ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

รีวิวในรีวิวอีกทีกับ MG4 Electric ที่เค้าว่า "รถยนต์ไฟฟ้าใช้ง่ายประหยัดคุ้มจริงหรือ?"

icon 20 มิ.ย. 66 icon 16,907
รีวิวในรีวิวอีกทีกับ MG4 Electric ที่เค้าว่า "รถยนต์ไฟฟ้าใช้ง่ายประหยัดคุ้มจริงหรือ?"
หลังจากที่ได้เคยทดสอบขับขี่ MG4 Electric ในสนามปทุมธานีสปีดเวย์ก่อนวันเปิดตัวไปแล้ว แต่ก็ป็นการขับขี่แบบในสนาม ทดสอบขับแบบดุดัน ทั้งเข้าโค้งแรง ๆ สลาล่อม อัตราเร่ง และเบรกแบบกระทันหันมาหมดแล้ว ยับว่าสมรรถนะดีเยี่ยมมาก เมื่อเทียบกันราคาค่าตัวระดับนี้ แต่ด้วยความสงสัยส่วนตัวว่า "ถ้าขับใช้งานในชีวิตประจำวัน" แบบบนถนนทั่วไป ทั้งเจอรถติด อากาศร้อนจัด เปิดแอร์แรง ๆ จอดรอในรถนาน ๆ แวะสถานีชาร์จ โดยที่ยังไม่มีตู้ชาร์จที่บ้าน จะรอดไหมและเรื่อของระบบช่วยเหลือความปลอดภัยต่าง ๆ ใช้งานจริง Ok แค่ไหน 
สำหรับรถที่นำมาทดสอบแน่นอนว่าต้องรุ่น "X" ท็อปสุดอยู่แล้ว เพราะยังไม่มีรุ่น "D" ให้ลอง แต่ก็มีข้อแตกต่างไม่เยอะมากนัก หลัก ๆ คือ ชุดแต่ง ไฟหน้า LED คนละแบบ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ตัดออกไปบ้าง เช่น ระบบควบคุมรถในอยู่ในเลน เตือนมุมอับสาย หรือเตือนขณะถอยหลัง เป็นต้น แต่สมรรถนะและระบบช่วงล่างพื้นฐานยังเหมือนกันหมด ทั้งหมดนี้เป็นการนำมาขับใช้งานในชีวิตประจำวันของผมเอง มาดูว่าจะมีอะไรน่าประทับใจและไม่น่าประทับใจในแงมุมไหนบ้าง
 

1.วิ่งจริง หายไปราว 50 กิโลเมตร 

 
MG4 Electric ถูกเคลมว่าวิ่งได้ 425 กม. * (NEDC) แต่เมื่อใช้งานจริง ต้องหักออกไว้ 50 กิโลเมตร (โดยประมาณ) เพราะการใช้จริงจะมีรถติด รถเร่งแซง ออกตัวแรง ขึ้นทางชัน เบรกและเร่งบ่อย ๆ รวมถึงการเปิดการแอร์ให้เย็นสู้แดด ระบบก็จะทำงานเอะกินไฟตามไปด้วย แต่รวม ๆ แล้วระบบแอร์ก็ไม่ได้ใช้ไฟเยอะมากนัก  เพราะว่าแม้จะชาร์จเต็ม 100 เปอร์เซ็ฯต์ แต่ส่วนใหญ่ได้แค่ 99 เปอร์เซ็นต์ จะได้ระยะทางวิ่งจริงบนหน้าปัดที่ 350  - 360 กิโลเมตร และระยะทางจะเพิ่มหรือลดก็จะถูกคำนวนตามการขับขี่จริงแบบเรียลไทม์อีกทีหนึ่งครับ
ในวันที่รับ MG4 มาแบตเตอรี่อยู่ที่ 97 เปอร์เซ็นต์ จากจุดนัดรับซอยรามคำแหง 92 ไปย่าน 5 แยกวัชรพล แบตฯ เหลือ 91 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นไปธุระแถวสะพานใหม่ซอย 67 และขับต่อเนื่องไปออฟฟิศราชประสงค์อีก จากนั้นไปทำธุระต่อที่ถนนข้าวสาร และก็กลับบ้านพักวัชรพล ตลอดทั้งวัน วิ่งไปด้วยระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร โดยระดับแบตฯ คงเหลือที่ 57 เปอร์เซ็นต์ถือว่ายังชิว ๆ
 
