NEW HAVAL JOLION Sport 2023 (ฮาวาล โจไลออน สปอร์ต 2023) รถยนต์อเนกประสงค์ยกสูง B-Segment ที่มีขนาดตัวรถใหญ่โปร่งนั่งสบายปรับลุกสปอร์ตตามชื่อ เริ่มด้วยกระจังหน้า Black Symmetric ดีไซน์ใหม่สีดำล้วน โดดเด่นด้วยโลโก้ HAVAL ใหม่ ส่วนท้ายดิฟฟิวเซอร์ ดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ขนาด 18 นิ้ว สีดำล้วน และอุปกรณ์ตกแต่งแบบ ALL BLACK ที่กระจกมองข้าง, Roof Rail และ Shark Fin สวยดุเข้มสปอร์ตมากขึ้น
มิติตัวรถ 1,874 x 4,472 x 1,626 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2,700 มม. ภายนอกยังคงให้อุปกรณ์เด่น ๆ ทันสมัยเช่นเดียวกับรุ่น ULTRA ได้แก่ ไฟหน้า FULL LED พร้อม Daytime Running Light ไฟท้าย LED พร้อมไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED กระจกข้างมีโหมดพับไฟฟ้าเมื่อล็อคประตู กุญแจสมาร์ทเอนทรี่ฝั่งคนขับ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ฝั่งคนนั่งปรับมือ พวงมาลัยปรับได้แค่ขึ้น-ลง กระจกมองหลังปรับลดแสงด้วยมือ เบาะผุ้โดยสารหลังไม่มีที่เท้าแขน แต่สามารถพับได้ 60 : 40 แบนราบพื้นที่ท้ายรถกว้างแต่ตื้นเพราะมีแบตเตอรี่ข้างใต้ และฝาท้ายสวิตช์ไฟฟ้าแต่เปิดด้วยมือ ถือว่าออปชั่นใช้งานพื้นฐานเพียงพอแล้ว
ความสะดวกสบายพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นควบคุมเสียงแสง คำสัง่เสียง หน้าจอมาตรวัดสีขนาด 7 นิ้ว จอกลางแบบสัมผัส 10.25 นิ้ว ใช้งานลืนปรื้ดกว่าน้องแมว รองรับ Apple CarPlay, Android Auto, Bluetooth และ MP3พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา ช่องแอร์ผู้โดยสารตอนหลัง เกียร์แบบ Electronic Shifter ที่พักแขนคอนโซลกลางและที่วางแก้วน้ำแบบ 2 ขนาดเล็กใหญ่ ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและหลัง และช่องต่อ USB สำหรับกล้องบันทึกภาพ
NEW HAVAL JOLION Sport 2023 ใช้ขุมพลังเบนซิน 1.5 ลิตร ไฮบริด กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิด 125 นิวตันเมตร ผสานมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร กำลังรวมทั้งระบบ 190 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร ผ่านเกียร์ DHT กันสะเทือนหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม เหมือนในรุ่น ULTRAและสามารถเลือกโหมดขับขี่ได้ 4 แบบ คือ Normal Sport Eco และ Snow
ความปลอดภัยพื้นฐานครบและปรับใหม่ให้เหมาะสม
NEW HAVAL JOLION Sport 2023 ถูกปรับอุปกรณ์และฟังก์ชั่นบางอย่างให้เหมาะสมจากการสำรวจในกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องรถขับสนุก แรง ช่วงล่างดี ๆ กว้างขวางนั่งสบาย แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบความปลอดภัยบางอย่าง เพราะ "ปิด" แทบทุกครั้งที่ขับ GWM จึงกลับมาปรับปรุงในส่วนระบบต่างใหม่ให้ตรงกับความต้องของคนกลุ่มนี้ เช่น กลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน ที่ชื่นชอบสไตล์ขับขี่ในแบบธรรมชาติ สามารถควบคุมได้เเอง และคิดว่าบางระบบก็ไม่จำเป็นออกไป
