ฮอนด้า ดับเบิ้ลยู-อาร์วี อร์เอส 2023 (Honda WR-V RS) รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางที่จะทำตลาดสวมรอย
Jazz ที่ยกเลิกขาย แม้หน้าตาจะแตกต่างและดูเป็น
"หนุ่มอินโดฯ" หล่อเข้ม แต่ก็นับว่ามีลูกเล่นและฟังก์ชั่นรวมถึงสมรรถนะที่เทียบเท่ารุ่นพี่ ๆ และยังให้ความประหยัดแบบอีโค่คาร์เลย
ยกสูงตัวสั้นคล่องเคล่ว
เริ่มด้วยภายนอกไฟหน้า ไฟตัดหมอก LED ไฟท้าย LED ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential มีระยะฐานล้อ 2,481 มม. ตัวรถยาว 4,060 มม. กว้าง 1,780 มม. สูง 1,608 มม. พร้อมความสูงใต้ท้อง 220 มม. เหมือนกับการนำเอา
BR-V มาย่นให้สั้นลง ทำให้คล่องตัวมากขึ้น และในรุ่น RS นี้ก็มากับล้ออัลลอย 17 นิ้ว
ภายในเรียบง่ายเพียงพอใช้งาน
มาตรวัดแบบอนาล็อกผสมพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว แสดงภาพการทำงานของระบบช่วยเหลือต่าง ๆ ใน Honda SENSING พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นปรับระดับสูง-ต่ำได้ พร้อม Paddle Shift แอบเสียดายที่ปรับใกล้-ไกลไม่ได้ เบาะปรับมือพร้อมปรับสูง-ต่ำฝั่งคนขับ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ที่วางแก้วน้ำด้านหน้า 4 ตำแหน่งตรงกลางและแผงประตูหน้า ส่วนด้านหลังมีที่พักแขนพร้อมช่วงวางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง ประตูท้ายระบบเปิดไฟฟ้าแต่เป็นโช้คช่วยผ่อนแรงไม่ใช้ระบบไฟฟ้า
ความบันเทิง "แอบย้อนยุค 90's"
จอความบันเทิงแบบจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch ฝั่งในคอนโซลอาจไม่ทันสมัยมากนักแต่ก็มีลูกเล่นพอตัว เช่น เชื่อมต่อ AppleCarPlay หรือ AnDroid Auto แบบใช้ USB พร้อมระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT ลำโพง 6 ตำแหน่ง ส่วนในรุ่น SV 4 ตำแหน่ง โดยรวมยังคงให้ความรู้สึกเหมือนรถยนต์ในรุ่นเก่า ๆ ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ในกลุมและใครที่ต้องการจะอัพเกรทระบบฟรอน์วิทยุก็ทำได้ง่ายมาก ๆ แตกต่างจากรถยนต์รุ่นปัจจุบันที่เป้นแบบฝั่งรวมเป็นเนื้อเดียวในคอนโซลหรือเป็นจอแบบเท็บเล็ต ส่วนตัวมองว่า "ดี" สำหรับผู้ชอบการแต่งเครื่องเสียง แต่ก็ยังให้ความย้อนยุค 90's ทั้งที่รถยนต์ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีไปไกลแล้ว
ขุมพลัง 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ทนทึกประหยัดขับสนุก
ขุมพลังเบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 120 แรงม้า แรงบิด 145 นิวตันเมตร เกียร์ CVT คันเร่งไฟฟ้าหรือ DBW ช่าวงลางด้านหน้าแมกเฟอร์สัน สตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชันบีมแบบ H-shape ระบบเบรกหน้าดิกส์ส่วนด้านหลังยังเป็นดรัมเบรกอยู่ แต่ก็หมดห่วงเรื่องความจุกจิกเพราะใช้กันมาในอดีตหลายรุ่น
จุดเด่นคือความแรงเกินคาด ด้วยเครื่องยนต์ และเกียร์ CVT ทำให้ใช้กำลังในช่วงรอบเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่บวกกับเกียร์ CVT ที่ทำงานได้ราบรื่น และยังให้ความประหยัดบนมาตรวัดระดับ 16 - 18 กม./ลิตร แบบ "งง ๆ " ว่าประหยัดได้ตัวเลขน่าพอใจขนานนี้ได้อย่างไร?
