GURU Ratings : 8/10 คุ้มไม่คุ้ม เช็กก่อน! Toyota Yaris Cross Premium Luxury รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลาง 5 ประต ท็อปสุด ที่มาพร้อมพลังไฮบริดประหยัดน้ำมัน แบบใช้จริง 22 กม./ลิตร อออปชั่นเยอะสุดในราคาไม่เกิน 9 แสนบาท มาครบทั้งท้ายไฟฟ้า เตะเปิด Wireless Charger เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย พร้อม T-Connect*ไร้สาย ระบบ T-connect ความปลอดภัยเยอะ กล้องบันทึกภาพ หน้า-หลัง ฯลฯ ในราคา 899,000 บาท แต่สี Dark Turquoise / Black Roof เพิ่มอีก 12,000 บาท ทะลุ 9 แสนไปบ้าง อยู่ที่ 911,00 บาท จุดเด่น | จุดสังเกต | - ออปชั่นเยอะสุดคุ้มราคา
- Full Hybrid ขับสนุกและประหยัดพอตัว
- มีเตือนมุมอับด้านข้าง
- กล้องรอบคัน ปรับมุมมองได้
- Toyota Safty sence ACC LKC และ PVM
- ท้ายไฟฟ้าแบบ Hand free
- Wireless Charger
- Apple CarPlay และ Android Auto รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย
- T-Connect*
- ลำโพง Pioneer 6 ตำแหน่ง
- กรองฝุ่น PM2.5 และช่องปรับอากาศตอนหลัง
- เบรกมือแบบไฟฟ้า Auto Brake Hold
- กล้องวีดิโอบันทึกภาพด้านหน้า-หลัง
- ไฟหน้าปรับระดับได้
| - กล้องรอบคันไม่ชัด
- ACC เว้นระยะห่างมากไปและไม่ทำงานนุ่มนวลเท่าไหร่
- ควรประหยัดได้ 24 กม./ชม. แบบไม่ต้องปั้น
- พวงมาลัยหนักกว่าคู่แข่ง
- พวงมาลัยไม่กระชับต้องคอยแต่งในทางตรง
- หลังคาเปิดไปได้ (หรือจะเป็นข้อดี)
- ช่วงขอบฐานเกียร์กว้างหัวเข่าติด
- เบาะนั่งเล็กไป สำหรับคนตัวโต ๆ
- ที่วางแก้วตรงกลางเล็กไป
- เปิดประตูต้องกดปุ่มไม่สัมผัส
- เสียงเข้ารถเยอะโดยเฉพาะเร่งเครื่องยนต์
- ระดับไฟหน้าต่ำมากส่องแต่พื้นเยอะไป
- ช่วงล่วงหลังนุ่มเกินไป
| |
สมรรถนะนุ่มนวลเน้นในเมือง
รีวิวทดลองขับ Toyota Yaris Cross Premium Luxury สิ่งแรกคือ รูปทรงภายนอกแล้วแต่มุมมองส่วนตัวยังรู้สึกว่าดูเป็นผู้ใหญ่ ดูบึกบึน ตัวรถที่ยกสูงระยะใต้ท้องราว ๆ
210 มม. ช่วยให้รู้สึกว่าคันใหญ่ขึ้นไปอีก ไฟหน้าดูโฉมเฉี่ยวแบบสปอร์ด ไฟท้ายคล้าย
เล็กซัส ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ลายเรียบ ๆ ยาง YOKOHAMA BluEarth-XT ดอกหนา ๆ ลุยได้นิดหน่อย มือจับประตูมีปุ่มที่ต้องกดทุกครั้งเมื่อจะเปิดประตู ยังไม่ใช่ระบบสัมผัส และมีไฟส่องมือจับตอนมืด ๆ ด้วย สีเป็นแบบทูโทน และออปชั่นเด่น ประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบ Kick-Activated ที่ใช้เท้ากวาดติดง่ายมาก ๆ พร้อมสวิตช์ล็อคประตูที่ฝาท้าย เหมือนในรถราคาสูงเลย
