บีเอ็มดับเบิ้ลยู จัดทดสอบ รถยนต์ใหม่ 2 รุ่น
BMW iX xDrive40 Sport และ
330e M Sport หวดในสนามปิดปทุมธานีสปีดเวย์ แบบ Racing และ Emergency ลองทั้งสมรรถนะ อัตราเร่ง ช่วงล่างการควบคุม และการเบรกฉุกเฉิน บอกเลยอยู่แบบสบาย ๆ
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย นำสื่อมวลชนสัมผัสที่สุดแห่งสมรรถนะขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดและระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport และ i
X xDrive40 Sport ณ สนามปทุมธานีสปีดเวย์ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการควบคุมของตัวรถและการเข้าโค้ง (Handling) ฝึกการใช้งานระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ควบคู่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ทดสอบประสิทธิภาพการขับขี่ในด่านต่าง ๆ เช่น White Surface Circular Skid Pad, Double Lane Change และทดสอบสมรรถนะรถยนต์ด้วยเทคนิคการขับแบบสลาลม (Slalom) ทั้งนี้ ยังเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้นำรถยนต์ออกไปทดสอบสมรรถนะในเส้นทางขับขี่จริงเพื่อให้ได้สัมผัสกับความคล่องตัวในการใช้งานจริงและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ต่าง ๆ (Driving assistant) ที่ติดตั้งมาในตัวรถด้วย
มารู้จัก บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ใหม่ก่อนขับ
บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ยนตรกรรมสปอร์ตซีดานยอดนิยมมาพร้อมกับการปรับปรุงดีไซน์และเทคโนโลยีใหม่ทั้งภายในและภายนอก ด้วยการออกแบบสไตล์สปอร์ตหรูหราและเน้นการควบคุมที่คล่องตัว บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ได้สร้างมาตรฐานใหม่ล่าสุดให้กับความเพลิดเพลินในการขับขี่ในกลุ่มรถยนต์ระดับพรีเมียมขนาดกลาง
การปรับปรุงเฉพาะจุดบริเวณกันชนหน้าและกันชนหลังชูความโฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ตให้โดดเด่นกว่าที่เคย ไฟหน้าและกระจังหน้าทรงไตคู่แบบใหม่ส่งให้ตัวรถสะดุดตายิ่งขึ้น ไฟหน้า Adaptive LED ถูกออกแบบให้เรียวลง ส่วนไฟส่องสว่างตอนกลางวันถูกออกแบบใหม่ในรูปทรงตัว L กลับหัว มอบรูปลักษณ์ภายนอกที่กลมกลืนและล้ำสมัยกว่าเดิม ภายนอกของรถยนต์รุ่นนี้ยังตกแต่งภายนอกด้วยวัสดุสีเงาดำ พร้อมกับโคมไฟหน้าตกแต่งสีดำอีกด้วย
การออกแบบห้องโดยสารเน้นความทันสมัยและระบบดิจิทัลเป็นหัวใจสำคัญ โดยลดปุ่มสั่งงานต่าง ๆ เพื่อรองรับการควบคุมแบบสัมผัสและการสั่งงานด้วยเสียง หน้าจอแสดงข้อมูลขนาด 12.3 นิ้วหลังพวงมาลัยและหน้าจอควบคุมขนาด 14.9 นิ้ว ถูกผสานรวมกันเป็นจอแสดงผลดิจิทัลแบบโค้ง BMW Curved Display เพื่อสร้างการนำเสนอแบบดิจิทัลที่ให้ความคมชัดสูง ซอฟต์แวร์ที่มากับจอยังได้รับการอัปเกรดเป็นระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 ทั้งสามรุ่นย่อยมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Sport Steptronic และแป้นเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย รวมไปถึงคันเกียร์แบบใหม่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินปลั๊กอินไฮบริดและเทคโนโลยี TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที และแรงบิด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,350 – 4,000 รอบต่อนาที มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 80 กิโลวัตต์/109 แรงม้า และแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 265 นิวตันเมตร ด้วยกำลังรวมสูงสุด 215 กิโลวัตต์/292 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุดที่ 420 นิวตันเมตร รถยนต์รุ่นนี้มีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 5.8 วินาที ให้ความเร็วสูงสุดที่ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีอัตราการใช้ไฟฟ้าตามมาตรฐาน NEDC 16.42 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/100 กิโลเมตร
ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) และระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรค (ABS) ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อช่วยควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ยังมีระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เซนเซอร์ควบคุมความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง ระบบเตือนสถานะของยางอีกด้วย และระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง นอกจากนี้ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ยังสามารถใช้ประโยชน์จากบริการด้านดิจิทัลผ่านหน้าจอ BMW Live Cockpit Professional โดยสามารถตั้งค่าการแสดงผลต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ หรือเลือกช่องทางในการเชื่อมต่อสื่อสารและควบคุมได้ตามความถนัด ทั้งผ่านจอ Control Display ระบบสัมผัส ระบบการสั่งงานด้วยเสียง ระบบเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัดผ่านบริการ BMW ConnectedDrive และระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon เสริมความพึงพอใจและความสะดวกสบายในห้องโดยสารยิ่งขึ้น
ราคา 2,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปีหรือ 60,000 กม. )
มารู้จัก บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 Sport ใหม่ก่อนขับ
บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 Sport ใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าใหม่ล่าสุด พร้อมเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติและการเชื่อมต่ออีกมากมาย เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานยิ่งขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฟฟ้าซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสมรรถนะการขับขี่ในระยะยาวไกลยิ่งขึ้นและอัตราเร่งที่ทรงพลังด้วยความเร็วจาก 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.1 วินาที ส่งพละกำลังรวมสูงสุด 240 กิโลวัตต์ / 326 แรงม้า ระบบ BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ห้านี้ยังทำงานพร้อมเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุด มอบระยะทางขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าตามมาตรฐาน WLTP สูงสุด 372 - 425 กิโลเมตร และ 420 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC สร้างแรงบิดรวมได้สูงสุดถึง 630 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แรงดันสูงใน
บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 Sport ใหม่ มีความจุพลังงานสุทธิ 76.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 150 กิโลวัตต์ จึงสามารถชาร์จจาก 0% ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 34 นาที
เทคโนโลยีแชสซีที่ใช้ในการพัฒนาบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 Sport ประกอบด้วยเพลาหน้าแบบปีกนกคู่ เพลาหลังแบบ five-link ช่วงล่างแบบปรับระดับได้ และระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถขณะขับขี่ (Servotronic) แปรผันตามการหมุนและความเร็วเสริมด้วยยางที่มีชั้นโฟมบริเวณพื้นผิวด้านในเพื่อลดการเกิดเสียง
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ใหม่ที่ไม่ซ้ำใครของบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 Sport ใหม่ คือ ดีไซน์ภายนอกที่มีเส้นสายการออกแบบชัดเจนทรงพลัง แต่ยังคงความเรียบง่ายและบึกบึนสไตล์ SAV รายละเอียดขององค์ประกอบต่าง ๆ สื่อถึงความประณีตและความหรูหราล้ำยุค โดดเด่นสะดุดตาด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ที่เกือบปิดทึบ สะท้อนถึงนวัตกรรมการผลิตที่ล้ำสมัย ส่วนกล้องและเรดาร์เซนเซอร์ฝังอยู่ภายใต้พื้นผิวของกระจังหน้า โดดเด่นด้วยไฟหน้าและไฟท้ายที่เรียวยาวที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู มือจับประตูที่เปิดด้วยการกดปุ่ม หน้าต่างไร้ขอบ และฝากระโปรงท้ายบานใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่บริเวณท้ายรถทั้งหมด
