Test on Road มิตซูบิชิ Xpander Cross เอ็มพีวีครอบครัวเที่ยวสบายลุยก็ได้

เมื่อมาถึงถนนขึ้นดอยฯ ที่มีความลาดชันขึ้นลง โค้งซ้ายขวาสลับตลอด ภายในรถที่มีผู้โดยสารรวมทั้งหมด 4 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระส่วนตัว ซึ่งรวมแล้วก็ยังไม่ถึงครึ่งที่ควรจะโหลดได้ การควบคุมทำได้ดีพอและไม่มีอะไรให้กังวล ตัวรถตอบสนองการให้น้ำหนักคันเร่ง เบรก และการเลี้ยวได้อย่างน่าพอใจในคลาสของ MPV ราคาต่ำกว่าล้านบาท เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร ยังให้พลังในการไต่ขึ้นได้ไม่ลำบากนักกับความชันของดอยช้าง แต่ช่วงเร่งแซงรถช้าบนทางชันขึ้นถนนแคบสองเลนทำให้การเร่งต้องฉับไวกว่าเดิม  เวลาคิกส์ดาวน์ลงไปรู้สึกที่แรงบิดที่ยังน้อยไปนิด แต่ถ้าให้จังหวะและระยะเผื่อพอดีก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แค่ต้องทำความเข้าใจการทำงานของตัวรถรุ่นนี้ให้คุ้นชิน การเข้าโค้งซ้ายขวากับรถที่มีช่วงระยะตัวยาวอาจมีรู้สึกถึงการเหวี่ยงถ้านั่งแถวสองหรือสาม แต่รุ่นนี้ยังทำได้ดีพอไม่มีใครรู้สึกจนเวียนหัวเหมือนรถจีนบางรุ่น คนเมื่อมาถึงร้าน ABONZO PARADISE ก็แวะพักดื่มกาแฟสัมผัสบรรยากาศบนที่สูงกันสักพักเสมือนการขับท่องเที่ยวจริงด้วยมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ใหม่ การจอดก็สะดวกด้วยกล้องมองหลังที่ชัดเจน 

หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศจนเริ่มง่วงก็ได้เวลาขยับเดินทางกันต่อ จากจุดนี้ไปสิงห์ปาร์คเป็นทางลงดาวน์ฮิลล์ที่ท้าทายและพิสูจน์การยึดเกาะกับการบังคับเลี้ยวในช่วงทางลงตัวรถมีอาการเหวี่ยงมากกว่าตอนอัพฮิลล์เป็นเรื่องปกติ แต่การควบคุมโค้งต่อโค้งก็ทำได้ไม่เครียด แค่ใช้ความเร็วและเกียร์ให้เหมาะสม จนมาถึงทางราบและเข้าสู้สิงห์ปาร์คเตรียมขับบนเส้นทางออฟโร้ดที่ทีมงานจัดเตรียมเป็นเส้นทางและสเตชันให้ทดสอบระบบ AYC (active yaw control) ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง โดยจะคุมล้อด้านในโค้งกับนอกโค้งให้สัมพันธ์กันเพื่อรักษาเสถียรภาพ และ ASC (active stability control) ระบบป้องกันการลื่นไถลเพื่อไม่ให้ตัวรถเสียการยึดเกาะ ซึ่งเส้นทางที่วางไว้ยาวประมาณ 15 กม. ผู้เขียนที่ขับลุยเข้าไปรู้สึกได้ถึงระบบช่วงล่างที่แน่นซับแรงสะเทือนจากถนนลูกรังได้ดีอย่างน่าพอใจ ซึ่งล้อที่ใช้เป็นขนาด 17 นิ้ว หน้ากว้าง 6.5j รัดด้วยยางขนาด 205/55 การขับตามกันในทางฝุ่นไม่อาจใช้ความเร็วได้อย่างที่คิดเพราะถ้าดำฝุ่นคันด้านหน้าก็เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ ทำให้ความตั้งใจในการใช้ความเร็วเข้าโค้งเพื่อลองจับอาการรถและสังเกตุการทำงานของระบบช่วยเหลือทำไม่ได้มาก จนมาถึงสถานีที่ทางทีมงานฯ ได้จัดเตรียมพื้นที่ไว้ให้เฉพาะ เริ่มจาก AYC ที่ปล่อยรถทีละคันให้เข้าโค้งซ้าย โดยแนะนำให้ใช้ความเร็วเข้าไม่ต่ำกว่า 40 กม./ชม. ผู้เขียนขับด้วยความเร็วที่คิดว่ามากพอ จนตัวรถเริ่มมีอาการอันเดอร์สเตียร์หรือหน้าดื้อโค้ง แต่ก็อดยกคันเร่งเพื่อแก้อาการเองไม่ได้ อย่างไรก็ตามก็มีโอกาสได้ลองตอนขับกลับที่ทางโล่งไกลจากรถด้านหน้า สามารถทำความเร็วได้ดีระดับหนึ่งและเข้าโค้งได้เร็วกว่าเดิม สังเกตุที่มุมล่างหน้าจอเรือนไมล์สีขนาด 8 นิ้ว มีกราฟฟิกรูปตัวรถพร้อมขึ้นสัญญานว่า AYC และระบบ traction control ได้ทำงาน เอาเป็นว่าผู้ใช้รถส่วนใหญ่ในกลุ่ม MPV คลาสนี้ที่เน้นเดินทางกันเป็นครอบครัวทั้งวันธรรมดาเพื่อไปทำงาน ส่งสมาชิกไปโรงเรียน หรือขับเที่ยวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ สามารถอุ่นใจได้มากขึ้นกับระบบช่วยเหลือที่เพียบพร้อมใน เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ใหม่ ซึ่งการใช้งานจริงๆ คงมีน้อยมากที่ใครครอบครัวไหนขับจนถึงข้อจำกัดตัวรถจนต้องให้ระบบช่วยเหลือเหล่านี้ทำงาน

สรุป มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ใหม่ ที่เปิดตัวตามหลังรุ่นจีที มีขุมพลังเหมือนกันคือ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ MIVEC DOHC 16 วาล์ว 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ่อนาที พร้อมระบบวาล์วแปรผันด้านไอดี ขับเคลื่อนได้อย่างราบรื่นด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ ECO-Dynamic CVT มีความสูงหรือระยะเคลียร์แลนซ์ใต้ท้องรถเท่ากันที่ระยะ 220 มม. แต่ช่วงล่างเซ็ตติ้งให้ลุยทางขรุขระได้มากกว่า และเพียบพร้อมกับด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันมากขึ้น เช่น ไฟหน้าออโต้ เรนเซนเซอร์ ระบบ AYC และรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูพรีเมียมและแกร่งกว่า ภายในห้องโดยสารเลือกใช้พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันที่หรูหรามากขึ้นเหมือนรุ่นปาเจโร่ สปอร์ต ส่วนเรือนไมล์เป็นดิจิตอลสีขนาด 8 นิ้ว โมเดิร์นมากขึ้น ถ้าเลือกแบบครบจบในคันเดียวได้ทั้งดีไซน์สวยหรูและฟังก์ชันที่มากกว่า ก็ต้องแลกด้วยราคา 946,000 บาท ที่มากกว่าเช่นกัน