Hyundai stargazer รถ MPV พลัง 1.5 ลิตรไม่ธรรมดา ดีไซน์สุดล้ำทั้งภายนอกภายใน โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกสบาย มาตรวัดจอขนาด 4.2 นิ้ว ระบบความบันเทิงบนจอกลางขนาด 8 นิ้วรองรับการเชื่อมต่อ
Apple CarPlay และ
Android Auto แบบไร้สาย และสั่งสตาร์ตเครื่องยนต์ผ่านรีโมทได้อีกด้วย นับเป็นครั้งแรกในรถเซกเมนต์นี้
ทริป “สตาร์เกเซอร์ ความสบายไม่มีที่สิ้นสุด” (STARGAZER the Ultimate Comfort) ทดสอบขับขี่แแบเดินทางผ่านเส้นทางทดสอบที่ครอบคลุมระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร บนเส้นทางระหว่างภูเก็ตและพังงา ที่สามารถพิสูจน์สมรรถนะการขับขี่ทั้งทางราบและทางโค้ง โดยเป็นรุ่นรุ่น Smart แบบ 6 และ 7 ที่นั่ง พร้อมผู้ร่วมเดินทาง 2 คน
Hyundai STARGAZER ไม่จำเจ ของเล่นเยอะ
ฮุนได สตาร์เกเซอร์ (Hyundai Stargazer) นับเป็นมินิ MPV ที่คุ้มค่ามากที่สุด เพราะมีระดับราคาอยู่ในระดับตรงกลางระหว่างรถจากค่ายคู่แข่งประเภทเดียวกัน จุดเด่นคือ การดีไซน์ที่อาจจะแล้วแต่มุมมอง แต่ที่แน่ ๆ คือ ฉีกแนวออกไปจากที่เคยเห็น คล้ายกับรถรุ่นพี่อย่าง
STARIA ที่มีเอกลักษณ์เป็ยของตัวเอง โดย STARGAZER จะเน้นความกลมมนแตกต่างจากรถเจ้าตลาด ไฟหน้าและกระจังหน้าที่แปลกตาแต่กลับโดยเด่น ไฟท้ายแล้วแต่ความชอบ แต่ส่วนตัวแล้วดีไซน์ภายนอกสวย เพราะรู้สึกถึงความไม่จำเจ และไม่เป็นรถทรง "กล่องมากนัก"
ภายในนับเป็นจุดเด่นที่ยิ่งแตกต่างโดยมีรายละเอียดสอดแทรกเอาไว้มากมายเต็มคัน แม้ว่าการใช้วัสดุต่าง ๆ ได้หรูหรา แต่ก็ดูเหมาะสมกับราคาออกไปทางดีด้วยซ้ำ โดยเฉพาะการออกแบบการจัดวางฟังก์ชั่น มาตรวัดและหน้าจอ รวมถึงคอนโซลกลางที่ทำให้รู้สึกว่าดูฉีกแนว ล้ำสมัย และเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมาก ๆ
คอนโซลหน้าออกแบบได้ไม่ซ้ำใครจริง ดูล้ำอนาคนเบา ๆ เริ่มด้วยมาตรวัดแบบดิจิทัล 4.2 นิ้ว แสดงรายละเอียดฟังก์ชั่นทั้งหมดของรถยนต์ได้ชัดเจน ไม่สะท้อนตา และยังดูทันสมัยกว่าคู่แข่งพอสมควร และสามารถเปลี่ยนรูปแบบหน้าจอได้ตามโหมดการขับขี่ที่เลือกใช้อีกด้วย พร้อมกับที่วางเก้บสิ่งของ ช่องวางขวดหรือแก้วน้ำ รวมถึงจุดจ่ายไฟต่าง ๆ เต้มทั้งคัน
พวงมาลัยหุ้มหนังคุณภาพสมราคาและดีไซน์แปลกตา แต่ก้ให้ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ พร้อมปุ่มควบคุมหน้าจอและเครื่องเสียงแบบครบ ๆ ใช้งานง่ายด้วยการแยกปุ่มสั่งงานระบบต่าง ๆ ให้ใช้ได้ทันทีไม่ต้องเข้าเมนูลึก ๆ ให้ยุ่งยาก และสามารถปรับระยะได้ 4 ทิศทางอีกด้วย
เชื่อมต่อแบบไร้สายเจ้าแรกของรถระดับนี้..!
ถัดมาตรงกลางจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่พิเศษตรงสามารถเชื่อมต่อทั้ง AppleCarPlay และ Android Auto ได้โดยไม้ต้องใช้สาย เพียงเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth ได้ทันที..! นับเป็นรุ่นแรกของรถเซกเมนต์นี้ และมาพร้อมกับระบบแท่นชาร์จไร้สาย (Wireless Charger) อีกด้วย พลังเสียงรอบตัวจากลำโพง 6 ตำแหน่ง ช่องเชื่อมต่อ USB มีให้ครบทุกแถว พร้อมช่องสพหรับวางสิ่งของหรือจะวางโทรศัพท์ กุญแจบ้าน ฯลฯ และไม่ลืมช่องสำหรับไฟขนาด 12V
ส่วนของระบบควบคุมแอร์เป็นดิจิทัลและโหมดอัตโนมัติ แต่ไม่แยกปรับอิสระ ซึ่งก็ให้ความเย้นที่เกินพอ เพราะมีระบบดูดลมเพื่อเป่าไปผู้โดยสารตอนหลังที่ให้ลมทั่วถึงทั้งคันแม้แดดจะแรงและรถไม่ติดฟิลม์ก็ยังฉ่ำทั่วทั้งคัน คอนโซลกลาง
เบาะนั่งตอนหน้านั่งสบายนุ่มและไม่บีบรัดเกินไป มีพื้นที่เหลือให้พอขยับตัวได้แบบหลวม ๆ ไม่อึดอัดนัก แต่ตำแหน่งนั่งของเบาะหน้าข้างคนขับมีความสูงเมื่อนั่งเก้าอี้โซฟา จึงอาจจะทำให้รู้สึกตัวลอยบดบังมุมมองของคนขับทางด้านซ้าย
และเมื่อเปิดประตูผู้โดยสารตอนหลังที่สามารถเปิดได้กว้างทำให้เข้าออกสบาย ตัวเบาะแถว 2 นุ่มนวลและนั่งสบายเช่นกัน พร้อมพับปรับเพิ่มพื้นที่ได้แบบแบบราบ และนอกจากนี้เบาะแถวที่ 3 ตัวเบาะมีขนาดเล็กสั้นทั้งเบาะนั่งและพนักพิงหลัง และหัวหนอนดันหลังเต็ม ๆ ต้องยืดหมอนรองศีรษะขึ้นมาให้พอดีจึงนั่งได้ และมีพื้นที่ไม่แตกต่างจากคู่แข่ง 7 ที่นั่งระดับเดียวกัน แต่ด้วยความนั่มนวลของตัวเบาะเองก็ทำให้นั่งได้สบายตัว และยังมีพื้นที่เหนือศีรษะมากพอสมควรอีกด้วยครับ
ใส่ใจรายละเอียดบางจุด แต่ก็ลืมบางจุด
แม้ว่าจะเป็นรถขนาดและราคาไม่สูงนัก แค้ด้วยความใส่ใจในการออกแบบภายในห้องโดยสารจึงมีพื้นที่ใช้ประโยชน์เยอะ ทั้งที่วางแก้วน้ำทั่วทั้งคันกว่า 30 ตำแหน่ง และยังมีช่องเก็บของ ลิ้นชักลับ ที่วางแขน และโต๊ะสำหรับวางของด้านหลังเบาะข้างคนขับสามารถรับน้ำหนักได้ 3.5 กก. และที่ช่องมือจับประตูด้านในยังทำร่องมือจับเอาไว้ (ทำไม) ซึ่งไม่แน่ใจว่ามีประโยชน์อย่างไร แต่ก็นับว่าไม่ค่อยเห็นในรถยนต์ทั่วไปนัก
