GURU Ratings : 4.5/10 คุ้มไม่คุ้ม เช็กก่อน! BYD SEAL รถยนต์ซีดานพรีเมี่ยมไฟฟ้าล้วน เทคโนโลยีเยอะ ความปลอดภัยรอบคัน มาพร้อม 3 รุ่นย่อย พลังสูงสุด 500 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ วิ่งได้ 580 กม. AWD PERFORMANCE Dual Motor 530 HP Range 580 KM ราคา 1,599,000 บาท Premium RWD 313 HP Range 650 KM ราคา 1,449,000 บาท Dynamic RWD 204 HP Range 510 KM ราคา 1,325,000 บาท จุดเด่น | จุดสังเกต | - แรงทุกรุ่นย่อยเริ่มต้น 204-530 แรงม้า
- วิ่งได้ไกลสูงสุด 650 กม.
- ฟังก์ชั่นจัดเต็มทุกรุ่นย่อย
- ความปลอดภัย ADAS เต็มระบบ
- ช่วงล่างนุ่มนวลเหมาะกับเดินทางไกล
| - ช่วงล่างเน้นนุ่มนวล
- เบาะหลังชันนั่งไม่สบาย
- ตัวรถเตี๊ยมากขับต้องระวัง
- ขับเร็วกินแบตฯ มาก
- บริการหลังขายต้องดูระยะยาว
| |
BYD SEAL 3 รุ่นที่แตกต่าง
BYD SEAL รถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัว 3 รุ่นย่อย พร้อมกับให้ออปชั่นครบถ้วนเทียบเท่าทุกรุ่น และยังมีบุคลิกที่แตกต่างกันชัดเจน แม้ว่าหน้าตาจะเหมือนกันจนแยกไม่ออก! เริ่มด้วยภายนอกดีไซน์ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว LED และดูสปอร์ตมากกว่ารถพรีเมี่ยมซะอีก เห็นครั้งแรกก็ต้องคาดหวังว่านี้คือ "รถสปอร์ตซีดาน" แน่ ๆ แต่ทาง BYD บอกว่าตั้งใจวางตำแหน่งให้เป็นรถพรีเมี่ยมระดับ D-Segment เทียบเท่าค่ายญี่ปุ่นรายใหญ่ ไม่ตั้งใจจะไปเป็นคู่ปรับรถไฟฟ้าหรูฝั่งอเมริกาหรือเยอรมันแต่อย่างใด แต่แอบบอกเลยว่าในรุ่นท็อปสุด สมรรถนะพอฟัดกันได้เลย!
มาดูออปชั่นที่มาให้แบบครบถ้วยทุกรุ่นย่อย อาจมีแตกต่างกันไม่ถึง 10 จุด
- ไฟหน้า LED แบบ Double-U Floating เส้นสายที่ออกแบบให้บาง และ ลดแรงต้านอากาศของเลนส์ LED ทำให้ไฟหน้าเพรียวบางขึ้น
- ขนาดและมิติตัวรถ ยาว x กว้าง x สูง : 4,800 x1,875 x1,460 มม. ระยะฐานล้อกว้างถึง 2,920 มม.
- ฝากระโปรงแบบโช้คอัพ เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ช่องเก็บของด้านหน้าความจุ 50 ลิตร
- กระจกมองข้างทรงหยดน้ำ ปรับองศาอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง
- มือจับประตูที่เก็บซ่อนไปกับตัวรถ ช่วยจัดระเบียบอากาศ และ ลดแรงต้านของลม ซ่อนเก็บด้วยไฟฟ้า อัจฉริยะและเรียบหรูจะเปิดออกทันที เมื่อผู้ใช้ปลดล็อกด้วยระบบ Keyless entry
- ไฟท้าย LED แบบชิ้นเดียว ประกอบด้วยไฟรูปหยดน้ำเรียงเป็นชั้น กันชนหลังที่โดดเด่น มีมิติที่คมชัด ตกแต่งทั้ง 2 ข้างด้วยดีไซน์โครงแบบรถแข่ง
- ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า ระบบป้องกันการหนีบอัจฉริยะ ตั้งระดับความสูงได้ตามความต้องการ
- หลังคากระจกพาโนรามิก 2 ชั้น เคลือบด้วย Silver-plated ช่วยให้การส่องผ่านแสงไม่เกิน 4.2% แสงแดดส่องผ่านได้ไม่เกิน 16% ขนาดใหญ่ถึง 1.9 ตรม. ให้มุมมองที่กว้าง
- ภายในสีดำ หรูหรา สปอร์ต กว้างขวาง และ สะดวกสบาย เบาะนั่งทรงสปอร์ต ระบบจดจำตำแหน่งที่นั่งเบาะคนขับ + เบาะนั่งคนขับเลื่อนอัตโนมัติเมื่อสตาร์ท(เฉพาะรุ่น Premium และ AWD PERFORMACE) และ ดับรถปรับด้วยไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ ระบบอุ่นเบาะ
- เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง มีระบบระบายอากาศ และ ระบบอุ่นเบาะ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มีอยู่ในทุกรุ่น รุ่น Premium & AWD Performance เบาะนั่งหุ้มหนังแบบ Courtesy ฝั่งคนขับมีระบบปรับดันหลังได้ 4 ทิศทาง (Lumbar support) พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง (Memory Seat)
- หัวเกียร์ไฟฟ้าแบบคริสตัล
- เบาะนั่งด้านหลัง 3 ตำแหน่ง เบาะปรับพับแยกได้แบบ 40/60
- e-platform 3.0 เอกสิทธิ์เฉพาะรถไฟฟ้าบีวายดี ที่มาพร้อมกับเทคโนโยลีการติดตั้งแบตเตอรี่แบบ Cell To Body (CTB) พื้นที่เพิ่มขึ้นมิติความสูงและขนาดตัวรถเท่าเดิม แต่พื้นที่เบาะนั่งเพิ่มขึ้น ความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ทนทานต่อการบิดตัว ชุดประกอบโครงสร้างแบตเตอรี่ถูกออกแบบให้สามารถปิดผนึกเข้าได้โดยตรงกับโครงสร้างรถยนต์อย่างลงตัว เพื่อให้ประสิทธิภาพการปิดผนึก และ การเสริมความแข็งของตัวพื้นฐานใต้โครงสร้างรถยนต์เพิ่มขึ้น
- ฟังก์ชั่นการควบคุมด้วยเสียง ด้วยการใช้เสียงสั่งงาน ใช้หน้าจอสัมผัส และใช้ปุ่มควบคุมต่าง ๆ โดยไม่จำเป็นต้องขยับมือ
- หน้าจอสัมผัสแบบหมุนได้ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 1080P (1920x1080) ขอบจอบาง 5.9 มม. รองรับ CarPlay สำหรับอุปกรณ์ IOS หรือ Android Auto10
- จอมาตรวัดคนขับ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว
- ระบบเครื่องเสียง Premium acoustics มาพร้อมชุดลำโพง 12 ตัว HIFI Dynaudio Audio
- ที่วางชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายให้ถึง 2 ช่อง
- ระบบกรอง PM2.5
- ใบปัดน้ำฝนระบบอัตโนมัติแบบไร้โครง หน้า/หลัง
- ฟังก์ชั่น VTOL Function-2.2kW
- ถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่ง
- กล้องมองรอบคัน 360 องศาความคมชัดระดับสูง
- ลงทะเบียนเปิดใช้งาน BYD application เจ้าของรถจะสามารถควบคุมฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ จากระยะไกล ผ่าน BYD application ในโทรศัพท์มือถือได้
ความปลอดภัย 100%
- เรด้าห์แบบ Millimeter-Wave 5 ตำแหน่ง กล้องด้านหน้าสำหรับระบบ ADAS 1 ตำแหน่ง
- ระบบช่วยแจ้งเตือนการคาดการณ์การชนล่วงหน้า (PCW)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา (BSD)
- ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
- ระบบช่วยเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA-B)
- ระบบช่วยรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า (FCTA)
- ระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร (TSR)
- ระบบช่วยความคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICC)
- ระบบช่วยเปิดไฟสูงอัตโนมัติ (HMA)
- ระบบชวยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAW)
- ระบบกันสะเทือน ปีกนกคู่หน้า (Double Wishbone) มัลติลิงค์ (Five-Link)
- รัศมีวงเลี้ยว 5.7 เมตร
- ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทาน(Cd ) ต่ำเพียง 0.219
- อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 3.8 วินาที (AWD PERFORMANCE)
- ระบบดิสก์เบรกแบบ 4 พอร์ต พร้อมคาลิปเปอร์+ ดิสก์เบรกระบายความร้อนพร้อมรูระบายความร้อน
ทั้งหมดนี้ได้ครบทุกรุ่นย่อย
DYNAMIC
- เบาะนั่งแบบหุ้มหนังสังเคราะห์
- พวงมาลัยแบบหุ้มหนังสังเคราะห์
เฉพาะรุ่น Premium และ AWD PERFORMANCE เพิ่ม
- HUD (Head UP Display) ระบบแสดงผลบนกระจกหน้าเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อยอดจากเครื่องบินทหารเพื่อให้แสดงผลการขับขี่ที่สามารถมองเห็นได้ในระดับสายตา เนื้อหาที่จะแสดงผลนั้น ยกตัวอย่างเช่น ความเร็วรถยนต์ที่จะแสดงในระดับสายตาบนกระจกบังลมหน้า ซึ่งสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้ขับขี่ได้
- การชาร์จแบบ DC ที่กำลังไฟสูงสุด 150 กิโลวัตต์
- การพัฒนาโครงสร้างเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ระบบขับเคลื่อนแบบ AWD ด้านหลัง มอเตอร์ซิงโครนัสแบบแม่เหล็กถาวร + ด้านหน้า มอเตอร์อะซิงโครนัส
- ระบบล็อกประตูป้องกันเด็กไฟฟ้า
- ระบบจดจําตําแหน่งที่นั่งเบาะคนขับ
- พวงมาลัยแบบหุ้มหนังแท์
- เบาะนั่งคนขับเลื่อนอัตโนมัติเมื่อสตาร์ทและดับรถยนต์
- เบาะนั่งแบบหุ้มหนังแท้
- กระจกมองข้างปรับองศาอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง
- ระบบบันทึกตําแหน่งกระจกมองข้าง
- ระบบพนักพิงดันหลังเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
AWD PERFORMANCE เพิ่ม
- ระบบกันสะเทือนปรับอัตโนมัติตามความเร็วแบบ Frequency Selective Damping (FSD) ควบคุมปริมาณน้ำมันไฮดรอลิกที่ฉีดเข้าไปในกระบอกสูบโช้คอัพผ่านวาล์ว FSD จึงปรับความนุ่มนวลและความแข็งของโช้คอัพได้โดยอัตโนมัติ การปรับเปลี่ยนแบบแปรผันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับทุกสภาพถนนในการขับขี่ เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นใจมากยิ่งขึ้น
- ระบบควบคุมแรงบิดอัจฉริยะ (iTAC)
- ตัวอักษร "3.8S" ฝั่งขวาและ "AWD" ฝั่งซ้ายที่ท้ายรถ
BYD SEAL DYNAMIC Dynamic
ขับเคลื่อนล้อหลัง 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร 0-100 กม./ชม. ใน 7.5 วินาที แบตเตอรี่ 61.44 kWh วิ่งได้ 510 กม. ต่อชาร์จ DC รองรับ 110 Kw น้ำหนัก 1,922 กก. ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ยาง GITI
รุ่นนี้ขับสบายที่สุด เนื่องจากน้ำหนักแบตฯลงตัวกับช่วงล่าง ให้ความนุ่มนวลและหนึบกลาง ๆ เดินทางสบาย ความแรงระดับ 200 ม้าพอดีตัวควบคุมง่ายไม่เครียดเวลาขับเร็ว ๆ และประหยัดไฟอีกด้วย
เหมาะกับสายสุขุมนุ่มนวล ไม่เร่งรีบ ขับขี่ง่าย แม่บ้านก็ได้วันรุ่น
BYD SEAL PREMIUM Premium
ขับเคลื่อนล้อหลัง 313 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที แบตเตอรี่ 82.56 kWh วิ่งได้ 650 กม. ต่อชาร์จ DC รองรับ 150 Kw น้ำหนัก 2,055 กก. ล้ออัลลอย 19 นิ้ว ยางจาก Continential
กำลังพอดีแรงขับสนุก ช่วงล่างนุ่มนวล พวงมาลัยกระชับ แต่ระยะขับไกลไม่ต้องกังวล เหมาะในการเดินทางใกล้ไกลนั่งสบายนุ่มนวล
