GURU Ratings : 9/10 คุ้มไม่คุ้ม เช็กก่อน! Mercedes Benz GLC 350e รถยนต์ SUV ปลั๊กอิน ไฮบริด พร้อมลุยกับ Off-Road Mode ที่ใช้งานได้ 3 ระบบเบนซิน+ไฮลริด, เบนซินล้วน+ชาร์จไฟ และมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนที่วิ่งได้เกือบ 100 กม. แถมเสียบไฟชาร์จกลับได้ทั้ง AC และ DC กับค่าตัว 4,180,000 บาท และมีอะไรซ่อนเอาไว้ในรถคันนี้อีกเพียบ ตามมาดูเลยครับ จุดเด่น | จุดสังเกต | - Plug-in Hybrid พลัง 313 แรงม้า
- OFF-ROAD Package
- รองรับ DC ชาร์จเร็วใน 20 นาที
- 0-100 กม./ชม. ใน 6.7 วินาที
- EV Mode วิ่งได้เกือบ 100 กม.
- ระบบ MBUX7 ระบบเสียง Burmester® 3D surround sound system
- มาตรวัด Digital Instrument cluster ขนาด 12.3 นิ้ว
- จอบันเทิง 11.9 นิ้ว
| - ช่วงล่างเน้นนุ่มนวลมากกว่าสปอร์ต
- ที่วางแก้วน้ำน้อย
- USB-C เท่านั้น
- กระจกมองข้างเล็กไม่สมดุลกับตัวรถ
- บันไดข้างเล็กเหยียบลำบาก
| |
จุดเด่นภายนอกในภาย
Mercedes Benz GLC 350e รถครอบครัวพรีเมี่ยมหรือชื่อเต็ม ๆ คือ
GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic มาในสไตล์ SUV ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และเทคโนโลยีสุดไฮเทคจากรุ่น E และ C-Class
รหัสตัวถัง X254 ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 มิติตัวถังขนาดความยาว 4,721 มม. ความกว้าง 1,918 มม. ความสูง 1,631 มม. ระยะฐานล้อ 2,888 มม. เบาะแถวที่สองและสามแบบ Flat trunk floor ความจุสูงถึง 470 - 1,530 ลิตร
ภายนอกตกแต่งด้วยชุดแต่ง AMG bodystyling โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Star pattern กันชนหน้าดีไซน์ใหม่แบบ A-shape มาพร้อมไฟหน้าความละเอียดสูง 1.3 ล้านพิกเซล ติดตั้งเทคโนโลยียกระดับความปลอดภัยขั้นสูงแบบ DIGITAL LIGHT และ ULTRA RANGE Highbeam ส่องไกลถึง 650 เมตร ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist Plus) และระบบปรับไฟหน้าตามองศาการเลี้ยวรถ (Cornering light)
กระจกข้างพร้อมไฟเลี้ยว เสริมคิ้วโครเมี่ยมที่ขอบกระจกรอบคันและมือจับประตู หลังคาพาโนรามิค ประตูท้ายไฟฟ้า ราวหลังคาอลูมิเนียม เสริมบันไดข้างแบบสแตนเลสดีไซน์สปอร์ต รวมถึงล้ออัลลอยแบบ AMG 5-Twin Spoke ขนาด 20 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารตกแต่งแบบ AMG Interior Package ให้ Mood & Tone สปอร์ตแต่ยังคงความหรูหราตามแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ติดตั้งเบาะหนังคู่หน้าแบบ Sport Seats ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อม memory seat 3 ตำแหน่ง และระบบดันหลัง 4 ทิศทาง แบบ Lumbar support
คอนโซลกลางใช้วัสดุแบบ High-Gloss Black สีดำเงา และ Metal Structure trim คอนโซลหน้าและแผงประตูหุ้มหนัง ARTICO man-made ตกแต่งลวดลายแบบ Nappa พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันเจเนอเรชั่นที่ 5 หุ้มด้วยหนัง Nappa หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC ระบบฟอกอากาศแบบ ENERGIZING AIR CONTROL ระบบตรวจวัดระดับฝุ่นละออง PM 2.5 ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบ Wireless charging
ความบันเทิง Burmester® ระบบปฏิบัติการ MBUX7
GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic คอนโซนหน้า
