เชื่อว่าหลายคนคงเตรียมแผลนเที่ยวช่วงปลายปี ลาพักร้อนขับรถหนี PM2.5 ในเมืองไปรับลมหนาวบนดอย ชาร์จแบตฯ ให้ใจฟูเติมไฟให้กับชีวิตหลังจากทำงานหนักมาทั้งปี โดยครั้งนี้ผมเลือก
Nissan Terra 2.3 VL Sport ขับขึ้นเหนือรับลมหนาว
"ภูชี้ฟ้า" และต่อด้วย
"ผาฮี้" พร้อมแวะแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน, พระธาตุดอยตุง, ไร้ชาฉุยฝง รวมกว่า 2,000 กม. กลับค่าน้ำมันไม่เกิน 5,000 บาท!
ทริปสัมผัสลมหนาวเริ่มต้นจากการรับรถ
Nissan Terra 2.3 VL 4WD รุ่นแต่ง Sport
ราคา 1.555 ล้านบาท จากตึกรับรถถนนสาทรและกลับมาเตรียมตัวออกเดินทางจากที่พักโซนรามอินทรา-วัชรพล โดยทริปนี้ได้จองที่พักล่วงหน้าเอาไว้เรียบร้อย (ใครจะเดินทางช่วงใกล้ปีใหม่อาจจะต้องจองล่วงหน้า) วางแผนการเดินทางแบบคร่าว ๆ จุดหมายคือ ภูชี้ฟ้า และ ผาฮี้ โดยแวะพักเชียงใหม่ 1 คืน ก่อนขับขึ้นเชียงรายมุ่งหน้าภูชี้ฟ้า-ผาฮี้ และกลับมาพักเชียงใหม่อีก 1 คืน ก่อนกลับกรุงเทพฯ รวมระยะทางทั้งหมด 2,000 กว่ากม. และเดินทาง 2 คน พร้อมสัมภาระเล็กน้อย เลือกวันธรรมดากลางสัปดาห์ที่ไม่ติดวันหยุดยาว รถโล่ง ๆ คนน้อย เดินทางสบาย ๆ
ภูชี้ฟ้า-ชมพระอาทิตย์ขึ้น
ขับรถจากกรุงเทพฯ เดินทางถึงที่พัก Bedgasm ตัวเมืองเชี่ยงใหม่ไหน ๆ ก็มาแถวนี้ขอแวะร้าน "ต๋องเต็มโต๊ะ" อาหารเหนือรสชาติดี บรรยากาศแบบชาวเหนือ และของหวานต้อง "มนต์นมสด" ของดังเมืองเชียงใหม่ก่อนเดินทางในเช้าวันถัดไป
ก่อนออกเดินทางขับขึ้นที่พักบนภูชี้ฟ้าจังหวัดเชียงราย แวะทานอาหารเช้ากับกาแฟร้าน "อรุณสวัสดิ์" เมนู ไข่กระทะ โจ้ก ออมเล็ต กาแฟ และเดินทางโดยใช้เส้นทาง อุทยานแห่งชาติ ขุนแจ-อ.เวียงปาเป้า เข้าสู่เชียงรายและใช้เส้นทาง ผ่านวัดร่องขุน, วัดขัวแคร่
แวะทานมื้อกลางวันร้าน "มาลองเต๊อะ" หลังจากนั้นมุ่งหน้าสู้ทางไป ภูชี้ฟ้า โดยใช้ถนนหมายเลข 1421 เป็นหลักจนไปเชื่อมกับถนน 4018 "ประตูสู่ภูชี้ฟ้า" โดยเส้นทางนี้จะผ่าน "สระมังกร ภูหลงถัง" "แพะหลังเขา" ผ่านถนน 1155 และ ถนน 1093 เข้าที่พัก "แคมป์ภูชี้ฟ้า" ตลอดเส้นทางเป็นทั้งในเมือง ชานเมือง หมู่บ้านเล็ก ๆ และขับผ่านลัดเลาะบนเขาที่บางช่วงแคบและชัน แต่ถนนค่อยข้างดี แต่แนะนำว่าไม่ควรขับช่วงมืดค่ำ เพราะจะอันตรายมากขึ้นครับ
แคมป์ภูชี้ฟ้า มีบริการห้องพักแบบเต็นท์และห้องน้ำครบ สะดวกสบาย พร้อมกับอาหารเช้า เมื่อมาถึงเช็คอินเรียบร้อยก็สั่งชุดจิ้มจุ่มเพิ่มเติมอีก 299 บาทต่อชุด นั่งกินริมเขาบรรยากาศดีกับอากาศเย็น ๆ ราว ๆ 21 องศา ฟินไปอีกแบบ สำหรับที่พักนี้ราคา 3,900 บาทต่อคืนพร้อมอาการเช้าแบบจุก ๆ มีที่จอดรถพร้อมและพนักงานต้อนรับพิเศษ "หมูหยอง" สุนัขโกลเด้นฯ ที่จะคอยต้อนรับแขกผู้เข้าพักด้านหน้าอีกด้วย
ห้ามพลาด! ชมพระอาทิตย์ขึ้นสวยจนหายเหนื่อย