BYD SEAL AWD PERFORMANCE AWD Performance
Dual mortor 214+308 พลังรวมทั้งระบบ 530 แรงม้า แรงบิด 670 นิวตันเมตร 0-100กม./ชม. ใน 3.8 วินาที แบตเตอรี่ 82.56 kWh วิ่งได้ 580 ต่อชาร์จ DC รองรับ 150 Kw ช่วงล่างแปรผันตามความเร็ว น้ำหนัก 2,185 กก. ล้ออัลลอย 19 นิ้ว ยางจาก Continential
สมรรถนะ อัตราเร่งเร่งดีด้วยหลังติดเบาะ ช่วงล่างยังนุ่มนวล เน้นใช้งานสะดวกสบาย พวงมาลัยหนักคมกระชับ เหมาะกับสายซิ่งเน้นความแรงมาก ๆ
สมรรถนะหลังทดลองขับ 3 รุ่น 3 สไตล์
ทดสอบรถยนต์ BYD SEAL จำนวน 3 รุ่นย่อย รวม 30 คัน มุ่งหน้าสู่เขาใหญ่ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับขี่นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า 100% อย่างบีวายดี ซีล โดยกิจกรรมจัดขึ้นบนเส้นทางไปกลับกรุงเทพฯ – เขาใหญ่ - กรุงเทพฯ แบบ one day trip ภายใต้เส้นทางการขับขี่จริง ครอบคลุมระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร พร้อมท้าพิสูจน์นวัตกรรมหลายด้านทั้งสมรรถนะ ระยะทางขับขี่ และอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาอย่างครบครัน
ช่องแอร์ไม่สามารถปรับเองได้ ต้องเข้าหน้าจอและเลือกรูปแบบการเป่าลม Swing, Fogus, Free, Off คือ ปิดช่องแอร์ไปเลย ด่านล่างแท่นชาร์จไร้สาย 2 ตำแหน่งอันนี้งามมากครับ ไม่ต้องแย่งกัน ส่วนที่วางแก้วน้ำตรงคอนโซลกลางคงคอนเซ็ปต์ "เล็กและเบียด" เหมือนเคย
ภาพรวมของการลองขับขี่ทั้ง 3 รุ่นนั้น ท่านั่งสบาย เบาะนุ่มกระชับดี พวงมาลัยน้ำหนักกลาง ๆ ควบคุมได้ดี การทรงตัวและการขับขี่เน้นความนุ่มนวลมากกว่าแบบสปอร์ต ระบบความสะดวกสบายและความปลอดภัยเทียบเท่ากันเกือบทุกระบบ แตกต่างกันเล็กน้อย ซึ้งอาจไม่ลงลึกมาก เพราะมีเวลาน้อย แต่ขอเล่าถึงสมรรถนะกับบุลลิคที่แตกต่างของขุมพลังทั้ง 3 รุ่น ที่ชัดเจนมาก ๆ
สมรรถนะนับว่าเกินพอต่อการใช้งานแบบครอบครัวหรือในชีวิตประจำวันมาก ๆ อัตราเร่งดี แซงทันใจ การควบคุมพวงมาลัยแม่นยำ และน้ำหนักกำลังดี ไม่เบาเกินไป ระบบช่วงล่างที่เน้นการเดินทางนุ่มนวลและโดยส่วนตัวเป็นรุ่นที่ช่วงล่างลงตัว กลมกล่อมมากที่สุด เพราะให้ทั้งนุ่มนวล และแอบหนึบเล็กน้อย จากน้ำหนักแบตฯ ที่ไม่มากนัก ลงตัวกับกับช่วงล่างได้พอดี ๆ ไม่ว่าจะโยนเข้าโค้ง เปลี่ยนเลยหรือจะ กระโดดสะพาน กลมกล่อมกำลังดี ครับ เดินทางสบายไม่ต้องเกร็ง ชิว ๆ แต่ถ้าต้องการความแรงก็สามารถเรียกใช้งานได้แบบไม่ต้องอายใคร
สมรรถนะรุ่นนี้นับว่ามีจุดเด่น 2 เรื่องคือ ความแรงที่เพิ่มขึ้นระดับ 300 แรงม้า และระยะทางที่วิ่งได้มากที่สุดใน SEAL คือ 650 กม. /ชาร์จ อัตราเร่งดีกว่ารุ่น Dynamic แน่นอน แต่ว่าจะค่อย ๆ ขึ้นแบบนุ่มนวล ไม่ได้กระชากมากนัก เพราะถูกปรับให้เน้นการเดินทาง แม้จะปรับโหมด สปอร์ตเอาไว้ ก็เป็นเพียงการตอบสนองคันเร่งที่ไว้มากขึ้นกว่าโหมดอื่น ๆ โดยรวมแล้ว อัตราเร่งแรงทันใจไปแบบนุ่มนวล แต่ความเร็วไหลลื่น ๆ ไปเรื่อย ๆ ส่วนช่วงล่างนั้นยังคงนุ่มนวลและอาจจะยวบ โยนมากกว่าในรุ่น Dynamic ด้วยซ้ำไป เพราะใช้พื้นฐานเหมือนกันแต่ขนาดมอเตอรืไฟฟ้าและแบตฯ โตขึ้น น้ำหนักรถต่างกันราว ๆ 133 กก. เท่ากับคนนั่งเพิ่ม 3 คน!