ท่านั่งขับสูง ๆ นิด แต่ปรับระดับเบาะได้ พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง แต่ว่าเลื่อนเข้าหาตัวได้น้อย ทำให้ต้องปรับเบาะเข้าหาแทน ท่าขับจึงยังไม่เข้าทีมากนัก ต้องค่อย ๆ หาจุดลงตัว แต่โดยรวมและการนั่งขับมีวิสัยทัศน์ดี เพียงแต่ว่า กระจกบานหน้าแคบไปหน่อย มีความสูงไม่มากนัก เมื่อนั่งแล้วจะจำกัดการมองเฆ้นด้านบน เช่น ป้ายบอกทาง สัยญาณไฟ เมื่อจอดเป็นคันแรก ฯลฯ ต้องคอยชเงอ
พวงมาลัย หนักเกิดคาด ด้วยรถเซ็กเมนต์นี้จะเบามาก จนหลายคนบ่นว่าเบาเกินไป แต่ Yaris Cross กลับ "ตึง ๆ มือ" มีน้ำหนักคล้ายขับรถเก๋งขนาดใหญ่หรือว่ารถที่ใช้ระบบไฮดรอลิคในการผ่อนแรงเลย อาจถูกตั้งความหนืดเอาไว้ใช้หนัก ช่วยในการควบคุมทิศทางได้ง่ายขึ้น เพราะเมื่อขับความเร็วสูง ต้องคอยแต่งซ้าย-ขวา บ่อย ๆ หรือมีช่วงระยะเหลือในการควบคุมพวงมาลัยมากเกินไป ถ้าเบามากก็อาจทำให้คุมยากขึ้นก็เป็นได้ครับ
หลาย ๆ คนพอจะทราบว่า นอกจาก
Yaris Cross จะเป็นรถจากอินโดนิเซีย หรือจะเป็นการใช้แพลตฟอร์มจาก
ไดฮัดสุก็ตาม แม้โตโยต้าจะเอาเข้ามาประกอบเองบ้าง แต่ด้วยชิ้นส่วน การออกแบบหลาย ๆ อย่างอิงกับประเทศต้นทางเอาไว้ก่อน จึงทำให้คาร์แร็คเตอร์ของรถอาจไม่ค่อยถูกใจคนไทยมากนัก แต่สำหรับผู้ทดสอบเองกลับมองว่า "คนไทยได้รถที่ดีในราคาที่คุ้มค่า"
เริ่มที่อัตราเร่งออกตัว ด้วยพลัง เครื่องยนต์ไฮบริด 2NR-VEX ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i รองรับ E20 ที่เรี่ยวแรงน้อยเน้นประหยัด 91 แรงม้า กับ 121 นิวตันเมตร ไม่พอแน่กับการลากตัวถังขนาดนี้ 1.2 ตัน (ซึ่งก็ไม่ได้เยอะอะไรนัก) แต่ก็กลัวว่าจะไม่พอต่อเท้าเจ้าของรถจึงผสานมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 80 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร เข้าไปเสริมพลังให้แรงขึ้น และผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ยิ่งประหยัดอีกด้วย จนได้พลังรวมทั้งระบบ 111 แรงม้า ส่วนแรงบิดไม่แจ้งเป็นทางการแต่คร่าว ๆ ก็ป้วนเปี้ยนแถว ๆ ประมาณ 180 - 200 นิวตันเมตร* (*เป็นการคาดและประมาณเองไม่ได้ขึ้นไดโนฯ วัดนะครับ)
ขนาดแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน 4.3 แอมแปร์-ชั่วโมง ไม่ใหญ่มากพื้นที่จำกัด ผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ตัวเลขจากโรงงาน 26.3 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก Eco Sticker) ความจุถังน้ำมัน 36 ลิตร