โดยในวันรุ่งขึ้นก็ขับไปชาร์จตู้ DC ที่ EV STATION สาขาสุขาภิบาล 5 ผ่านการจองในแอปฯ ก่อน ใช้เวลาในการชาร์จจาก 56-57 เปอร์เซ็นต์  จนถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ถึง 25 นาที ก็เต็ม และเวลาในการจองไว้ยังเหลืออีกกว่าจะตัด (55 นาทีต่อการชาร์จ) ก็ปล่อยให้ไหลไปเรื่อย ๆ จนถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ในเวลา 57 นาที ค่าไฟแค่ 110 บาท เท่านั้น รวมค่าจองอีก 20 บาทไปแล้ว    
 
จากการใช้งานส่วนตัวจริง ๆ นั้น ใช้งานเยอะเพียงไม่กี่วันต่ออาทิตย์  ถ้าเป็นการขับขี่แบบปกติจะใช้แค่ 60 กิโลเมตรเท่านั้น นับว่า 2 - 3 วันชาร์จ 1 ครั้งยังสามารถทำได้ แต่ถ้าสะดวกก็ควรจะชาร์จไฟให้เยอะเอาไว้ก่อน เพื่อกรณีฉุกเฉินต้องใช้รถจะได้ไม่ลำบากเกินไปครับ
 
 
ในวันถัดไปขับขี่ใช้ธุระส่วนตัวในช่วงเช้าประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร ต่อด้วยขับไปร้าน Take a Breath café & eatery ถนนบางเชือกหนังและกลับบ้านอีกรอบ โดยระยะทางวันนี้ขับไปทั้งหมดราว 90 กิโลเมตร ดหลือแบตฯ 56 เปอร์เซ็นต์เท่าเดิม และวันรุ่งขึ้นก็นำไปชาร์จเช่นเดิมครับ    
 
ในวันต่อมาอยากลองของวิ่งไกล ๆกว่านี้จึงขับไปจิบกาแฟชิว ๆ ที่ Amazon แถวคลองลำโพ บางบัวทอง นนทบุรี  และต่อด้วยแวะทานข้าว สุกี้ดานัง T.Thailand Batminton Arena และกลับบ้าน รวมและก็ยังไม่ถึง 100 กิโลเมตร สรุปว่า MG4 ขับในกทม. หรือ ปริมณฑล ยังไงก็ไม่เกิน 100 กิโลเมตร ถึงแม้จะขับวนไป ๆ มา ๆ อย่างไร ถ้าไม่เกิน 250 กิโลเมตรต่อวัน รับรองได้ว่าใช้งานได้สบาย ๆ เลยครับ   
 

2.สมรรถนะแรงจริงไหม

มอเตอร์ไฟฟ้าที่เพลงหลังขับเคลื่อนล้อหลังกับแรงบิด 250 นิวตันเมตร สามารถพุ่งตัวออกไปโดยไม่รอรอบ ทำให้การเร่งออกตัว เร่งแซง ทำได้ทันใจกว่ารถเครื่องยนต์เทอร์โบ หรือ ดีเซลเทอร์โบทั่ว ๆ ไป (ที่แรงม้าและแรงบิดใกล้เคียงกัน) แต่ด้วยความที่เป็นมอเตอร์ การเร่งจะมีความรู้สึกดึงและแรงในช่วงเริ่มขยับความเร็ว แต่เมื่อช่วงกลางในขณะที่เร่งตอเนื่องอยู่ จะไม่รู้สึกถึงแรงดึงและยิ่งช่วงปลาย ๆ ความเร็วก็จะแผ่ว ๆ ลง ซึ่งอาจแตกต่างกับเครื่องสันดาปแรง ๆ ที่จะรอบรอบและจะค่อย ๆ สนุกในช่วงกลาง ๆ และปลายของอัตราเร่งขณะนั้น กล่าวคือ MG4 ต้นจัดดึงหนัก-กลางและปลายเหี่ยวนิด ๆ ครับ แต่กว่าจะหมดแรงความเร็วทะลุ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และไปนิ่งจนถึงความเร็วที่ล็อคเอาไว้ในเวลาไม่นานนัก!  
 