ที่บังแดดและกระจกมองข้างไม่ปรับเสียงอัตโนมัติ ที่บังแดดอาจดูใช้วัสดุไม่ทนทานมีความบาง และมีกระจกเพียงฝั่งข้างคนขับ นอกจากนี้เมื่อใช้งานที่บังแดดฝั่งคนขับไปหน้าหน้าจนติดกระจกบังลมกลับพบว่า "ติดขอบกระจกมองหลัง" ซึ่งอาจเป็นเพราะการย้ายจากรถยนต์ขับฝั่งซ้ายมาขวา แต่ไม่ได้ปรับอุปกรณ์บางส่วนตามมาด้วย ซึ่งก็ถือว่าพอรับได้
จากส่วนของไฟท้ายดีไซน์โดดเด่น จึงมีข้อควรระวังเมื่อเปิดฝาประตูท้ายขึ้นมา ต้องระวังส่วนด้านข้างที่ยื่นออกมา หากยืนอยู้ด้านมุมข้างรถซ้ายหรือขวาไม่ทันสังเกตุ เมื่อเปิดหรือปิดฝาท้าย มุมของฝาท้ายที่เป็นส่วนที่หลบโคมไฟอาจจะถูกศีรษะได้ ซึ่งอาจจะต้องใช้ความระวังมากขึ้น
สมรรถนะการขับขี่ ออกตัวดีเร่งแซงไม่อืดเหมือนที่คิด..!
เครื่องยนต์ Smartstream MPI DOHC D-CVVT 1.5 ลิตร NA เกียร์ IVT (หรือ CVT นั่นแหละ) กำลังสูงสุด 115 แรงม้า แรงบิด 144 นิวตันเมตร กับรถรถขนาด 1.2 ตันเศษคันนี้ แว็บแรกคือ ก็คงงั้น ๆ เร่งหนืด ๆ ไปแบบเรื่อย ๆ แต่เมื่อได้ลองขับจริงกลับดีกว่าที่คิดไว้ จากการเร่งออกตัว แตะคันเร่งไม่ลึกมากนัก ก็ตอบสนองได้ค่อยข้างไว รถก็พุ่งตัวออกไปอย่างไม่หงุดหงิด การตอบสนองของคันเร่งต่อลิ้นปิกผีเสื้อและรอบเครื่องยนต์ที่ทำงานร่วมกับเกียร์นั้นปรับมาได้ดี ทำให้ไม่รู้สึกว่านี่คือรถ MPV น้ำหนักตัวเยอะขนาดนี้
เมื่อเร่งความเร็วลอยตัวไปแล้ว เติมคันเร่งเพียงเล็กน้อยความเร็วก็ไหลขึ้นแบบชิว ๆ ไม่รอบนานนัก และเมื่อทดสอบการเร่งแซงแบบ "คิกดาวน์" การตอบสนองทั้งรอบเครื่องยนต์และระบบเกียร์ค่อนข้างไวทันใจ เร่งแซงได้ทันใจในระดับหนึ่ง นอจกานี้เสียงเครื่องยนต์ก็ไม่ดังเข้าห้องโดยสารมากนัก อาจจะถือได้ว่า "เงียบที่สุดในกลุ่มนี้" แต่ด้วยความที่เป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กน้ำหนัตัวเยอะ ก็อาจจะมีบางครั้งที่รอรอบอยู่บ้าง ซึ่งตัวเลขอัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. จากโรงงานเคลมไว้ประมาณ 11 วินาทีกว่า ๆ นับว่าไม่เลวเลยสำหรับครอบครัวไซซ์นี้ครับ