ช่วงล่างด้านหน้าอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทที่ให้ความแข็ง พร้อมเหล็กกันโคลง แต่ด้านหลังทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริงที่นื่ม ๆ หน่อย พร้อมเหล็กกันโคลง และดิกส์เบรก 4 ล้อ การขับขี่เน้นใช้งานในเมืองเพราะให้ความนุ่มนวลสบาย ไม่กระเด้ง แม้จะขับผ่านผิวถนนคอนกรีตหรือขรุขระ แต่เมื่อใช้ความเร็วสูง ๆ จะต้องคอยคุมพวงมาลัยให้นิ่งตลอด จากที่รถมักมีอาการเอียงไปมาเล็กน้อย
ส่วนช่วงล่างก็ยังนุ่มนวล ในทุก ๆ สภาพถนน จึงอาจต้องใช้ความนิ่งของการบังคับพวงมาลัยพอสมควรเพื่อลดอาการเหวี่ยงหรือเอียงโคลงไปมาของตัวรถ แต่ความจริงถ้าขับแบบตรง ๆ มาเปลี่ยนเลนบ้างในความเร็งสูง ๆ ก้นับว่า กำลังนั่งสบายเลยครับ ส่วนจะสายมุดหรือสายซิ่งก็อาจจะต้องเพิ่มความแม่นยำหรือทักษการขับให้มากขึ้นเองจะปลอดภัยมั่นใจมากกว่าครับ
ความแรงไม่มากนักแต่กำลังขับสนุกได้ในความเร็วตั้งแต่ออกตัวถึงลอยตัวระดับกลาง ๆ ไม่เกิน 110 กม./ชม. นี่กำลังขับสนุก ส่วนเกินกว่านั้นเริ่มต้องใช้เวลาและรอบเครื่องนานขึ้นอีกหน่อยครับ แต่โดยรวมแล้ว ความเร็วก็จะค่อย ๆ ไหลไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องเผื่อระยะแซงมากนัก ก็นับว่าให้ความปลอดภัยได้พอสมควรเลยครับ หากให้เทียบสมรรถนะอัตราเร่งของยารีส ครอส นั้น ก็จะประมาณรถเก๋งเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงเลยครับ
โดยรวม Yaris Cross ขับสนุกในสไตล์นุ่ม ๆ ไม่กระชากนัก และยิ่งขับในเมืองหรือความเร็วระดับกลาง ๆ ช่วงออกตัว, 60 - 100 กม./ชม. นับว่า กระฉับกระเฉิงและขับสนุกพอตัวเลย ไม่อึดและไม่ต้องลุ้นในการแซงมากนัก ช่วงล่างก็นุ่มสบายเหมาะกับการโดยสารอย่างแท้จริง ภายในกว้างขวาง หลังโปร่งโล่ง และเบาะพับได้แบนราบ มีพื้นที่ท้ายรถเยอะไม่แพ้รถขนาดใหญ่ ๆ เลยครับ
ความประหยัดน่าจะดีกว่า 22 กม./ลิตร ได้อีกนิด
Toyota Yaris Cross Premium Luxury เรื่องความประหยัดก็นับว่าโดดเด่น แม้จะเห็นตัวเลขระดับ 24 กม./ลิตร อยู่บ้าง แต่เมื่อใช้งานไปในหลาย ๆ วัน กลับทำตัวเลขได้สูงสุด 22. - 22.8 กม./ลิตร อาจเพราะสภาพถนน การจราจรและการใช้คันเร่งที่แตกต่างกันในแต่ละวัน แต่ละเส้นทาง ทำให้ได้ตัวเลขที่เหมือนการใช้งานจริงทุก ๆ วันคงที่ 22 กม./ลิตร แต่ถ้าช่วงไหนใช้คันเร่งมาก ๆ บ่อย ๆ ก็จะลดลงไปอยู่ที่ 19 กม./ลิตร แต่เมื่อขับไปสักพักก็จะกลับมาคงที่ 22 กม./ลิตร เหมือนเดิมครับ อัตราสิ้นเปลืองอาจไม่สูงมากนัก แต่สำหรับรถคันขนาดนี้ ถือว่าน่าพอใจแล้ว และยังสามารถจะขับให้มีอัตราตัวเลขดี ๆ ได้อีกด้วยครับ (ขึ้นกับสภาพและการขับขี่แต่ละคน)
ออปชั่นเยอะใช้งานดีไม่งอแง