สมรรถนะนับว่ากดคันเร่งเมื่อไหร่ก็มาตลอดไม่รอบรอบใด ๆ ให้หงุดหงืด และจะไปแผ่ว ๆ ปลายเล็กน้อย แต่จุดประสงค์ของ MG4 แค่เพียงเน้นความประหยัด ขับสนุก คล่องตัว และประหยัดพลังงาน ดังนั้น หากยิ่งเร่งแรง ๆ เท่าไหร่  ไฟฟ้าในแบตฯ ก็ลดลงตามสัดส่วนเท่านั้นครับ  ซึ่งก็ไม่ได้ลดมากมายจนขับเร็วไม่ได้เลย เพราะจากที่ได้ขับมาหลายวันนั้น ไม่ค่อยได้ขับช้า ๆเท่าไหร่ เร่งแซงบ่อย ๆ ก็ยังประหยัดอยู่พอสมควรครับ แต่ข้อควรระวังคือ หากกดคันเร่งอย่างรวดเร็วท้ายอาจจะดิ้น ๆ หน่อยเพราะระบบขับเคลื่อนล้อหลัง แต่ก็มีระบบควบคุมการทรงตัวและป้องล้อหมุนฟรีช่วยเอาไว้ แต่อย่างไรก็ต้องทำความคุ้นเคยก่อนนะครับ 
 

3.ช่วงล่าง 5-LINK ดีไหม

ระบบช่วงล่างแบบยุโรปแท้จริงกับ 5-LINK ที่ช่วยในการเข้าโค้ง ทรงตัว ในทุกสภาวะ อย่างที่เกริ่นไว้ว่าก่อนหน้านี้ได้ลองขับในสนามปิดปทุมธานีสปีดเวย์มาแล้ว บอกเลยว่าการควบคุมดี พวงมาลัยคมกระชับ เกาะถนนและหนึบมาก เมื่อเทียบกับรถในระดับ C-Sagment หรืออาจจะดีกว่ารถรุ่นใหญ่ ๆ บางรุ่น  
 
ระบบเบรกเมื่อเหยียบจะรู้สึกตึง ๆ เท้าหน่อยไม่ธรรมชาติหรือคุ้มเคยเหมือนรถยนต์สันดาป แต่ก็ให้ความมั่นใจได้ เบรกหยุดสบาย และระบบช่วยเหลือและควบคุมการทรงตัวจะประคองรถให้ไม่เสียหลัก นับว่าเป็นการทำงานประสานกันอย่างลงตัวเลยครับ

4.ระบบช่วยเหลือขับขี่และความปลอดภัยดีไหม

ระบบช่วยเหลือการขับขี่มีทั้งชอบและไม่ชอบเลย มาดูสิ่งที่ไม่ชอบก่อนอันแรกคือ ระบบป้องการรถออกนอกเลนพร้อมดึงกลับอัตโนมัติ ระบบนี่ดีช่วยให้ปลอดภัยในการเดินทาง แต่หากใช้งานในตัวเมือง การจราจรหนาแน่นระบบนี้จะน่ากลัวทันทีครับ  เพราะว่าแม้เราเพียงแค่เอียงพวงมาลัยหลบฝาท่อ หลุม หรือรถคันอื่น ๆ ที่เข้าใกล้ โดยที่ยังอยู่ในเลนตัวเอง ระบบนี้ไม่สนใจจะทำหน้าที่ในการขืนพวงมาลัยกลับให้รถอยู่ตรงกลางเลนเสมอ ทำให้บางครั้งต้องฝืนแรงในการบังคับทิศทาง ยกเว้นว่าเปิดไฟเลี้ยวทุกครั้งที่โยกหลบ!!!
 
 
ระบบจอดเกียร์ว่างในกรณีจำเป็นต้องจอดขวาง เข้าไปเลือกฟังก์ชั่นลึก และมีขั้นตอนที่อาจจะต้องทำบ่อย ๆ จนชิน แต่ยอมรับว่ายังง่ายกว่ารถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นหรือดีกว่ารถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดยุโรปบางรุ่นที่ไม่มีฟังก์ชั่นเกียร์ด้วยซ้ำ ทั้งนี้การจอดเกียร์ว่างนั้นไม่มีในต่างประเทศ การเพิ่มฟังก์ชั่นเกียร์ว่างนี้ขึ้นมาของรถยนต์หลาย ๆ ค่ายก็เพื่อประเทศไทยโดยเฉพาะครับ 
 
ฟังก์ชั่นการใช้งานผ่านหน้าจอเกือบทั้งหมดใช้งานยาก กดยากเมื่อรถกำลังวิ่ง และต้องละสายตาจากถนนมากพอสมควร แม้จะมีปุ่มลัดบนพวงมาลัย แต่ก็ไม่คลอบคลุมการสั่งงานอื่น ๆ ที่จำเป็นในระหว่างขับขี่ เช่น เปิด-ปิดระบบช่วยเหลือต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการใช้งาน หรือ ระบบเลือกวิทยุ หรือ ปรับแอร์ที่ต้องจิ้มนิ้วให้แม่น ๆ บนหน้าจอสัมผัส
 
