All New GWM TANK 500 รถยนต์ Full-size Hybrid SUV AWD รถยนต์อเนกประสงค์พรีเมียมที่มาพร้อมระบบ AWD ลุยได้ทุกที่ ขุมพลังไฮบริดแรงประหยัดอีกด้วย นับว่าเป็นรถทที่น่าสนใจมาก และเตรียมประกาศราคา 28 ก.ย.66 นี้ มาดูกันว่ามีจุดเด่นอะไรกันบ้าง
(รีวิว Tank500)
All new GWM TANK 500 นับเป็นรถยนต์ SUV ขนาดตัวถังที่ใหญ่ที่สุดในคลาสรถยนต์ 7 ที่นั่งในประเทศไทยก็ว่าได้ เน้นภาพลักษณ์พรีเมี่ยมหรูหรา "ดูแพง" สมฐานะ ซึ่งเมื่อส่องออปชั่นก็ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงหรูหราเทียบเท่ารถค่ายยุโรปได้อย่างสบาย ๆ ครับ
ภายนอก กระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่ ไฟหน้า LED อัจฉริยะที่มาพร้อมฟังก์ชันเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่องยนต์ (Follow-me-home) และฟังก์ชันปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ เสริมด้วยไฟ Daytime Running Light แบบ LED รูปทรงสี่เหลี่ยม 2 วงพร้อมแถบไฟแนวนอนด้านบน ไฟตัดหมอก LED ไฟท้าย LED
ซุ้มล้อขนาดใหญ่ พร้อมบันไดไฟฟ้าเมื่อเปิดประตูหรือปลดล็อกรถจะกางออกมาและเก็บให้เมื่อปิดประตูหรือล็อกรถ ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ยางขนาด 265/50 R20 ส่วนรุ่น PRO ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมด้วยยางขนาด 265/60 R18 ราวหลังพร้อมกับคาพาโนมาริคยาวจรดที่นั่งตอนหลัง ประตูท้ายพร้อมยางอะไหล่เปิดแบบด้านข้างพร้อมโช้คผ่านแรงและยังมีระบบ "ดูด" ด้วยไฟฟ้าเพียงปิดเบา ๆ ก็จะปิดสนิทให้อัตโนมัติ
ตัวรถมีความยาว 5,078 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,934 มิลลิเมตร ความสูง 1,905 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้น 224 มิลลิเมตร ลุยน้ำลึกได้สูงสุด 800 มม. ความจุ 75 ลิตร
ภายในหรูพรีเมียมจริง
วัสดุตกแต่งระดับพรีเมียม โดยรุ่น PRO จะเป็นห้องโดยสารโทนสีดำ ส่วนรุ่น ULTRA จะเป็นห้องโดยสารโทนสีดำ/น้ำเงินและเบจ พร้อม Ambient Light พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อม Paddle shift มาตรวัดคนขับกว้างขนาด 12.3 นิ้ว พร้อม Head-up dislpay สะท้อนกระจก
เครื่องเสียงจอสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว เป็นศูนย์กลางการควบคุมระบบความบันเทิงของรถเชื่อมต่อ Bluetooth กับสมาร์ตโฟน ระบบนำทางเนวิเกเตอร์, การสั่งการด้วยเสียง, การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต, อัปเดตระบบผ่านทางออนไลน์ (FOTA) เป็นต้น ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto สำหรับใช้งานกับสมาร์ตโฟนระบบ iOS และ Android รองรับการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน GWM ตรวจสอบรถได้
- ระบบตรวจสอบสถานะประตูและหน้าต่าง
- ระบบตรวจสอบสถานะหลังคาซันรูฟ
- ระบบตรวจสอบสถานะไฟภายนอก
- ระบบตรวจสอบสถานะระบบปรับอากาศ
- ระบบตรวจสอบสถานะเบาะระบายอากาศ
- ระบบตรวจสอบระยะทางทั้งหมด / ระยะทางวิ่งคงเหลือ / ปริมาณน้ำมัน
- ระบบตรวจสอบสถานะอุณหภูมิและแรงดันลมยาง
- ระบบช่วยเตือนเมื่อสถานะประตูและหน้าต่างห้องผิดปกติ
- ระบบช่วยเตือนเมื่อแบตเตอรี่ 12V และแบตเตอรี่ไฮบริดต่ำ
- ระบบช่วยเตือนเมื่อปริมาณน้ำมันต่ำ
- ระบบช่วยเตือนการพ่วงรถ
- ระบบค้นหาตำแหน่งรถยนต์
- ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้ยังสามารถสั่งการรถยนต์ได้จากสมาร์ตโฟน เช่น สั่งล็อกและปลดล็อกประตู สั่งเปิด-ปิดกระจกหน้าต่าง สั่งเปิด-ปิดหลังคาซันรูฟ สั่งเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศและระบบเปิด-ปิดเครื่องฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร เป็นต้น
ในส่วนของระบบเครื่องเสียง รุ่น
ULTRA จะได้ระบบเสียง
Infinity ลำโพง 12 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร พลังเสียงกระหึ่ม ฟังเพราะตอบโจทย์ทั้งการดูหนังและฟังเพลง ส่วนรุ่น PRO จะเป็นระบบเสียงลำโพง 8 ตำแหน่ง นอกจากนี้ รถทั้ง 2 รุ่นย่อยจะได้ระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถมาเป็นมาตรฐาน ช่วยปรับระดับความดังเสียงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและความเร็วขณะขับขี่อัตโนมัติ เพิ่มความต่อเนื่องในการฟังเพลงและรับชมความบันเทิงได้ดียิ่งขึ้น
คอนโซลกลางติดตั้ง เบรกมือไฟฟ้า, ระบบ Auto Brake Hold, แป้นหมุนปรับโหมดการขับขี่ ปุ่มปรับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ, ปุ่มเปิด-ปิดระบบความปลอดภัย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแท่นชาร์จไร้สาย, ช่องวางแก้วน้ำ, ถาดวางของ และกล่องเก็บของกึ่งกลางเบาะคู่หน้าครบครัน รวมถึงมีช่องจ่ายไฟ 12V ช่อง USB-A และ USB-C อย่างละ 1 ช่องอยู่ใต้คอนโซลกลาง