มาถึงตัวแรงสุด 530 แรงม้า กับ 2 มอเตอร์ไฟฟ้าหน้า-หลังขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่คาดว่าตั้งใจทำออกมาวัดดวงกับคู่แข่งไฟฟ้ายุโรปตัวเริ่มต้น ทั้งรูปทรง กำลัง และระยะทางที่ใกล้เคียงกัน อัตราเร่งของรุ่นนี้มาแบบกระโดดหรือหลายคนอาจจะเรียกว่า "วาร์ป" แต่ส่วนตัวยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่มีอาการกระชากและกระโจนออกตัวอย่างรุ่นแรงในระดับที่ยังฝืนตั้งคอสู่แรง "G" ได้อยู่ เมื่อเทียบกับตัวแรงฝั่งยุโรปรุ่นเริ่มต้นที่ผมเรียกว่า "กระชากวิญาณ" ซึ่งต้องเข้าใจว่าความแรงระดับ 500 ม้านี้ แรงจริง เร็วจริงและทันใจเกินกว่าตัวรถจะรับได้ แม้จะมีระบบช่วงล่าง FSD แปรผันตามความเร็ว แต่ด้วยกำลังที่มากและแรงบิดสูง ๆ ยังรู้ว่ามีอาการ ร่อน โยน และนุ่มเกินไป แต่ถ้าขับขี่ปกติไม่ซิ่งใช้ความเร็วเหมาะสมก็กลับให้ความนุ่มนวลเบาสบายครับ
นี่คือความเห็นส่วนตัวในวันที่ทดลองขับเพียง 1 วัน คนละ 80 - 100 กม. เท่านั้น จึงเน้นอัตราเร่ง การแซง เข้าโค้ง ออกตัว ต่าง ๆ มากกว่าขับเดินทางปกติ ทำให้แบตเตอรี่ที่ว่ามีเยอะ ยังไม่พอขับกลับกรุงเทพฯ ซึ่งแม้จะมีความจุแบตฯ ที่มากมาย แต่ด้วยพลังมอเตอร์ที่แรงเอาเรื่อง และขับสบายนุ่มนวลจนไม่รู้ตัวว่าความเร็วสูง ๆ เกินกำหนด จึงส่งผลให้ระดับไฟฟ้าในแบตฯ ลดหวบอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในการใช้ไฟฟ้าของแต่ละรุ่น ไม่สามารถบอกได้เพราะสลับกัยขับ หลายมือ หลายเท้า จึงไม่ใช่อัตราการใช้พลังงานที่แม้จริงครับ
สิ่งที่ยังคาใจใน BYD คือ
- ช่องวางแก้วน้ำเล็กมาก
- หลังคาแก้ว นั่งนาน ๆ บางคนอาจมึน ๆ เพราะแสงสะท้อน และถ้าเจอแดดแรง ๆ ก็อาจจะมีไอร้อนลอยลงมาใกล้ศีษระคนนั่ง
- พนักเบาะหลังตั้งชันเกินไป นั่งไม่สบาย
- คนตัวสุงกว่า 165 ซม. เบาะรองนั่งตอนหลังสั้นขาลอย นั่งนาน ๆ เมื่อย
- การปรับช่องแอร์บังคับ ปรับทิศทางเองไม่ได้
สรุปความคุ้มค่า
BYD SEAL รถยนต์ไฟฟ้าที่อาจจะมาวางตำแหน่งซีดานขนาดใหญ่ รูปทรงดูสปอร์ต แต่ก็ออกแบบมาเน้นการใช้งานในชีวิตประจำวัน นุ่มนวล ขับง่าย ปลอดภัย กว้างขวาง และให้สมรรถนะที่ดีกว่ารถเบนซินไม่มีเทอร์โบระดับเดียวกัน นอกจากนี้ยังเน้นความคุ้มค่าไม่ใช้น้ำมัน แบตเตอรี่ลูกใหญ่วิ่งได้เยอะ หากใช้ไม่เกิน 100 - 150 กม.ต่อวัน นับว่าเพียงพอในการใช้งานสบาย ๆ
ซึ่งความแรงระดับนี้ เทียบเท่ารถยุโรปรุ่น Performance ได้สบาย ๆ แต่ความจริงแล้ว SEAL ไม่ได้ตั้งใจออกแบบให้เป็นรถสปอร์ต เน้นเป็นรถใช้งาน อัตราเร่งจึงนุ่ม ๆ ค่อย ๆ ขึ้น และช่วงล่างที่ยอมรับว่า เดินทางสบาย และปลอดภัยเป็นหลักครับ