หากคิดจะซื้อรถไว้ใช้งาน เรื่องของประกันภัยถือเป็นหนึ่งเรื่องสำคัญที่ควรมี เพราะจะเป็นตัวช่วยยามเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด และช่วย Support ในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้ นอกจากประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับที่เป็น พ.ร.บ. ประกันภัยภาคสมัครใจ หรือที่เราเรียกกันว่าประกันภัยชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 3 แล้ว ยังมีประกันอะไหล่รถยนต์ที่เราสามารถทำเพิ่มเติมได้อีกด้วย แล้วประกันภัยรถยนต์ กับประกันอะไหล่รถยนต์ ต่างกันอย่างไร เราควรทำแบบไหนดี ตามมาดูกันเลยค่ะ
ประกันอะไหล่รถยนต์ เป็นประเภทหนึ่งของประกันรถยนต์ที่เน้นการคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ของรถยนต์เมื่อเกิดความเสียหายหรือสูญหาย โดยประกันอะไหล่รถยนต์จะครอบคลุมความเสียหายจากอุบัติเหตุที่สร้างความเสียหายต่ออะไหล่หรือชิ้นส่วนหลักของรถยนต์ เช่น เครื่องยนต์, กล่องเกียร์, ระบบเบรค, ระบบล้อและยางรถ, และส่วนสำคัญอื่นๆ ของรถยนต์ การที่มีประกันอะไหล่รถยนต์จะช่วยในการลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่เมื่อเกิดความเสียหายและสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องเปลี่ยนอะไหล่ที่มีราคาสูงได้
การประกันภัยรถยนต์ เป็นการประกันภัยที่ "ผู้เอาประกันภัย" โอนความเสี่ยงภัยเกี่ยวกับรถยนต์ไปให้บุคคลอื่นซึ่งเรียกว่า "ผู้รับประกันภัย" รับเสี่ยงภัยแทน โดยผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเรียกว่า "เบี้ยประกันภัย" ให้กับผู้รับประกันภัย เป็นการตอบแทนที่ผู้รับประกันภัยยอมรับความเสี่ยงภัยไว้แทน หากรถยนต์คันที่เอาประกันภัยไว้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ตัวรถยนต์ หรือแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลที่โดยสารอยู่ภายในรถยนต์ ตลอดจนบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายจากรถยนต์ที่เอาประกันภัยคันดังกล่าว ผู้เอาประกันภัยจะได้รับการชดใช้ค่าเสียหายที่เรียกว่า "ค่าสินไหมทดแทน" โดยผู้รับประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ตามจำนวนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินที่ได้ตกลงทำสัญญาไว้ ซึ่งการประกันความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ ประกอบด้วย
- ความเสียหายที่เกิดแก่รถยนต์
- ความเสียหายที่รถยนต์ได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถยนต์นั้น
ความแตกต่างของประกันอะไหล่ และประกันรถยนต์
ประกันอะไหล่รถยนต์ และประกันรถยนต์ เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองในด้านต่างๆ ของรถยนต์ โดยประกันรถยนต์จะคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์เฉพาะกรณีเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น ไม่รวมกรณีที่รถยนต์เกิดเสียหรือพังจากการใช้งาน ส่วนประกันอะไหล่รถยนต์ จะให้ความคุ้มครองชิ้นส่วนรถยนต์ต่างๆ ภายในรถยนต์ เช่นระบบไฟ ระบบเครื่องยนต์ รวมถึงระบบขับเคลื่อน ในกรณีที่อะไหล่พังโดยมีสาเหตุจากการใช้งาน
ประกันรถยนต์ :
- ประกันรถยนต์จะเน้นความคุ้มครองของรถยนต์โดยรวม กรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ รวมถึงความคุ้มครองต่อบุคคลอื่นหรือทรัพย์สิน
- ประกันรถยนต์ประกอบด้วยส่วนหลักสองส่วน คือ ความรับผิดชอบต่อบุคคล/ทรัพย์สินข้างนอก และความรับผิดชอบต่อรถยนต์ของเราเอง ซึ่งสามารถเพิ่มเติมความคุ้มครองด้วยแบบประกันเพิ่มเติม เช่น ประกันฝุ่น, ประกันน้ำท่วม, หรือประกันความสูญหายได้
ประกันอะไหล่รถยนต์ :
- ประกันอะไหล่รถยนต์จะเน้นความคุ้มครองในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ของรถยนต์เมื่อเกิดความเสียหายหรือสูญหายกับอะไหล่หรือชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ ในกรณีอะไหล่พัง หรือเสียหายที่มีสาเหตุเกิดจากการใช้งาน โดยเฉพาะอะไหล่ที่มีค่าใช้จ่ายสูง
- ประกันอะไหล่รถยนต์อาจไม่ครอบคลุมความรับผิดชอบต่อบุคคล ทรัพย์สินข้างนอก หรือความรับผิดชอบต่อรถยนต์ ความคุ้มครองจะเน้นเฉพาะเรื่องของการเปลี่ยนอะไหล่หรือการซ่อมแซมเท่านั้น
ประกันอะไหล่รถยนต์เหมาะกับใคร
การประกันอะไหล่รถยนต์ เหมาะสำหรับบุคคลที่ต้องการความคุ้มครองเรื่องของค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ของรถยนต์เมื่อเกิดความเสียหายหรือสูญหายกับอะไหล่หรือชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ที่มีอะไหล่หรือชิ้นส่วนที่มีราคาสูง และค่าแรงงานในการซ่อมแซมรถยนต์แพงค่ะ
- คนที่ใช้รถยนต์ราคาแพง : รถยนต์ราคาแพงหรือรถยนต์ระดับพรีเมียมที่มีอะไหล่หรือชิ้นส่วนที่มีราคาสูง การประกันอะไหล่รถยนต์อาจช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่เมื่อเกิดความเสียหาย
- คนที่ชอบซ่อมแซม หรือแต่งรถ : ถ้าเราเป็นคนที่ชอบซ่อมแซมหรือปรับแต่งรถยนต์ การประกันอะไหล่รถยนต์อาจเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากจะช่วยในการป้องกันความเสียหาย และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่เกี่ยวกับอะไหล่ได้
- คนที่มีรถยนต์อายุมาก : รถยนต์ที่มีอายุมากจะมีความชำรุดเร็วขึ้น การมีประกันอะไหล่รถยนต์อาจช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ของรถยนต์ที่มีอายุ
ทั้งนี้ ประกันอะไหล่รถยนต์อาจมีค่าเบี้ยที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับประกันรถยนต์ปกติ หากเรามีความกังวลเกี่ยวกับความเสียหายที่อาจเกิดกับอะไหล่หรือชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ และค่าใช้จ่ายสำหรับการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ของรถยนต์ ประกันอะไหล่รถยนต์อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากเราต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่าเรื่องอะไหล่ และการซ่อมแซมเพียงอย่างเดียว การเลือกประกันรถยนต์ก็จะอาจครอบคลุมมากกว่า ดังนั้นก่อนตัดสินใจควรพิจารณาว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนี้คุ้มค่าหรือไม่เมื่อพิจารณาการเลือกประกันด้วยนะคะ