การซื้อประกันรถยนต์นั้นก็เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองสำหรับในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดเสียหายต่อรถยนต์, ชีวิต และทรัพย์สินโดยในส่วนนี้จะเป็นกรมธรรม์ภาคสมัครใจ หมายถึงจะทำหรือไม่ก็ได้ นอกจากนี้ก็ยังมี พ.ร.บ.รถยนต์ หรือ ประกัน พ.ร.บ. ซึ่งจะเป็นกรมธรรม์ภาคบังคับที่รถทุกคันจะต้องมีเพื่อให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประสบภัยจากการใช้รถ โดยไม่สนใจว่าบุคคลนั้นจะเป็นฝ่ายผิด หรือถูก โดยจะได้รับความคุ้มครองตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ในในพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งจะต้องต่ออายุในทุก ๆ ปี และเป็นหนึ่งในหลักฐานที่จำเป็นต่อการต่อภาษีรถยนต์ด้วย แต่หลายๆ คนก็เลือกที่จะทำประกันรถยนต์กับบริษัทประกันต่างๆ (ที่เป็นกรมธรรม์ภาคสมัครใจ) เพื่อรับความคุ้มครองในส่วนต่างๆ
การเลือกทำประกันภาคสมัครใจกับบริษัทต่างๆ นั้นก็เพื่อความสบายใจและเพื่อรับคุ้มครองที่จะกับคุณและรถครอบครัวของคุณ เพราะประกันรถที่ทำขึ้นนั้นจะช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่คุณหรือผู้อื่นเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทั้งยังคุ้มครองค่าความเสียหายหรือค่าซ่อมแซมในกรณีที่รถยนต์ของคุณได้รับเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และยังช่วยคุ้มครองค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับคู่กรณี หากคุณเป็นผู้รับผิดชอบในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอีกด้วย การมีประกันภัยสำหรับรถยนต์ครอบครัวนั้นจะช่วยให้คุณมีความมั่นใจในการใช้งานรถ และรู้สึกปลอดภัยว่าคุณมีการคุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุขึ้น
ในการทำสัญญากรมธรรม์ประกันภัย หรือการต่อสัญญากรมธรรม์ประกันภัยจะมีบรรทัดที่เขียนว่า ระบุชื่อผู้ขับขี่ นั้นก็หมายความว่า ประกันภัยรถยนต์นั้นจะมีทั้งแบบระบุคนขับ กับ แบบที่ไม่ระบุคนขับ การทำประกันแบบระบุตัวผู้ขับขี่ได้นั้นในกรณีที่คุณใช้รถเพียงคนเดียวหรือใช้ภายในครอบครัว การระบุชื่อสามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดเบี้ยได้ โดยจะอิงกับเกณฑ์อายุ (ช่วงอายุ 18-24 ปี รับส่วนลดเพียงแค่ 5%, ช่วงอายุ 25-35 ปี รับส่วนลด 10%, ช่วงอายุ 36-50 ปี รับส่วนลด 15% และ ช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป รับส่วนลด 20%) โดยทางบริษัทประกันฯ จะให้คุณระบุชื่อคนขับได้มากสุด 2 คน
โดยขั้นตอนการทำประกันภัยรถครอบครัว นั้นแบ่งออกเป็นขั้นตอนหลักๆ ได้ดังนี้
- รวบรวมข้อมูล : เตรียมข้อมูลเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับการทำประกันรถ เช่น ข้อมูลส่วนตัวของคุณและครอบครัว ประวัติการขับขี่ของคุณ ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ เป็นต้น
- ค้นหาและเปรียบเทียบประกันรถ : ทำการสำรวจและเปรียบเทียบแผนประกันรถจากบริษัทประกันต่างๆ เพื่อพิจารณาตัวเลือกที่เหมาะสมตามความต้องการและงบประมาณ
- ขอใบเสนอราคา : เมื่อคุณเลือกแผนประกันรถได้ที่ตรงตามความต้องการแล้ว ก็ติดต่อบริษัทประกันเพื่อขอใบเสนอราคา ระบุข้อมูลที่ต้องการให้ครบถ้วน เช่น รายละเอียดรถยนต์, เงื่อนไขการใช้งาน และความคุ้มครองที่ต้องการ
- พิจารณาเงื่อนไข : อ่านและศึกษาเงื่อนไขของแผนประกันรถที่ได้รับมาอย่างละเอียด ให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจและยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดแล้วจริงๆ
- จ่ายเบี้ยประกัน : หลังจากที่คุณตกลงว่าจะรับแผนประกันดังกล่าวแล้ว ก็ทำการจ่ายเบี้ยประกันตามที่กำหนด ในปัจจุบันสามารถจ่ายที่จุดบริการ, ตัดบัญชีบัตรเครดิต และสามารถผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตได้ตามเงื่อนไขที่ทางธนาคารและบริษัทประกันกำหนด
- รับกรมธรรม์ประกัน : หลังจากที่จ่ายเบี้ยประกันเรียบร้อยแล้ว บริษัทประกันจะทำการส่งกรมธรรม์ประกันซึ่งเป็นเอกสารที่ยืนยันว่าคุณได้ทำประกันรถแล้ว อ่านกรมธรรม์อย่างละเอียดและตรวจสอบว่าข้อมูลทั้งหมดถูกต้อง
- รักษากรมธรรม์ประกัน : เก็บรักษากรมธรรม์ประกันให้ปลอดภัย อาจจะทำการถ่ายเอกสารเก็บไว้ในตัวรถก็ได้
- รับความคุ้มครอง : ในกรณีเกิดเหตุ ให้ติดต่อบริษัทประกันทันทีเพื่อแจ้งเหตุการณ์และขอความช่วยเหลือตามเงื่อนไขที่กำหนดในกรมธรรม์
*ติดต่อกับตัวแทนประกันหรือบริษัทประกันที่คุณสนใจเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนและเอกสารที่จำเป็นต้องมีสำหรับการทำประกันรถของคุณ
เท่านี้รถครอบครัวของคุณก็พร้อมที่จะได้รับความคุ้มครอง ส่วนที่ว่า ทำประกันรถครอบครัว แบบระบุชื่อ vs ไม่ระบุชื่อ แบบไหนดี? คุณคงต้องเป็นคนตัดสินใจ ข้อดี-ข้อเสีย ให้ดีก่อน สรุปสั้นๆ ได้ว่า การทำประกันแบบไม่ระบุชื่อจะได้รับความคุ้มครองจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ รวมถึงผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยไม่ได้คำนึงถึงผู้ขับขี่ว่าเป็นใคร ส่วนกรณีระบุชื่อนั้นเวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วคนขับไม่ใช่ชื่อที่ระบุไว้ จะเคลมได้หรือไม่ คำตอบคือสามารถเคลมได้ เพียงแต่ หากบุคคลที่ไม่ได้มีชื่อระบุไว้ในกรมธรรม์เป็นคนขับและเกิดอุบัติเหตุสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นฝ่ายถูก หรือหากบุคคลที่ไม่ได้มีชื่ออยู่ในกรมธรรม์เป็นฝ่ายผิด บริษัทประกันยังคงรับผิดชอบอยู่ แต่อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนที่คุณผิดเงื่อนไขของประกันแบบระบุคนขับนั่นเอง