การออกแบบภายในห้องโดยสารมุ่งนำเสนอแนวคิดของการใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ พื้นที่กว้างขวางและเบาะที่นั่งแบบใหม่ที่มาพร้อมกับพนักพิงศีรษะเสริมความหรูหรายิ่งขึ้น คอนโซลกลางมาในดีไซน์เฉียบไม่แพ้เฟอร์นิเจอร์หรู สวิตซ์ปรับเบาะนั่งคู่หน้า ปุ่มควบคุม iDrive และสวิตซ์เปลี่ยนเกียร์แบบ rocker switch ตกแต่งด้วยคริสตัล เติมเต็มความทันสมัยยิ่งขึ้นภายในห้องโดยสาร พร้อมเน้นย้ำถึงการออกแบบห้องโดยสารเพื่อผู้ขับขี่ด้วยจอ BMW Curved Display พวงมาลัยทรงหกเหลี่ยมและจอ Head-Up Display หลังคาภายในสีดำ Anthracite มาพร้อมกับระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Harman Kardon Surround Sound System ขนาด 655 วัตต์ พร้อมลำโพง 18 ตัว ที่สร้างประสบการณ์รับฟังที่ดีที่สุด
บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 Sport ใหม่ มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และนวัตกรรมหลากหลายเหนือกว่ารถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทุกรุ่น พร้อมเซนเซอร์เจเนอเรชั่นใหม่ ซอฟต์แวร์ใหม่ และแพลตฟอร์มในการประมวลผลที่ทรงพลัง ใช้กล้อง 5 ตัว เรดาร์เซนเซอร์อีก 5 ตัว และอัลตร้าโซนิกเซนเซอร์ 12 ตัวในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบคัน ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go เสริมการทำงานด้วยระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus) ประกอบด้วยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera) แสดงภาพพื้นที่โดยรอบของรถให้เห็นแบบสามมิติผ่านระบบ Remote 3D View พร้อมด้วยระบบ BMW Live Cockpit Professional และระบบสั่งงานอัจฉริยะ BMW Natural Interaction
ระบบความปลอดภัยในบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 Sport ใหม่ ได้รับการติดตั้งมาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยผู้โดยสารและผู้ที่อยู่รอบรถยนต์เป็นที่ตั้ง ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่อัตโนมัติ (ASC) ระบบควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน (DBC) ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (BA) เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash sensor) ระบบ Active Protection ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ระบบ Teleservices และปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call)
ขับสนุกควบคุมง่ายและปลอดภัยเกินคาด
จากการได้ทสอบขับขี่ทั้ง 2 รุ่น ต้องบอกก่อนเป็นการขับแบบสั้น ๆ ใช้เวลาต่อรอบไม่นานนัก สำหรับ BMW 330e M Sport นั้น ขับสนุกแรง และให้ความคล่องตัวมาก การเข้าโค้ง ควบคุมได้ดั่งใจ ตามความเร็วที่เหมาะสม พวงมาลัยเลี้ยวง่ายและคมจิกโค้งได้ดี ระบบเบรกและการหักหลบทำได้ดี ปลอดภัย การขับสลาลอมให้ความคล่องตัว เบาควบคุมง่ายและยังให้อัตราเร่งที่ทันใจมาก ๆ นับว่าเป็นรถซีดานที่ให้ทั้งความสปอร์ตและหรูหราพรีเมี่ยมกับระบบไฮบริด-ปลั๊กอินในราคาที่ลงตัวมาก ๆ
สำหรับอีกรุ่น iX xDrive40 Sport รถยนต์ไฟฟ้า 100% คันใหญ่ยักษ์แต่ให้ความคล่องตัวและสมรรถนะในการหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ดีและปลอดภัยไม่แพ้รถคันเล็กหรือรถเก๋ง แต่ระดับความแรงนั้นในสนามแห่งนี้ ยังมีที่วิ่งไม่พอ เพราะสามารถทำอัตราเร่งได้รวดเร็วมาก แต่เมื่อเบรกหรือเข้าทางโค้ง แม้มีอาการโยนตัวตามสไตล์รถตัวถังสูง SUV แบบนี้ แต่ความเกาะจากระบบ มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถควบคุมทิศทางได้ดี และในช่วงทดสอบหักหลบสิ่งกีดขวางใช้ความ 80 กม./ชม. พร้อมกระทืบเบรก รถสามารถจะจอดสนิทได้โดยไม่เสียอาการควบคุมแต่อย่างใด นับว่าปลอดภัยขั้นสุดจริง ๆ ครับ
สรุปว่า รถยนต์ทั้งรุ่นขับสนุก แรงสะใจและควบคุมได้ยอดเยี่ยมปลอดภัย แต่ว่า.......ก่อนที่จะซื้อสมรรถนะสูง ๆ ไม่ว่าจะรถยนต์เบนซินไฮบริดแรง ๆ หรือจะรถยนต์ไฟฟ้า 100% แรงบิดสูง ๆ สิ่งที่ควรทำคือ การฝึกอบรมและเรียบรู้ทักษะการควบคุมรถให้ชำนาญ รู้จักอาการของรถและแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างถูกต้องและมีสติครับ ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะเป็น "ฆาตกรบนท้องถนน" โดยไม่เจตนาก็ได้ครับ เพราะรถยนต์ขขับเองไม่ได้ไม่มีการควบคุมจากผู้ขับขี่นั่นเอง แม้ระบบขับอัตโนมัติ "คน" ยังเป็นคนเปิดระบบและต้องนั่งอยู่หลังพวงมาลัยอย่างมีสติ!!!!