หน้าจอมีขนาดใหญ่มองเห็นการแสดงผลได้เยอะ แต่ว่าตัวหนังสือเล็กไปหน่อยทำให้มองลำบาก และยิ่งรถเคลื่อนที่อยู่ยิ่งมองยากขึ้นไปอีก อาจจะต้องใช้งานให้คุ้มเคยมาก ๆ ในแต่ละฟังก์ชั่นหรือเมนู จึงจะสามารถปรับสวิตช์บนหน้าจอได้ง่ายขึ้น    
 
*วิธีปลดเกียร์ว่าง.....
1.จอดรถกด "P" กดสวิตช์เกียร์
2.เข้าหน้าจอเลือกรูป รถยนต์-เลือกเมนูบาร์ด้านบน "ความปลอดภัย" และ เลื่อนสวิตช์ "ปลดล็อคเกียร์ว่าง"
3.เหยียบเบรกและรอไฟสีส้มที่ตัวอักษรบนเกียร์ขึ้น 
4.หมุนไปตำแหน่ง "N" อาจจะยากหน่อยแต่มือต้องนิ่ง 
สิ่งที่ชอบคือ....
แรง ขับสนุก ช่วงล่างดีเกาะหนึบพอตัว และได้ฟิวลิ่งขับเคลื่อล้อหลัง เหมือนรถสมัยก่อนหรือรถยุโรป ประหยัดไม่ง้อน้ำมัน ราคาไม่แรงกินไป การบำรุงรักษาง่าย ค่าใช้จ่ายต่ำกว่ารถยนต์สันดาป ขนาดตัวรถกลาง ๆ ไม่เล็กเกินไปและไม่ใหญ่ คล่องตัวในเมืองและการจอด ระบบความปลอดภัยเยอะ ที่สำคัญวิ่งได้ระยะทางไกลเพียงพอกับที่ใช้งานจริง ๆ 
สิ่งที่แนะนำเพิ่มเติม.....
เปลี่ยนยางใหม่ให้หน้ากว้างและรุ่นยางที่เกาะขึ้น เพราะแรงบิดเยอะมากทำให้ มีอาการอิ้น ๆ บ้างในการเร่งแซงหรือกลับรถ และเมื่อเยอะถนนเปียก ยางติดรถมาไม่ค่อยเกาะเท่าที่ควร 
ระบบไฟหน้าปรับสูงต่ำอัตโนมัติไม่ค่อยแม่นยำ บางครั้งในที่มืดแต่มีรถยนต์คันอื่นส่วนทางมา ระบบก็ยังเปิดไฟสูง จึงต้องปิดใช้งานไป ระบบเตือนและดึงกลับเวลารถออกนอกเลน ดึงแรงมาก และไม่ค่อยสมู้ทเท่าไหร่ กล้องรอบคันมีแอบดับบางครั้ง ต้องดับรถและสตาร์ตใหม่ถึงจะหาย
 
ห้องสัมภาระท้ายแคบและเตี้ยใส่ของสูง ๆ ไม่ได้ ฝาท้ายไม่มีระบบไฟฟ้า ที่วา่งแก้วน้ำอยู่ใต้แท่นเปลี่ยนเกียร์ต่ำเกินไปหยิบลำบาก ไม่มีช่องแอร์หลัง ทั้งหมดยอมรับได้เมื่อแลกกับสมรรถนะและความเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนราคาต่ำกว่าล้านครับ 

5.เสียค่าใช้จ่ายในการชาร์จเท่าไหร่ (ไม่มี Wall changer)

จากการใช้รถ MG4 Electric คันนี้มา 5 วันการชาร์จไฟฟ้าอยู่ที่ 3 ครั้ง เฉลี่ยตกครั้งละ 100 - 110 บาท แล้วแต่กรณีบางครั้งชาร์จไม่ถึง 99 เปอร์เซ็นต์ (เพราะขี้เกียจรอแล้ว) โดยรวมทั้งหมดก็ใช้เงินไปไม่ถึง 400 บาท กับการใช้งานรวมทั้งหมด 5 วัน ระยะทางก็ราว ๆ  350 กิโลเมตร นับว่าประหยัดมาก และยังได้ขับสนุก ๆ แบบไม่ต้องระวังเปลืองอีกด้วยครับ 

