความปลอดภัยซ่อนอยู่คือ เมื่อจอดรถดับเครื่องยนต์แล้ว บนจอจะแสดงภาพด้านข้างรถให้ก่อนลงจากรถอีกด้วย แต่ภาพก็ไม่ค่อยชัดเช่นกันครับ
ในภายรวมอาจดูว่ามีครบเพียงพอแล้ว ในหากมีการปรับเพิ่มอีกจะยิ่งทำให้คุ้มค่ากว่าเดิม เช่น
- กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ แทนปรับมือ
- ระบบเชื่อมต่อมาร์ทแบบไร้สายต้องมาแล้ว
- ซันรูฟจะมีเพิ่มหรือไม่ก็ได้แต่ราคาต้องไม่หนีจากเดิมมาก
- Wireless changer
- เพิ่ม USB-C
- ติดตั้งระบบลำโพงพรีเมี่ยม
- ประตูท้ายแบบ Hand Free
- อับเกรดกล้องแสดงภาพรอบคันชัดขึ้น
- เบาะไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ซึ่งถ้าในประเทศไทยยังคงขายโฉมนี้อยู่ก็อาจจะเลือกที่จะติดตั้งเพิ่มเต็มเข้าไปในการปรับโฉมเล็กในครั้งหน้าและทำราคาไม่ให้ข้าม 1.6 - 1.7 ล้านบาท ส่วนถ้าจะขยับไปเปิดรุ่นใหม่ All-New Subaru Forester โฉมปี 2024 ที่เปิดในสหรัฐฯ เลยก็ยิ่งดี
ภายใน Outback 2.5 i-T
จะไป....สันดาปล้วน-ไฮบริด-เทอร์โบดี
ด้านขุมพลังในโฉมนี้จัดว่าเริ่ม โบราณแล้ว แม้จะเป็นเครื่องยนต์สูบนอน กระจายน้ำหนักดี ฯลฯ แต่ด้วยในยุคที่นิยมความประหยัด เชฟค่าน้ำมัน และลดมลพิษของมาตรฐาน EURO 5 มองว่าเจ้าเครื่อง FB20 อาจมีเรี่ยวแรงฟัดกับคู่แข่งลำบากทั้งเรื่องอัตราเร่งและความประหยัดน้ำมัน
ซูบารุ ฟอร์เรสเตอร์ เองมีเครื่องยนต์รุ่นน่าสนใจทั้งใน
Outback และที่จำหน่ายในต่างประเทศ อย่างเช่น เครื่องยนต์ FB25 ขนาด 2.5 ลิตร 188 แรงม้า เพราะมองว่า Outback ค่าตัวค่อนข้างสูงมากในการนำเข้าทั้งคันจากญี่ปุ่น หรือในญี่ปุ่นเองก็มีรุ่นสปอร์ตเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เทอร์โบแรง ๆ ไปเลย เหมือนในโฉมเจนฯ 4 รุ่น 2.0 XT ที่เคยจำหน่ายในไทยด้วย ให้ครบองค์ประกอบของความเป้น "เจ้าป่า-เจ้าเขา" และ เจ้าแห่งเทคโนโลยีระดับ WRX รถตัวแข่ง WRC ไปเลยครับ
เครื่องใน WRX
สำหรับระบบไฮบริดนั้น ทางซูบารุอาจยังพัฒนาและมีติดตั้งรุ่น
XV ในชื่อ Crosstrek Hybrid หรือ e-BOXER ที่เน้นประหยัดไปเลย แต่สำหรับมุมมองส่วนตัวแล้ว ซูบารุคือ "รถสมรรถนะสูง" เอาแค่อับเกรดออปชั่นในรุ่นปัจจุบันแล้วก็เพิ่ม "ตัวจี๊ด" 1.8 ลิตรเทอร์โบ ราคา 1.7 ล้านบาท ออกมาให้ขย่มเล่น น่าจะเหมาะสมกับความเป็นรถค่ายดาวลูกไก่มากกว่าครับ
SUBARU WRX
บทส่งท้าย....จากใจคนชอบ Subaru ตั้งแต่เด็ก!
Subaru เป็นรถที่เน้นสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีมากโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง รถ SUV รถสปอรืต หรือรถเพื่อใช้แข่งขันที่ผ่านเส้นทางสุดโหดในรายการ Rally ระดับโลก WRC มาแล้วจนถึงปัจจุบัน เป็นการบ่งบอกว่า เค้าคือ "KING of AWD" ไปแล้ว (หลังจากทาง Mitsubishi ม้วนเสื่อให้กับการพัฒนา EVO รุ่นใหม่ไปก่อนแล้ว) และทางซูบารุยังคงต้องให้น้ำหนักในการพัฒนาด้าน สมรรถนะการขับขี่ให้แรงและประหยัดกว่าเดิม พร้อมกับเพิ่มเติมฟังก์ชั่นที่ดี ๆ และที่สำคัญขยายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อให้ซูบารุยังครองใจคน "บ้ารถ" ในประเทศไทยได้ต่อไปอีกนาน ๆ
บทความเกี่ยวข้อง