เบาะในรุ่น
ULTRA เป็นหนัง Nappa ให้ความนุ่มและนั่งสบาย ส่วนรุ่น PRO เป็นหนังสังเคราะห์ระดับพรีเมียม เบาะนั่งคู่หน้ามาพร้อมกับฟังก์ชันเพิ่มความสบายที่ครบครัน ได้แก่ ระบบบันทึกตำแหน่งพร้อม Welcome seat, ระบบระบายอากาศ และระบบนวดไฟฟ้า โดยเบาะคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทางพร้อมกับตัวดันหลังปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ส่วนเบาะผู้โดยสารตัวหน้าปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทางพร้อม VIP สวิตช์
เบาะนั่งแถวสองปรับเลื่อนหน้า-หลังได้พนักพิงสามารถปรับเอนได้ พับแยกได้แบบ 60/40 นอกจากนี้ตัวเบาะยังมีฟังก์ชันระบายอากาศเหมือนเบาะคู่หน้าอีกด้วย และเบาะนั่งแถวสามมีพื้นที่เพียงพอสำหรับผู้ใหญ่สามารถนั่งได้โดยไม่อึดอัด เข้า-ออกได้ง่าย พนักพิงหลังพับได้แบบ 50/50 ด้วยระบบไฟฟ้า
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอิสระ 3 โซนแบ่งเป็นด้านหน้าซ้าย-ขวาและผู้โดยสารด้านหลังพร้อมด้วยระบบกรองฝุ่น PM2.5 กระจกไฟฟ้าแบบ One – Touch 4 บาน, ม่านบังแดดสำหรับผู้โดยสารเบาะนั่งแถวสอง, ช่องจ่ายไฟสำรอง, ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและหลัง ระบบไล่ฝ้ากระจกหน้า-หลัง และระบบเปิด-ปิดล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้และออกห่างจากรถ
All-New GWM Tank 500 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ความจุ 2.0 ลิตร เทอร์โบ VGT พละกำลังสูงสุด 245 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 106 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 268 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 1.7kWh เมื่อรวมกำลังสูงสุดทั้งระบบจะได้ 350 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 616 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ DHT 9 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD
ยังมีโหมดการขับขี่ 4 โหมด ได้แก่ มาตรฐาน, สปอร์ต, ประหยัด, พื้นหิมะ พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ออฟโรด 7 โหมด ได้แก่ โคลน, ทราย, หิน, 4H, อัตโนมัติ, 4L และ เชี่ยวชาญ กับระบบช่วยเหลือการขับขี่อีกเยอะคือ ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลังแบบอิเล็กทรอนิกส์, ระบบช่วยกลับรถในที่แคบ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Off-road, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบช่วยเบรกขณะลงทางลาดชัน, ระบบช่วยในการลุยน้ำ, ระบบตรวจจับความลึกของน้ำ และระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body transparent) มาพร้อมระบบช่วงล่าง All-New GWM Tank 500 ติดตั้งกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ดับเบิ้ล ครอส อาร์ม กันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงค์ พวงมาลัยพาวเวอร์ผ่อนแรงด้วยระบบไฟฟ้า EPS
ระบบช่วยเหลือการขับขี่
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
- เตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
- ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)
ระบบช่วยป้องกันก่อนเกิดเหตุ
- เตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
- ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)
ระบบช่วยควบคุมรถ
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (MEB)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- ช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP)
- ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)
ความปลอดภัยเพิ่มเติม
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลม
- เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลัง
- ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
- ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตู (DOW)
- ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS)
- ระบบช่วยเตือนป้ายจราจรพร้อมช่วยเตือนเมื่อความเร็วสูงเกินค่าที่กำหนด
- เตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถมีด้านข้างก่อนลงจาก
- ชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2 (SCM)
All-New GWM Tank 500 นับเป็นรถยนต์ 3 แถว 7 ที่นั่งคันใหญ่ ที่ให้ทั้งความหรูหรา สะดวกสบาย ความปลอดภัย พร้อมลุยได้ทุกสภาพถนน กับระดับความแรงและยังให้ความประหยัดด้วยระบบไฮบริดอีกด้วย มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่