สรุปหลังจากใช้งานมา 5 วัน

MG4 Electric ส่วนตัวแล้วถ้าเลงรถยนต์ไฟฟ้าราคาระดับไม่เกินล้านเอาไว้ "ซื้อแน่นอนครับ" ด้วยความชิวเวลาจะขับไปที่ไหน ๆ หากระยะทางไม่เกิน 200 กิโลเมตรต่อวันใช้งานสบายหายห่วง การจองเวลาหรือการแวะชาร์จที่สถานีก็ไม่ลำบากมากนักแลกกับค่าไฟเพียง ไม่เกิน 200 บาทต่อครั้ง นับว่าฟินสุด ๆ และใช้เวลาในการชาร์จสั้น ๆ ก็ได้ 80% กับระยะทาที่เพิ่มมาอีกเกิอบ 100 กิโลเมตร พอที่จะกลับบ้านได้แล้ว 
 
สมรรถนะอัตราเร่งแบบ "วาร์บ" แม้จะไม่ได้แรงจนแซงรถสปอร์ตเครื่องใหญ่แต่ก็ให้อารมณ์ดึงแบบหลักหน่วงไม่รอรอบ กำลังมอเตอร์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนล้อหลัง 170 แรงม้า ด้วยแรงบิด 250 นิวตันเมตร แม้ว่าความเร็วจะล็อกไว้ประมาณ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ให้อัตราเร่งกับแรงบิดระดับนี้เทียบเท่าหรือมากกว่ารถเบนซิน 2.5 ลิตร เลยด้วยซ้ำไป ประกอบกับตัวรถขนาดนี้ เร่งทีตัวปลิวเลยครับ  
 
 
แต่....ระบบช่วยเหลือการออกนอกเลนและควบคุมรถให้อยู่ในเลนยังไม่ค่อยสมูทเท่าไหร่ กระชากไปมา และขยันเตือนขยันดึงสู้มือ แม้เบี่ยงออกเพื่อหลบมอเตอร์ไซค์หรือรถที่ขับกินเลนเพียงเล็ก พวงมาลัยจะตึงมือมาก ทำให้ใช้งานในเมืองหรือการจราจรหนาหนาแน่นลำบาก นอกจากนี้การตั้งค่าความปลอดภัยต่าง ๆ ส่วนใหญ่ ก็ต้องตั้งใหม่ทุกครั้งที่ดับและติดเครื่อง ไม่สามารถจำค่าก่อนหน้าได้ 
 
ด้วยตัวรถที่เป็นแฮตช์แบ็ก 5 ประตู อาจจะดูคันไม่ใหญ่นัก แต่ภายในนับว่ากว้่งขวางพอ ๆ กับ ซิตี้ อัลเมร่า หรืออาจจะกว้างนิสสัน คิกส์ด้วยซ้ำไปครับ แต่ส่วนเก๋บของท้ายนั้นแคบและเตี๊ย วางสิ่งของในแนวสูง ๆ ไม่ได้มากนัก และแน่นอนว่าหากต้องการเดินทางท่องเที่ยว ต้องวางแผนการชาร์จให้ดี ๆ และมีแผนสำรองเสมอ ป้องกันตู้ชาร์จปิดเสียหรือคิวแน่น และไม่ควรเหลือไฟฟ้าในระบบต่ำกว่า 20% เพื่อถนอมแบตฯ 
 
 
สรุปโดยรวมแล้วเหมาะกับผู้ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อใช้งานเบา ๆ ในเมือง วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ขับโดยไม่กังวลค่าน้ำมัน เพราะอย่างไรค่าน้ำมันก็แพงกว่าไฟฟ้า คันเล็กคล่องตัว ผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน กำลังสบาย ๆ และต้องบอกว่าการหนีค่าน้ำมันมาใช้ไฟฟ้าก็ไม่เชิงเป็นการลดสิ่งแวดล้อมมวลรวมนัก แม้ว่าจะไม่ปล่อยมลพิษขณะขับขี่ แต่กระแสไฟฟ้าที่ได้มานั้น ถูกผลิตจากโรงผลิตไฟฟ้าที่อาจใช้ทรัพยากรจากธรรมชาติเช่นเดียวกันไม่ว่าจะใช้น้ำมัน, ถ่านหิน ส่วนพลังงานลมหรือแสงอาทิตย์ยังมีาดส่วนที่น้อยมากในปัจบุัน "ไม่ว่าจะใช้น้ำมันหรือไฟฟ้าก็ต้องเน้นใช้อย่างมีคุณค่า คุ้มค่า ประหยัดนะครับ"    
 
 
แท็กที่เกี่ยวข้อง mg MG4 ELECTRIC
CAR GURU
เขียนโดย สินธนุ จำปีศรี CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)