งานแจแปนโมบิลิตี้โชว์ 2023 เสมือนเป็นการกลับมาอีกครั้งของงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ ที่เว้นวรรคเพราะช่วงโควิดไปหลายปี ครั้งสุดท้ายที่ผู้เขียนไปคือปี 2019 งานโชว์ JMS กลับมาเปิดให้ผู้ที่สนใจยนตรกรรมทั้ง 4 ล้อและ 2 ล้อ ตลอดจนนวัตกรรมใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนได้ชมกันนับตั้งแต่เปิดประเทศสู่นักท่องเที่ยวไปเมื่อปีที่ผ่านมา
VIDEO
งานนี้มีแบรนด์รถยนต์ชั้นนำมาร่วมแสดงมากมายอย่าง ฮอนด้า ที่จัดเต็มด้วยคอนเซปต์บูทวงแหวนแห่งฝัน (Dream Loop) ที่ถ่ายทอด “การขับเคลื่อนในฝัน” ของฮอนด้าผ่านประสบการณ์ Generative AI และยังให้ผู้ชมงานเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวงแหวนแห่งฝัน (Dream Loop) ของฮอนด้าด้วย ส่วนแบรนด์อื่นๆ ก็มีมาให้ชมกันพอสมควรแต่ไม่ยังไม่มีรุ่นรถแน่นหนาเหมือนกับครั้งเป็นงานโตเกียวฯ อาจเพราะเพิ่งกลับมาจัดอีกครั้ง ความโดดเด่นของแบรนด์รถในแต่ละบูทไล่เรียงได้ตามนี้เริ่มจาก
ฮอนด้า เปิดโอกาสให้ผู้ชมงานได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์การขับเคลื่อนแห่งอนาคตที่ฮอนด้าใฝ่ฝัน ซึ่งทุกคนก็จะมีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์การขับเคลื่อนแห่งอนาคตไปพร้อมกับฮอนด้าอีกด้วย
ด้วยแรงบันดาลใจของ Global Brand Slogan ของฮอนด้า “The Power of Dreams – How we move you” ซึ่งเป็นปีที่ฮอนด้าฉลองครบรอบ 75 ปี ทำให้ฮอนด้าสร้างสรรค์บูทนำเสนอผลิตภัณฑ์อย่างเต็มที่ ด้วยแนวคิด “Honda Dream Loop” สะท้อนให้เห็นถึงอนาคตที่เปี่ยมไปด้วยความฝันอันหลากหลายของผู้คน และจะยังคงแผ่ขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการด้านการขับเคลื่อนที่เกิดขึ้นจากความฝันของฮอนด้า
สำหรับคุณค่าอันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า 2 ความหมายคือ “ก้าวข้าม” และ “เพิ่มพูน” ผลิตภัณฑ์และบริการด้านการขับเคลื่อนที่รวบรวมความฝันของฮอนด้าเอาไว้ จะช่วยให้ผู้คน “ก้าวข้ามข้อจำกัดต่าง ๆ เช่น เวลาและสถานที่” และ “เพิ่มพูนศักยภาพและโอกาสให้ทุกคน” ทั้งสองสิ่งนี้ถือเป็นคุณค่าที่สำคัญของผลิตภัณฑ์และบริการด้านการขับเคลื่อนทุกประเภท ที่ฮอนด้านำเสนอมาตลอด 75 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท และจะยังคงเป็นคุณค่าที่ฮอนด้าต้องการนำเสนอต่อไปทั้งในปัจจุบันและอนาคต
การขับเคลื่อนทำให้เรามองเห็นสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ พบปะผู้คนใหม่ ๆ ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ทำให้โลกที่เราอาศัยอยู่ดูกว้างขึ้น ในทางกลับกัน การขับเคลื่อนต้องเผชิญกับข้อจำกัดต่าง ๆ เช่น ต้องใช้เวลานานกว่าจะถึงจุดหมาย และบ่อยครั้งที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ในช่วงเวลานั้น หรือไม่สามารถไปถึงจุดหมายของสถานที่บางแห่งได้ เนื่องจากขาดวิธีการเดินทางที่เหมาะสม ซึ่งฮอนด้ามุ่งหวังให้ผู้คนสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดดังกล่าว และเราต้องการนำเสนอความสุขและอิสระในการเดินทางต่อไปในอนาคต