ดีไซน์การใช้งานในรูปแบบ Digital cockpit หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Digital Instrument cluster ขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอตรงกลางความละเอียดสูงขนาด 11.9 นิ้ว ควบคุมผ่านระบบสัมผัส ทำงานควบคู่กับ MBUX7 ที่สามารถเรียนรู้ผู้ใช้งานด้วยระบบ AI และปรับระบบการใช้งานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Burmester® 3D surround sound system ที่ทรงพลังด้วยลำโพง 15 ตำแหน่ง ไฟตกแต่งห้องโดยสารแบบ Premium Ambient Lighting ปรับได้ 64 เฉดสี
ระบบ Mercedes me connect ในการเชื่อมต่อกับโลกของอินเทอร์เน็ตอย่างไร้ขีดจำกัด รองรับการสั่งงานด้วยเสียงถึง 27 ภาษา ทั้งยังปลอดภัยด้วยการเข้าใช้งาน User profile แบบ Fingerprint scanner ที่ใช้ลายนิ้วมือยืนยันผู้ใช้งานในตำแหน่งผู้ขับขี่ผ่านการเชื่อมข้อมูลใน Mercedes me PIN บนโทรศัพท์มือถือ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบแผนที่นำทางแบบ Hard-disc navigation แสดงผลแบบ 3 มิติ พร้อมระบบ MBUX Augmented Reality ที่ผสานเทคโนโลยี AR แสดงภาพสัญลักษณ์การนำทางบน Navigation display ที่แสดงภาพถนนจริง ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการนำทางมากยิ่งขึ้น
พลัง Hybrid 313 แรงม้า EV Mode เกือบ 100 กม. ชาร์จ DC แค่ 2 ชม.!
GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic พลังเบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ แปรผัน
อินเตอร์คูลเลอร์ ผสานมอเตอร์ไฟฟ้ารวมกำลังทั้งระบบสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 550 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. เพียง 6.7 วินาที ความสูงสุดจากโรงงาน 218 กม./ชม. ผ่านระบบขับเคลื่อ 4 ล้อ ที่มีโหมด Off-Road ให้ใช้ลุยเส้นทางโหด ๆ ได้ด้วย
มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-Ion) แรงดันสูงที่มีความจุ 31.2 kWh ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลมากกว่า 120 กม./การชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (WLTP) รองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC Charge) สูงสุด 60 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 10 - 80% เพียง 20 นาที ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 0 - 100% ในระยะเวลา 2 ชั่วโมง 45 นาที
สมรรถนะหลังทดลองขับแค่ 3 ชม.!
การทดสอบ
GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic ครั้งนี้มีเวลาให้ลองเพียงแค่ 3 ชม. ต่อ 1 สื่อ สลับหมุนเวียนกัน พอจะสรุปได้คร่าว ๆ ว่า เครื่องแรง ขับสนุก โหมดวิ่งไฟฟ้าล้วนทำความเร็วได้แตะ 140 กม./ชม. แบบเครื่องยนต์ไม่ติด (ใช้คันเร่งเนียน ๆ)
อัตราเร่งออกตัวและแซงทำได้ทันใจมาก ไม่รอรอบไม่ต้องรอลุ้น สามารถแซงได้ขาด สบาย ๆ พลังเหลือล้นมาก ๆ สำหรับรถไซซ์นี้กับ 300 กว่าแรงม้า พร้อมด้วยแรงบิด 550 นิวตันเมตร ขับสนุก จนคิดว่าเป็นรถสปอร์ตตัวถังต่ำไปเลยครับ
การควบคุมพวงมาลัย แม่นยำ แม้จะเป็นรถยกสูง แต่ช่วงล่างยังคงเน้นความนุ่มนวลมกากว่าสปอร์ต เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของครอบครัว มีอาการโยนบางขณะเข้าทางโค้งหรือเปลี่ยนช่องทางอย่างรวดเร็ว
วิสัยทัศน์รอบคันดีมองง่าย มีมุมอับสายน้อย แต่กระจกมองข้างดูมีขนาดไม่สมส่วนกับตัวรถ และตัวเลนส์กระจกแบบและแคบไปบ้าง ต้องใช้ความคุ้นชินสักพัก จึงจะมองได้ชำนาญมากขึ้น เบาะนั่งที่ปรับได้ละเอียดหลายทิศทาง และพวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง ทำให้ปรับท่านั่งให้เหมาะสมกับการขับขี่ได้ดี