สมรรถนะการเร่งออกตัวและเร่งแซงทำได้ดี คล้าย ๆ กับกำลังขับรถขนาดเล็กอย่างเช่น
Honda Jazz หรือ
City 1.5 ลิตร (ในรุ่นปีก่อนหน้า) ไม่รู้สึกถึงความอืด แถมยังเร่งได้ทันใจในระดับที่เครื่อง 1.5 ลิตร ทำได้สบาย ๆ เลยครับ ระบบพวงมาลัยน้ำหนักเบาเลี้ยวง่ายรัสมีไม่กว้างมาก ตัวรถสั้นทำให้กลับรถในที่แคบได้สะดวก ส่วนระบบช่วงล่างต้องในความเร็วต่ำจะออกกระเด้งและแข็ง ๆ แต่เมื่อผ่านเนินชะลอความเร็วกลับนุ่มและยวบ ยิ่งในความเร็วสูงยังมีอาการ "นุ่มนวล" และพวงมาลัย "เบาหวิว" ผู้ขับต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าทางโค้งหรือการเปลี่ยนเลนอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็เป็นไปตามความสูงระดับ 220 มม. ของ
WR-V นั่นเอง
ระบบเบรกแม้ว่าจะเป็นแบบหน้าดิสก์ หลังดรัม แต่กลับเบรกได้มั่นใจและน้ำหนักในการกดลงบนแป้นเบรกถือว่าดี ไม่ไวเกินไป หัวไม่ทิ่ม และใช้น้ำหนักไม่มากในการเพิ่มเพื่อหยุดรถ แม้ต้องเบรกในขณะเลี้ยวโค้ง ตัวรถก็สามารถควบคุมและชะลอความเร็วได้แบบ เนียบ ๆ นับว่าระบบเบรกใช้ได้ ลงตัวเหมาะสมกับตัวและน้ำหนักของรถครับ
ความปลอดภัย Honda SENSING ครบเต็มระบบ
ความปลอดภัย Honda SENSING ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS) ระบบนี้ทำงานแบบกลาง ๆ คือ ไม่เตือนบ่อย อยู่ในระยะห่างจากคันหน้าที่ผู้ขับพอจะคุ้นเคย หากต้องแซงและเปลี่ยนเลนในระยะชิด ๆ
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS) ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM with LDW) ระบบนี้ก้ยังทำงานได้สมูทราบรื่นและแม่นยำเทียบเท่าเหมือนใน
CR-V,
Civic หรือ
HR-V และอีกหลายรุ่น นั่นคือ การค่อย ๆ ดึงเบา ๆ หรือการขยับเลี้ยวตามทิศทางของถนนที่โค้ง ถือว่าให้ความนุ่มนวลและแม่นยำมาก ๆ ครับ
นอกจากนี้ก้ยังมีระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB) ที่ชอบเปิดไฟสูงในที่มืด ๆ เองโดยไม่ตั้งใจ ในบางครั้งมีรถส่วนมาไกล ๆ กว่าที่จะปรับไฟต่ำให้ก็รอจนมีแสงสว่างมากพอจากรถที่ส่วนทางมา ซึ่งอาจจะถูก @#$%^&...... จากคันที่ส่วนมากได้!!! โดยส่วนตัวคิดว่าเอาไว้ใช้ในเส้นทางมืดรถน้อย ๆ หรือต่างจังหวัดไปเลยน่าจะดีกว่าครับ
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (LCDN) นับว่าดีมาก ๆ ใช้สะดวกสบายในเวลารถเคลื่อนที่ตาม ๆ ในระยะห่างที่เหมาะสม หรือเดินทางไกลยาว ๆ ยิ่งเปิดระบบช่วงควบคุมรถในอยู่ในเลนยิ่งสบายเลยครับ แต่ในขณะขับผ่านการจราจราหนาแน่น ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ เพราะเมื่อรถเข้ามาแทกหรือมีรถจักรยานยนต์ปาดเข้ามาด้านหน้า ระบบอาจจะรวน ไม่ยอมเบรกให้และก็อาจจะเร่งความเร็วต่อไปอีก
ส่วนระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลือนที่อันนี้ดีครับ ควรต้องมีทุกคันบนโลกนี้ เพราะว่า เมื่อจอดติดไฟแดง มักจะเล่นโทรศัพท์ (ซึ่งผมก็เป็น) เมื่อเล่นเพลินหรือกำลังหยิบจับสิ่งของจำเป็นก็ตาม รถคันหน้าเคลื่อนที่ออกไป ระบบก้จะเตือนเราให้เร่งออกตัวได้ทันก่อนที่ "รถคันหลังจะบีบแตรใส่" สำหรับ WR-V นับว่ามีมาครบเพียงพอใช้งาน และในรุ่น RS นี้เพิ่มกล้องมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) และม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
สรุปความคุ้มค่ากับราคา 869,000 บาท
Honda WR-V RS นับเป็นรถอเนกประสงค์ที่ผมเองถือว่ามาแทน JAZZ ได้ความกว้างใหญ่และการปรับเปลี่ยนรูปแบบเบาะตอนหลังคล้าย ๆ กัน แถมยังยกสุงให้ลุยน้ำได้สะดวก นอกจากนี้ยังเพิ่มระบบความปลอดภันเข้าไปอีกเพียบเทียบเท่ารถรุ่นใหญ่ ๆ ของฮอนด้าเองเลย ภายในกว้างพอนั่งได้สบาย แต่อาจไม่เท่า Jazz ที่ระดับกับขนาดเบาะที่นั่งแล้วลงตัวกว่า
แต่งซิ่ง-จัดทรง
และถ้าหากคุณยังชองอารมณ์ของเสียง ความรู้สึกและพลังจากเครื่องยนต์สันดาป และสามารถนำไปต่อยอดเพิ่มความแรง หรือจะจัดทรงสวย ๆ ซึ่งในบรรดารถที่ขับสนุก ๆ กับราคาระดับนี้เหลือไม่กี่รุ่นในประเทศไทยแล้ว หากคุณรับได้กับรูปทรง หน้าตาที่อาจจะยังไม่คุ้นเคยและการออกแบบภายในที่ย้อนวัย 90's แต่รับได้ทั้ง สมรรถนะ ความประหยัด ความปลอดภัย และยังชอบขับขี่เครื่องยนต์สันดาป ไม่ข้ามไปไฮบริดหรือไฟฟ้าล้วน
WR-V RS น่าจะตรงใจมากที่สุดนะครับ
สุดท้ายต้องไปลองขับสัมผัสดูก่อนตัดสินใจนะครับ