โดยใน Jolion Sport นี้จึงคงมีระบบที่จำเป็น และปรับออกไปบ้าง ซึ่งระบบความปลอดภัยพื้นฐานและเหนือมาตรฐานได้แก่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (CC) กล้องแสดงภาพขณะถอยหลัง ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) ระบบช่วยเตือนเมื่อความเร็วสูงเกินค่ากำหนด สัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉินเมื่อเบรกรถกระทันหัน (ESS) เทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะผู้ขับขี่สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว (Intelligent Single Pedal) ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) จะสังเกตุได้จากแผงสวิตช์ตรงคอนโซลกลางมีเว้นว่างไปอันอันที่หายไปคือ สวิตช์เปิดดูภาพรอบคัน และสวิตช์สั่งระบบช่วยจอดรถ 3 รูปนั่งเอง
ส่วนในรุ่น
ULTRA นั้นก็เพิ่ม ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ระบบลดความเสี่ยงที่จะพลิกคว่ำ (ARS) ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก (BOS) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (LSEB) ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในภาวะฉุกเฉิน (ELK) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) ระบบช่วยเตือนป้ายจราจร ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตู (DOW)
สมรรถนะหลังทดลองขับ
ทริปนี้เป้นการขับแบบครึ่งวัน เพราะได้สลับกันกับสื่อ 2 คน ต่อ Jolion Sport 1 คัน จึงอาจจะมีเวลาไม่มาก แต่ก็พอสรุปได้หลังจากการขับขี่ว่า เรื่องของสมรรถนะที่เน้นความแรง ขับสนุกและสปอร์ต ยังจัดเต็ม ด้วยกำลังเครื่องยนต์ไฮบริด 190 แรงม้า การออกตัวหรือเร่งแซงทำให้ดี ทันใจ ตอบสนองไว้แม้จะเป็นโหมด Normal ก็ตาม ซึ่งในโหมดอื่นก็จะให้ความรู้สึกตามชื่อนั่นคือ Sport คันเร่งก็จะตึงเท้าและตอบสนองไว้มากขึ้นไปอีก แต่เมื่อใช้ความเร็วสูง ๆ ลอยลำไปแล้ว อัตราเร่งและความเร็วก็จะไม่แกต่างกันมากนัก ส่วนในโหมด Eco ก็จามชื่อเลยครับ เน้นประหยัดเร่งค่อย ๆ เป็นค่อยไป ไม่รีบนัก แต่ถ้าเติมคันเร่งลึก ๆ ก็ให้อัตราเร่งที่ดีพอ ๆ กับโหมดอื่น ๆ เลย และสุดท้ายโหมด Snow หรือในไทยก็คือ ถนนเปียกลื่น ระบบนี้จะลดทอนกำลังลงเพื่อให้คสบคุมรถง่ายในทางลื่น ๆ นั่นเองครับ
ในการขับขี่สามารถปรับน้ำหนักพวงมาลัยได้อีก 3 แบบ Light เบามากดุจบุยนุ่นขับในเมืองความเร็วต่ำ ๆ จะจอดหรือจะเลี้ยวสบาย, Comport เริ่มมีความหนืดขึ้นมาก และ Sport หนักหนืดขับความเร็วสูงดีมาก ๆ ระบบช่วงล่างส่วนตัวชอบเพราะแข็งกำลังดีในอารมณ์รถสปอร์ต แต่ก็ยังไม่กระเด้งจนเหนื่อยเท่าไหร่ และความเร็วต่ำ ก็ยังพอให้ความนุ่มนวลอยู่ ส่วนความเร็วสูง ๆ ก็เกาะ แน่น หนึบ ไม่ค่อยโยนตัวและอาการยุบตัวน้อย ถือว่า นุ่มและแน่นพอดี ๆ ระบบเบรก "แข็งเท้า" ไม่ค่อยสมูทและในความเร็วต่ำ ๆ มีอาการสู้เท้ากลับด้วย ต้องปรับน้ำหนักการเบรกอยู่ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นจะเหมือนขับรถกระตุกเลยครับ
