เดี๋ยวนี้เป็นยุคที่หลายๆ คนหันมาเลือกใช้รถที่ใช้งานได้หลากหลาย ซึ่ง รถกระบะก็เป็นรถที่สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเกินทางไปกับครอบครัว หรือจะขนของเพื่อประกอบธุรกิจ แล้วยิ่งเดี๋ยวนี้ถนนหนทางในบ้านเรามักมีน้ำขังรอระบายอยู่บ่อยๆ ซึ่งการเลือกทำประกันภัยรถยนต์ สำหรับรถกระบะนั้นจะแตกต่างกับรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วๆ ไป ซึ่งท่านที่เป็นเจ้าของรถกระบะ-รถปิคอัพ ควรศึกษาวิธีการเลือกซื้อประกันภัยให้เหมาะกับคุณ และรถ
ซึ่งรถกระบะนั้นจะแบ่งออกเป็นประเภทหลักๆ คือ รถกระบะตอนเดียว, รถกระบะ 2 ประตู และรถกระบะ 4 ประตู โดยทั่วไปแล้วการทำประกันรถกระบะ 2 ประตู กับรถกระบะ 4 ประตู นั้นจะแตกต่างกันเล็กน้อยซึ่งคุณควรเลือกตามความเหมาะสม โดยสังเกตเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันก่อน เพื่อไม่พลาดสิทธิ์รับความคุ้มครอง และเช็กให้ดีว่ารถคุณตรงกับที่ระบุในกรมธรรม์สำหรับรถกระบะหรือไม่ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น รถยนต์ใช่ส่วนบุคคล ไม่ใช้รับจ้าง หรือใช่เช่า, รถยนต์ที่ใช้ส่วนบุคคล ทะเบียนพื้นขาวอักษรเขียว ไม่มีโครงเหล็ก/โครงหลังคา และรถยนต์บรรทุกที่ใช้เพื่อการพาณิชย์ รับจ้างหรือให้เช่า ใช้งานบรรทุก / ใช้โดยสาร ซึ่งความคุ้มครองก็จะต่างกัน (ตามความเสี่ยง) โดยที่ประกันบางบริษัทฯ จะไม่ให้ความคุ้มครองรถที่ใช้งานเชิงพาณิชย์ ฉะนั้นศึกษากรมธรรม์ให้ละเอียดก่อนนะ
การเลือกประกันรถกระบะหรือรถปิคอัพนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพความเสี่ยงของคุณเอง นี่คือสิ่งที่คุณควรพิจารณาเพื่อเลือกประกันที่เหมาะกับคุณ
- ประเภทของประกันรถ : หมายถึงชั้นของประกัน โดยประกันชั้นพื้นฐานจะคุ้มครองเฉพาะคู่กรณีที่เกิดอุบัติเหตุและความเสียหายต่อรถของฝ่ายที่สอง ในขณะที่ประกันชั้นความรับผิดต่อบุคคลภายนอกจะคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคู่กรณีและรถของคู่กรณี แนะนำว่าให้พิจารณาเลือกประกันชั้นความรับผิดต่อบุคคลภายนอกเนื่องจากมีความคุ้มครองครอบคลุมที่แน่นหนาและคุ้มครองความเสียหายทั้งของคุณและคู่กรณีที่เป็นบุคคลภายนอกได้มากกว่า
- ราคาเบี้ยประกัน : ควรเปรียบเทียบราคาเบี้ยประกันรถจากบริษัทประกันหลายแห่งเพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม อย่าลืมที่จะตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขการเรียกร้องสินไหม, ความคุ้มครอง และบริการอื่นๆที่รวมอยู่ในเบี้ยประกันด้วย
- ความคุ้มครองและเงื่อนไข : ศึกษาและเข้าใจในเงื่อนไขของกรมธรรม์อย่างละเอียด เพื่อทราบถึงสิทธิประโยชน์ที่คุณจะได้รับและข้อยกเว้นที่อาจเกี่ยวข้อง ตรวจสอบความคุ้มครองสำหรับการสูญเสียที่เกิดจากอุบัติเหตุ เช่น การชดเชยทรัพย์สินที่เสียหาย, ค่าซ่อมแซม, ค่ารักษาพยาบาล และค่าเสียหายอื่นๆ
- บริษัทประกัน : การเลือกบริษัทประกันก็ควรเลือกที่มีความน่าเชื่อถือ และประวัติของบริษัทประกันนั้นๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ความพร้อมในการจ่ายเงินสินไหมที่เกิดขึ้นในอนาคต และดูรีวิวหรือความคิดเห็นจากลูกค้าเพื่อประเมินประสบการณ์ที่คนอื่นมีกับบริษัทประกัน
- บริการหลังการขาย : การบริการหลังการขายที่ดีจะช่วยให้คุณมีความสะดวกสบายในการเรียกร้องสินไหม ตรวจสอบว่าบริษัทประกันมีบริการสนับสนุนฉุกเฉิน บริการชดเชยรถยนต์สำหรับช่วงเวลาที่ถูกซ่อมแซม และระบบการเรียกร้องสินไหมที่ง่ายต่อการใช้งาน
นอกเหนือจากนี้คำตอบของคำถามที่ว่า รถกระบะ หรือ รถปิคอัพ เลือกทำประกันแบบไหนดี? ก็อยู่ที่พฤติกรรมการขับขี่ว่าเหมาะกับประกันชั้นใด โดย ประกันรถกระบะชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด เบี้ยประกันมักจะราคาแพงที่สุดเช่นกัน แต่เหมาะกับ ผู้ขับขี่ที่ออกรถใหม่ หรือมือใหม่หัดขับ ต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุม ส่วนประกันรถกระบะชั้น 2+ เหมาะกับ ผู้ที่ขับรถชำนาญ หรือมักจอดรถในพื้นที่เสี่ยง, ประกันรถกระบะชั้น 2 เหมาะกับ ผู้ขับขี่ที่ใช้รถน้อย หลังจากนี้จะมีเรื่องของอายุรถเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเพราในประกันรถกระบะชั้น 3+ เหมาะกับ ผู้ขับขี่ที่ใช้รถน้อย และเหมาะกับรถยนต์ที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป และ ประกันรถกระบะชั้น 3 เหมาะกับ ผู้ขับขี่ที่ใช้รถน้อย ขับขี่ชำนาญ มีประวัติดีและเหมาะกับรถยนต์ที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป (อายุรถแตกต่างกันไปตามประเภทตัวถังจึงควรศึกษากรมธรรม์ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ)
และที่ขาดไม่ได้ควรศึกษาว่าประกันรถกระบะที่คุณกำลังจะซื้อกับบริษัทนั้นๆ มีอู่ซ่อมในเครือใกล้ที่พักของท่านหรือไม่ เมื่อเลือกบริษัทได้แล้วก็อ่านและทำความเข้าใจเงื่อนไขของกรมธรรม์, วิเคราะห์ความต้องการของคุณ อย่าลืมเปรียบเทียบราคาของบริษัทประกันหลายๆ แห่ง เพื่อทำให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกประกันที่เหมาะสมและคุ้มค่าสำหรับคุณเองได้ เพราะบางทีบริษัทประกันที่เหมาะสมสำหรับคนอื่นอาจไม่ใช่กับคุณ ฉะนั้นคุณควรพิจารณาตามความต้องการและสถานการณ์ของคุณเองก่อนตัดสินใจ