Mercedes GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic นับเป็นรถที่มี 3 ระบบการขับเคลื่อนในคันเดียว
1.ระบบไฮบริด เครื่องยนต์+กับมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถขับขี่ได้ประหยัดและขับสนุก
2.ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าล้วน สามารถขับขี่ได้ไกลกว่า 120 กม. (WLTP) ซึ่งเมื่อลองขับจริง ๆ ใช้ได้ราว 90 - 100 กม. และยังทำความเร็วได้เกิน 120 กม./ชม. โดยเครื่องยนต์ไม่ติดอีกด้วย
3.เบนซิน+ชาร์จไฟกลับ โหมด "S" เพิ่มความสปอร์ตในการขับขี่และปั่นไฟฟ้าชาร์จกลับเข้าแบตเตอรี่ได้โหมดเดียว ใช้ในกรณีที่ต้องการความสปอร์ต เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบและมอเตอร์ไฟฟ้าจะผสานกันให้ได้ใช้กำลังสูงสุด และจะชาร์จไฟกลับระบบไฟพร้อม ๆ กัน เพื่อสำรองไว้ใช้งานต่อไป
4.รถยนต์ไฟฟ้าล้วน ข้อนี้แถม สำหรับผู้ที่ขยันแวะชาร์จหรือ ใช้งานระยะสั้น ๆ ไม่เกิน 100 กม. ต่อครั้งหรือต่อวัน สามารถใช้ระบบ EV Mode วิ่งตลอดระยะทาง และสามารถชาร์จตามสถานีบริการได้ด้วยหัวชาร์จเร็วแบบ DC Charge สูงสุด 60 kWh จาก 10 - 80% เพียง 20 นาที
จอกลางขั้นเทพ
จอกลางขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ที่รวมทุกฟังก์ชั่นใช้งานเอาไว้ มองชัดเจนไหลลื่น สั่งการทันใจ มาพร้อมภาพรอบคันปรับมุมมองได้หลายรูปแบบ โดยเฉพาะเมื่อเลือก ไอคอน Off-Road จะสามารถมองภาพใต้ท้องรถได้ Transparent bonnet เมื่อขับขี่ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ให้ปลอดภัย
มาพร้อมแผนที่นำทางแบบ Hard-disc navigation แสดงผลแบบ 3 มิติ "MBUX Augmented Reality" เทคโนโลยี AR แสดงภาพสัญลักษณ์การนำทางบน Navigation display ที่แสดงภาพถนนจริง เหมือนกำลังเล่นเกมรถยนต์ ภาพสวยคมชัดมองง่ายและไม่หลงทางแน่นอนครับ นอกจากนี้ยังเลือกปรับรูปแบบการขับขี่บนจอนี้ได้ พร้อมกับบอกรายละเอียดต่าง ๆ และรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay/AdroidAuto แบบไร้สาย
ระบบความปลอดภัยเต็มคัน
ระบบความปลอดภัยมาครบถ้วน โดยมีระบบที่เด่น ๆ และน่าสนใจขนมาจากในรุ่น E และ C-Class แบบเต็มระบบ เช่น
- ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE
- ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light)
- ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) พร้อมระบบแจ้งเตือนก่อนออกจากรถแบบ exit warning
- ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ
- ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- ระบบรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร, ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure loss warning system)
พร้อมกับความปลอดภัยด้วยการเข้าใช้งาน User profile แบบ Fingerprint scanner ที่ใช้ลายนิ้วมือยืนยันผู้ใช้งานในตำแหน่งผู้ขับขี่ผ่านการเชื่อมข้อมูลใน Mercedes me PIN บนโทรศัพท์มือถือ
สรุปความคุ้มค่าราคา 4.18 ล้านบาท
Mercedes GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic รถที่เหมาะกับผู้ต้องการรถยกสูง อเนกประสงค์ขนาดกลาง ๆ กึ่งใหญ่ นั่งสบายทุกตำแหน่ง สมรรถนะแรงราวกับรถสปอร์ต แต่ให้ความประหยัดในตัว และยังเป็นรถที่เลือกใช้งานได้ 3(+1) in 1 ในคันเดียว นอกจากนี้ยังสามารถลุยในรูปแบบ Off-Road ได้ไม่แพ้รถ SUV ขาลุยรุ่นอื่น ๆ นับว่าให้ฟังก์ชั่นการใช้งานหลายหลายครบทุกรูปแบบจริง ๆ ครับ
ราคา 4,180,000 บาท สำหรับชื่อชั้น
"รถเบนซ์" คงตัดสินใจไม่ยากนัก