ตี 5 วันถัดไปเตรียมตัวขึ้นอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า สามารถเลือกที่จะขับรถขึ้นไปเองหรือจะใช้บริการรถรับจ้างของชาวบ้านท้องถิ่นก็ได้ไปกลับคนละ 40 บาทเท่านั้น ซึ่งจะมาจอดรับเวลา 5.00 น. และ 5.30 น. โดยผมได้เลือกใช้บริการรถท้องถิ่นขึ้นไปส่งจุดจอดรถหลังจากนั้นต้องเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 700 กว่าเมตร จนถึงจุดสูงสุดชมวิว พร้อมกับบริการไฟฉายจากคุณลุงชาวบ้าน 20 บาท เพราะ ณ เวลานั้นทางเดินมืดมาก
เมื่อได้เวลาพระอาทิตย์ส่องแสง บอกเลยว่า "คุ้มค่า" กับการมาในครั้งนี้ นอกจากจะเห็นวิวภูมิประเทศของเพื่อนบ้านแล้ว ยังได้บรรยากาศชมพระอาทิตย์ขึ้น พร้อมกับหมอกหนาจัดและอากาศที่เย็นสบาย ทำให้หายเหนื่อยหลังจากที่เดินขึ้นมาทันทีครับ จุดที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ระหว่างกำลังเดินทางลงจากจุดชมวิวนั้นก็จะมีเด็ก ๆ แต่งตัวเป็นชาวดอยมาคอยยืนเต้นและร้องเพลงให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป นับเป็นการส่งเสริมให้มีรายได้เพิ่มอีกด้วย
และเมื่อเดินลงมาถึงจุดจอดรถก็เรียกใช้บริการรถท้องถิ่นเดินทางกลับที่พักได้สะดวกสบาย โดยปัจจุบันอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า เน้นให้ใช้บริการรถท้องถิ่นมากกว่ารถส่วนตัว เพราะในช่วงหน้าเทศกาลมักมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้การจราจรหนาแน่นเกินไปครับ หลังจากชมพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว กลับมาที่พักพร้อมกับทานมื้อเช้าชมวิวสวย ๆ ก่อนเดินทางต่อไปยัง ผาฮี้ ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย
ผาฮี้ หมูบ้านบนเขาบรรยากาศดี มีเสน่ห์มีเสน่ห์
ผาฮี้ หมู่บ้านของชาวอาข่า ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนตั้งใจจะมาสัมผัสบรรยากาศจิบกาแฟยามเช้า ที่ชาวบ้านเป็นคนปลูกเอง โดยหมู่บ้านผาฮี้ตั้งอยู่บนดอยสูงชัน การขับขึ้นมาอาจจะต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขึ้นลงทางชันพอสมควร ซึ่งการเดินทางจากฝั่งของภูชี้ฟ้ามาผาฮี้ใช้เวลานานพอสมควรราว ๆ 3 ชม. ลงจากยอดเขาสู่อีกยอดเขาหนึ่ง แต่ในระหว่างทางก็มีจุดที่ให้ได้แวะท่องเที่ยวก่อนขึ้นบนผาฮี้เช่น ไร้ชาฉุยฟง หรือ วัดพระธาตุดอยตุงที่สวยงามมาก ๆ
อีกจุดที่เป็นทางผ่านและน่าสนใจคือ "ฐานปฏิบัติการทหารดอยช้างมูบ" ซึ่งเป็นหน้าผาบนแนวสันเขาแบ่งเขตแดนไทย-พม่า และมีกองกำลังทางทหารประจำการเพื่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งได้จัดทำเป็นจุดชมวิว และที่กางเต้นท์ ดอยช้างมูบมักมีอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี และชมวิวได้แบบพาโนรามา
หลังจากนั้นก็เดินทางต่อไปอีก 3 กม. จากฐานปฏิบัติการทหารดอยช้างมูบก็ถึงทางเข้า บ้านผาฮี้ โดยที่พักที่ได้จองไว้คือ "กาแฟผาฮี้" กับราคาที่พัก 900 บาทต่อ 1 ท่าน พร้อมอาหารเย็นและมื้อเช้า ซึ่งผาฮี้เป็นหมู่บ้านที่อยู่บนเชิงเขาเป็นทางชันลักษณะภูมิประเทศคล้ายในประเทศเกาหลีใต้ จุดเด่นคือ วิวสวยของช่องระหว่างภูเขา 2 ลูก และหมอกยามเช้าพร้อมอากาศเย็นสบาย ได้สัมผัสหมอกบาง ๆ ที่เสริฟถึงหน้าห้องเลย