และนี่คือ ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ต่างในบูทฮอนด้า
Cruise Origin ยานพาหนะอัตโนมัติที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดของเวลา พื้นที่ภายในของยานพาหนะคันนี้มอบความเป็นส่วนตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผู้ใช้งานจึงสามารถใช้เวลาเดินทางได้อย่างอิสระมากขึ้น
Honda eVTOL และ HondaJet จะต่อยอดการขับเคลื่อนในรูปแบบสามมิติสู่ท้องฟ้า และช่วยให้ผู้คนก้าวข้ามข้อจำกัดของสถานที่และระยะทางได้
SUSTINA-C เป็นรถยนต์ที่ทำจากเรซินอะคริลิกที่รีไซเคิลและนำกลับมาใช้ใหม่
Honda Avatar Robot และ UNI-ONE จะช่วยเพิ่มพูนศักยภาพและความเป็นไปได้ของผู้คน
Honda CI-MEV รถยนต์ขนาดเล็กที่ขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติ ที่ช่วยเพิ่มและขยายขอบเขตการใช้ชีวิตของผู้คนได้อย่างไร้ขอบเขต
Prelude Concept จะสานต่อ “ความสนุกสนานและเพลิดเพลินในการขับขี่” สู่อนาคตแห่งขุมพลังการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
รถรุ่นนี้จะเป็นรุ่นบุกเบิกไปสู่ยนตรกรรมในอนาคตของฮอนด้า ที่จะส่งมอบ “ความสนุกและเพลิดเพลินในการขับขี่” สู่อนาคตแห่งพลังขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แต่ยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณความเป็นสปอร์ตของฮอนด้า
Prelude Concept คือ ยนตรกรรมสปอร์ตที่พร้อมนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่ตื่นเต้นเร้าใจ ที่ทำให้คุณอยากที่จะขับต่อไปและตื่นเต้นในการขับขี่อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ต่อกันด้วยแบรนด์ ซูซูกิ ที่มีไฮไลท์อย่าง ออล-นิว สวิฟท์ คอนเซปต์ มาแสดง เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ผสานการทำงานกับระบบมายด์ไฮบริด
บูท มิตซูบิชิ โดดเด่นไปกับ ออล-นิว ไทรทัน ที่เปิดตัวบ้านแล้วไปแล้ว ตกแต่งสไตล์แรลลี่อาร์ต นอกจากนี้ก็มีรุ่น Delica ที่บ้านเราเคยทำตลาดอยู่ช่วงหนึ่ง
บูท นิสสัน มาเป็นธีมครบรอบ 60 ปี กับสีสรรลวดลายพิเศษในแต่ละรุ่น เช่น KICKS, X-Trail ใหม่ ฯลฯ
บูท BYD เป็นแบรนด์จีนเดียวในงานครั้งนี้มาเปิดตัวด้วยไลน์อัพที่เราคุ้นตากันอย่าง Atto3, Dolphin และ Seal สวนหนึ่งก็เพราะบีวายดีเป็นซัลพลายเออร์แบตเตอรี่รถไฟฟ้ารายใหญ่ให้กับเมคเกอร์ญี่ปุ่น
ส่วนแบรนด์อื่นๆ ก็นำมาโชว์กันพอสมควรเช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์, บีเอ็มดับเบิลยู, เลกซัส ฯลฯ
บีเอ็มดับเบิลยู
เมอร์เซเดส-เบนซ์
โตโยต้า
มาสด้า
อีซูซุ
ซูบารุ