ขับสบายแต่ไม่มีตัวช่วยแล้ว
หลายคนคงคุ้นเคยในการขับขี่โดยที่ไม่มีระบบตัวช่วยเตือนอะไรมากก่อน ดังนั้น อาจรู้สึกว่าไม่ต้องทำความเข้าใจและค่อยเปิด-ปิดระบบตลอดเวลาที่ไม่จำเป็นต้องใช้ หรือว่า "จ่ายค่าตัวสำหรับระบบที่ไม่ค่อยจำเป้นเท่าไหร่" ทาง GWM จึงเล็งเห็นเลยว่ารุ่น Sport นี่แหละจะต้องตอบสนองความต้องการลูกค้าในกลุ่นี้ได้อย่างที่สุด โดยส่วนตัวก้ยังคงชอบขับรถที่ไม่มีหรือปิดระบบช่วยขับขี่ในบ้างระบบออกไป เช่น ระบบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน เมื่อเจอสถานการณ์ต้องเบี่ยงรถไปชิดขอบทางด้านใดด้านหนึ่งเพื่อหลบหลีกสิ่งกีดขวางบนถนน เช่น หลุม ท่อ รถคนอื่น หรือแนวรั่วก่อสร้างรถไฟฟ้า ระบบนี่ก้จะดึงหรือบางคนเรียกว่า "ตบ" ให้เข้าเลน ผู้ขับจึงต้องฝืนบังคับพวงมาลัยให้ไม่ไปเฉี่ยวกับสิ่งกีดขวางนั้น ๆ เป็นต้น สรุปมาก้ต้องค่อยปิด เอาออกซะก็เรียบร้อย....
แต่สำหรับใครต้องการระบบช่วยขับขี่ต่าง ๆ เหล่านี้ ความจริงมีประโยชน์มาก ๆ ในการเดินทางไกลหรือถนนโล่ง ทางมืด ๆ และขับรถตอนดึก ๆ อาจเผลอหรือง่วง ระบบเหล่านี้ช่วยให้ขับได้ปลอดภัยมากขึ้นเลยครับ
สมรรถนะดีอัตราประหยัดกลาง ๆ แล้วแต่ชอบ
เรื่องของขุมพลัง ช่วงล่าง การขับขี่ นั้น Jolion ทำได้ดี ตอบสนองความขับแบบสปอร์ตได้ลงตัว ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองก็ขึ้นกับลักษณะและสภาพการขับขี่ของแต่ละบุคคล อย่างในวันทดสอบครึ่งวันที่มีเวลาไม่มาก จึงต้องการขับขี่ในรูปแบบสปอร์ตตามชื่อ ทั้งทดลองอัตราเร่งออกตัว เร่งแซง ขับขี่ในความเร็วสูง ๆ เพื่อสัมผัสระบบช่วงล่างและเบรก สรุปว่าจัดไป 12.6 กม./ลิตร ซึ่งหากมีโอกาสจะนำมาทดสอบใช้ในชีวิตประจำวันอีกครั้ง
สรุปความคุ้มค่ากับราคา ...
New HAVAL JOLION SPORT เป็นรถครอบครัวที่ยังให้ความทันสมัย อารมรณ์ดิบ ๆ อยู่ในสไตล์วัยรุ่นสายซิ่ง แตกต่างแนวสปอร์ตเข้มพร้อม และฟ้องโดยสารยังให้ความหรูหราในคันเดียว ทั้งปสอร์ตเข้มหรูหรา กว้างขวางนั่งสบาย ออปชั่นเพียงพอต่อการใช้งาน ไม่ต้องรำคาญระบบเตือนที่ไม่จำเป็นเท่าไหร่นักครับ มาพร้อม 4 สี ได้แก่ สีดำ (Sun Black) สีเทา (Ayers Gray) สีขาว (Hamilton White) และสีแดง (Burgundy Red) โดยสีรถภายในเป็นสีดำสีเดียว
ในวันที่ทำบทความนั้น (12 ก.ค.66) New HAVAL JOLION SPORT ยังไม่ประกาศราคาเป็นทางการแต่คาดว่าราคาจะปรับตามออปชั่นและคอนเซปต์ความเป็นสปอร์ตวัยรุ่นเข้าถึงง่ายราว ๆ 75X,XXX - 81X,XXX บาท และนอกจากนี้ก็ยังมีรุ่น ULTRA สุดหรูและความปลอดภัยมาครบถ้วนเทียบเท่าพี่ใหญ่ H6 อีกด้วย