ช่วงล่างดีเก็บแรงสั่นเทือนเนียบ และให้ความหนึบเกาะ ออกไปทางแข็งเล็กน้อย แต่ความแข็งนี้ก้ช่วยให้มั่นใจในการขับที่ความเร็วสูง ๆ นอกจากนี้พวงมาลัยยังมีน้ำหนักกลาง ๆ มีความฝืดเล็กน้อย ไม่หนักหรือเบาหวิว นั่นคือน้ำหนักเท่ากันทั้งความเร็วต่ำและควมเร็วสูง การเข้าโค้งยาว ๆ ในความเร็วสูงทำได้รถมีอาการย้อยหรือไม่ยวบมากนัก ขับขี่สบายไม่เกร็งมือในการควบคุมพวงมาลัย และระบบเบรกแม้จะเป็นดรัมหลัง แต่ให้การตอบสนองดีและเบรกได้มั่นใจ
Hyundai SmartSense สมูทแม่นยำ
ระบบความปลอดภัยที่นับว่าโดดเด่นคือ ระบบเตือนรถออกนอกเลนพร้อมดึงกลับอัตโนมัติ และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง ซึ่งสามารถทำไงได้แม่นยำแม้ใช้กล้องเพียงตัวเดียว แต่มีความนุ่มนวล แม่นยำและเนียนมาก ไม่ต่างกับรถในเซกเมนต์หรู โดยเฉพาะระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลนนั้น ทำงานได้สมูทไม่ส่ายไปมาและยังสามารถบังคับรถในทางโค้งมาก ๆ ได้สบยา ๆ (โดยผู้ขับต้องประคองพวงมาลัยตลอดเวลา) ระบบเตือนก่อนชนด้านหน้าและเบรกอัตโนมัติที่ทำงานความเร็วต่ำไม่เกิน 60 กม./ชม. และระบบเตือนรถขณะถอยหลังพร้อมเบรดอัตโนมัติ เหมาะกับการขับขี่ในเมืองมาก ๆ ซึ่งยังมีระบบอีกเพีบ เช่น ระบบช่วยควบคุุมรถให้อยู่กลางเลน ระบบเตือนและช่่วยคุุมพวงมาลัยเมื่อมีรถในจุุดอับสายตา โดยมีระบบระบบเตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้างเพิ่มมาอีก นับว่ามีครบถ้วนไม่แพ้รถในเซกเมนต์ใหญ่
สรุปความคุ้มค่า
โดยรวมแล้วจากการทดสอบขับขี่ทางไกลยาว ๆ ระยะทาง 200 กม. อาจจะตอบหรือทดลองระบบต่าง ๆ ได้ไม่ครบถ้วนนัก แต่ว่าในเรื่องการขับขี่เดินทางหรือแม้แต่นั่งโดยสารนั้น Hyundai Stargazer ถือเป็นมิติใหม่แห่งรถยนต์ทรง MPV ที่มีสมรรถนะดีพอตัว ช่วงล่างเนียบ นุ่มสบายและยังเกาะถนนเกินคาด ฟังก์ชั่นความสะดวสบายและความปลอดภัยที่ให้มาเกินกว่าคู่แข่ง ประกอบกับราคาที่เหมาะสมในยุคนี้ ในบรรดารถทรงนี้ในประเทศไทยทั้งหมด ณ ปัจจุบัน คงต้องยอมให้ Stargazer เป็นรถที่น่าจะคุ้มค่ากับราคาที่สุด ส่วนเรื่องความสวยงาม ประโยชน์ใช้สอยหรือภาพลักษณ์ต่าง ๆ ของแบรนด์นั้น ผู้อ่านหรือผู้ซื้อคงต้องตัดสินใจเองครับ แนะนำว่าต้องไปทดลองขับด้วยตัวเองก่อน เปรียบเทียบหลาย ๆ รุ่น ค่อยตัดสินใจยังทันไม่ต้องรีบร้อน!