ไม่ไปไม่ได้!...ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน
ขับรถลงจากหมู่บ้านผาฮี้ผ่านจุดชมวิวผาหมี และแวะเที่ยวอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ที่ดังไปทั่วโลก ชมความยิ่งใหญ่และอลังการภายในถ้ำแห่งนี้ ซึ่งในวันที่เดินทางไปมีการจัดเตรียมสถานที่จัดงานของหน่วยงานภาครัฐฯ พอดีทำให้ที่จอดใกล้ด้านหน้าถูกปิดเอาไว้ จะต้องจอดรถในจุดที่มีรถรับจ้างของชาวบ้านเพื่อเดินทางไปยังปากทางเข้าอุทยานฯ ค่ารถไป-กลับคนละ 40 บาท และนั่งรถรางของอุทยานฯ เข้าไปอีกประมาณ 300 เมตร ก็ถึงทางเข้าถ้ำฯ
โดยปัจจุบันเปิดให้นักท้องเที่ยวเข้าชมได้เพียงโถ่งที่ 1 เท่านั้น เพราะอยู่ในช่วงกำลังปรับปรุงและปรับพื้นที่ให้สะดวกและปลอดภัย ก่อนจะเปิดให้เข้าชมในโถ่งถัดไป แต่แม้ว่าจะเข้าไปได้ไม่ลึกมากก็สัมผัสที่ความยิ่งใหญ่และลึกลับของถ้ำแห่งนี้ พร้อมกับมีการจัดแสดงอุปกรณ์ในการช่วยเหลือ "13 หมู่ป่า" ที่เคยติดอยู่ในถ้ำแห่งนี้นานถึง 18 วัน ของนานาประเทศที่ให้ความร่วมมือจนเด็ก ๆ ออกมาได้อย่างปลอดภัย
ระยะทางกว่า 2,000 กม. หมดค่าน้ำมันรถไม่เกิน 5,000 บาท
ทริปนี้ต้องขอบคุณ
Nissan Terra ใหม่ ที่พาเดินทางได้อย่างปลอดภัยและขับขี่สนุก สมรรถนะดี กำลังในการขับขึ้นลงเขาสบาย ๆ และให้ความประหยัดในแบบดีเกินตัวจากตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองบนมาตรวัดที่ทำได้สูงสุดมากถึง 18 กม./ลิตร* และต่ำสุดในช่วงขับขึ้นเขานั้นอยู่ที่ 12 - 14 กม./ลิตร* ซึ่งเฉลี่ยตลอดทริปคร่าว ๆ คือ 14 กม./ลิตร* นับว่าน่าพอใจสำหรับรถ PPV ไซต์ใหญ่ขนาดนี้
ก่อนกลับกรุงเทพฯ ขับจากถ้ำหลางขุนน้ำนางนอนเดินทางกลับสู่ที่พัก Dum Hotel ในตัวเมืองเชียงใหม่พักร่างอีก 1 คืน เพื่อแวะซื้อของฝาก "กาดต้นพยอมหรือตลาดต้นพยอม" สรุปรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดคร่าว ๆ ในทริปนี้
(*เป็นการประมาณจากค่าเฉลี่ยบนมาตรวัดเท่านั้น)
ที่พัก
- วันที่ 1 Bedgasm 1,090 บาท
- วันที่ 2 แคมป์ภูชี้ฟ้า 3,900 บาท (2 คน)
- วันที่ 3 ผาฮี้โฮมสเตย์(กาแฟผาฮี้ร่มแดง) 1,800 บาท (2 คน)
- วันที่ 4 Dum Hotel 1,650 บาท
รวมเป็น 8,240 บาท
ค่าน้ำมันรถ Nissan Terra ดีเซล B7 ความจุถังน้ำมันขนาด 78 ลิตร
- เติมเต็มถังที่มีอยู่แล้วจากกรุงเทพฯ 800 บาท
- เติมจุดที่ 1 อ.เถิน จังหวัด ลำปาง 1,330 บาท
- เติมจุดที่ 2 เชียงรายก่อนขึ้นภูชี้ฟ้า 800 บาท
- เติมจุดที่ 3 ลงจากภูชี้ฟ้าไปผาฮี้ 610 บาท
- เติมจุดที่ 4 อ.เถิน จังหวัด ลำปาง 1,330 บาท
ถึงกรุงเทพฯ น้ำมันคงเหลือครึ่งถังพอดิบพอดี
รวมเป็น 4,870 บาท
จงออกไปเที่ยว พักผ่อนใจบ้าง เติมพลังให้กับชีวิต อย่าทำแต่งานจนลืมให้ความสุขกับตัวเอง......!