สื่งอำนวยความสะดวกสบายนับว่าเยอะคุ้มมากกับรถและราคาระดับนี้ เริ่มด้วยระบบ Apple CarPlay และ Android Auto รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย พร้อม T-Connect* , Wireless Charger ตรงจุดนี้มีตัวล็อคกันโทรศัพท์ขยับตัวมาให้ด้วยอันนี้ดีงามเลยครับ ไฟหน้าเปิดปิดอัตโนมัติ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า หลังคาโปร่งแบบพาโนรามิค (เปิดไม่ได้) ระบบเครื่องเสียงลำโพง Pioneer 6 ตำแหน่ง ระบบกรองฝุ่น PM2.5 และช่องปรับอากาศตอนหลัง เบาะหลังแบ่ง 60 : 40 และพับแบนราบ ที่เท้าแขนตอนหลัง ระบบไฟในห้องโดยสารเป็นหลอด LED และฝาท้ายไฟฟ้า Kick-Activated
ระบบความปลอดภัยที่มาแบบจุก ๆ เช่น เตือนออกนอกเลน ระบบควบคุมความเร็วแปรผันตามคันหน้าแบบ All-speed แต่ติดที่ยังทำงานไม่ค่อยราบรื่นนัก เบรกและเร่งแรง และเว้นระยะห่างจากคันหน้ามากเกินไป แม้จะตั้งให้ชิดที่สุดแล้วก็ตาม ซึ่งไม่ค่อยเหมาะกับประเทศไทย เพราะอาจจะโดนรถเบียด-ปาดหน้าได้ตลอดเวลา
กล้องรอบคันปรับมุมมองได้ 360 องศา ที่ความคมชัดระดับ 6/10 มีความมั่ว ๆ บ้าง แต่ได้จอแสดงผลขนาดใหญ่จึงมองง่ายขึ้น ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor) ใช้งานได้แม่นยำ และระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross - Traffic Alert) ช่วยให้ปลอดภัยได้เยอะขึ้นจริง ๆ
ข้อแนะนำปรับปรุงหรือเพิ่มเติม
1.เสียงยางเข้าใต้ท้องรถและเสียงเครื่องยนต์ดังเข้าห้องโดยสารค่อนข้างมากกว่ารถระดับเดียวกัน - วิธีแก้ เปิดเพลงดังเข้าไว้
2.พวงมาลัยไม่นิ่งส่อยไปมาต้องคอยประคองตลอด - วิธีแก้ จับและควมคุมให้นิ่ง ๆ เข้าไว้ จะได้มีสมาธิขับรถ
3. ต้องกดปุ่มเปิดล็อค-ปิดล็อคประตูไม่ใช่ระบบสัมผัส - วิธีแก้ ก็ขยันกดเปิด-ปิด ช่วยกันลืมล็อคประตู
4.พลังเสียงยังแปลกแหลมกับกลางเยอะพอเปิดเบสเพิ่มกลับแข็งกระด้างไม่นุ่มลึก - วิธีแก้ ปรับจนกว่าจะพอใจ.....
5.กระจกมองหลังปรับแสงด้วยมือ - วิธีแก้ ปรับด้วยมือเอง ถ้าเป็นปรับลดแสงอัตโนมัติน่าจะครบกว่านี้
สรุปความคุ้มค่า 899,000 บาท
Toyota Yaris Cross Premium Luxury รถยนต์ที่มีออปชั่นเกินราคา ฟังก์ชั่นบางอย่างในรถราคาเกิน 1 ล้านบาทยังไม่มีด้วยซ้ำ และให้ความประหยัดและคุ้มค่าเงินที่จ่ายมากที่สุดในตอนนี้ ประหยัดไม่ใช่เรื่องน้ำมันเท่านั้น เพราะอัตราสิ้นเปลืองอาจจะยังไม่ว้าว แต่ประหยัดทั้งระบบ ตั้งแต่ ซื้อ ใช้ บำรุงรักษา และแน่นอนแบรนด์นี้ ขายต่อได้ง่าย แม้ราคาจะตก แต่ก็ขายได้ไว้ (ประหยัดเวลา) ถึงแม้จะมีข้อด้อยในบางจุดอยู่บ้าง แต่ก็ปล่อยผ่านได้เพราะได้ความครบถ้วนในราคาเป็นหนี้ไม่เหนื่อยมาก คุ้มครับ!
เช็กรายละเอียดโปรโมชันตามแบรนด์